มีคนหลาย ๆ คนบอกว่า ถ้าไปประเทศไหนอยากรู้วิธีชีวิต อาหารการกิน หรือความเป็นพื้นถิ่น พื้นเมืองของเขาจริง ๆ ต้องไปเที่ยวตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดสด ตลาดที่มีขายของทั่วไป ที่ไม่ใช่ในห้าง ซึ่งเราก็เห็นด้วยมากเลยนะ เพราะถ้าหากเปรียบเทียบกับประเทศไทย ตลาดนัดดัง ๆ เช่น ตลาดจตุจักร ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดรุ่งเจริญ ตลาด อตก. หลาย ๆ ตลาดทำให้เห็นอาหาร ผลไม้ ผัก และของพื้นถิ่นที่โด่งดังในเมืองนั้น ๆ ได้ดีทีเดียว วันนี้เราจะจึงอยากพามารีวิวตลาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นกัน นั่นก็คือ ตลาด โอมิโช (Omicho Market) เปิดมาตั้งแต่ปี 1721 ยาวนานตั้งแต่สมัยเดอโดะ ซึ่งที่นี่ขอบอกเลยว่า อาหารเด็ด ๆ มาสเตอร์พีซคือ อาหารทะเลสด ๆ อร่อย ๆ ชื่อตลาด : ตลาด โอมิโช (Omicho Market) ที่อยู่ : 50 Kami-Omicho, Kanazawa-shi, คานาซาว่า (Kanazawa) เว็บไซต์ : คลิก Google maps : คลิก ห้องน้ำ : มีบริหารห้องน้ำฟรีนะจ๊ะ สะอาดมาก เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน แต่บางร้านจะหยุดวันพุธ ซึ่งมีร้าน 2 ประเภท คือ 1.ร้านค้าเปิด 8:00-18:00 น. 2. ร้านอาหารเปิดประมาณ 11:00-21:00 น. สกุลเงินที่ใช้ในตลาด : เงินเยน การเดินทาง : นั่งรถเมล์ Loop Bus ลงป้าย เบอร์ 18 Omicho Market ข้ามถนนก็จะถึงเลย ทำไมต้องมาตลาด ตลาด โอมิโช : ที่นี่มีขายอาหารทะเลสด ๆ ร้านขายผัก ขายผลไม้ตามฤดูกาลของญี่ปุ่น มีร้านขายเนื้อสัตว์ ปลา นอกจากนี้ก็มีขายขนม เสื้อผ้า ดอกไม้ ร้านขายอาหารที่ให้นั่งทานในร้านก็มี ร้านขายของชำ ร้านขายของฝาก สรุปคือ ขายเกือบทุกอย่างเลย มีถึง 180 ร้าน ที่สำคัญมีถึง 2 ชลั้น มีชั้น 2 ด้วยในบางโซน การเดินก็เหมือนแบบเราเดินตามตลาด ที่มีหลากหลายซอย แต่ไปบรรจบกันตรงกลางทางแยก สภาพภายในตลาด : ไม่ต้องกลัวร้อนเพราะข้างในเป็นโดม สีขาว สว่าง มีอากาศเย็น กันฝน สามารถเดินซื้อของได้ตลอดทางเลย แล้วก็กว้างมากด้วย นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น 2 ก็มีอาหารทะเล มีร้านขายซูชิ ร้านขายอาหารมากมายหลายชนิด รีวิวอาหารเด่น ๆ ในตลาด ที่ถ้าไปแล้วห้ามพลาด 1. ปูสายพันธุ์ซูไวคานิ หรือที่หลายคนมักจะเรียกกันว่า ปูหิมะที่ขายาว ๆ เนื้อหวานมาก อร่อยมาก ซึ่งเขาจะขายเป็นตัว ไม่ได้ขายเป็นกิโลนะ ซึ่งจากภาพ 1 ตัวก็ประมาณ 1500 เยน หรือประมาณ 450 บาท ส่วนปูซูไวที่ขายาว ๆ จะแพงหน่อย 400 เยน หรือประมาณ 1,200 บาท มีบริการทุบเปลือก เอามาดูดได้เลย ซึ่งรสชาติแตกต่างจากปูตามร้านอาหารหรือขาปูตามร้านบุฟเฟ่ต์ แน่นอนเราคิดว่ามันน่าจะเป็นที่ความสดใหม่ ความหวานความแน่นของร้านอาหารกับที่ตลาดสดจึงต่างกันมาก นอกจากนี้ยังมีปูอีกหลากหลายพันธุ์ เช่น ปู Echizen ปู Taraba ที่จับได้แค่ทะเลในญี่ปุ่นเท่านั้น 2. กุ้ง กัสซึเอบิ หรือที่เรียกกันว่ากุ้ง GASU เป็นกุ้งที่มีไข่สีฟ้า และมีเปลือกที่กรอบ เป็นกุ้งที่ขึ้นชื่อของเมืองคานาซาว่ามาก ๆ เรียกได้ว่า หาทานได้แค่แถบ คานาซาว่าเท่านั้น 3. ปลาทะเล มีหลากหลายพันธุ์จะขายแบบชั่งกิโลขาย หรือขาเป็นเข่งปลาหาทานยากเช่น ปลาหมูย่าง ปลา NODOGURO ซึ่งก็มีขายแบบย่างเกลือด้วย แล้วก็มีปลาแห้งต่าง ๆ ขายด้วย 3. ผัก ผลไม้ในฤดูกาลต่าง ๆ ขอบอกว่าหลายร้านมาก ที่เดินเจอคือเกิน 20 ร้านที่ขาย ผัก ผลไม้ ใน 1 ซอย โดยเฉพาะผักท้องถิ่นที่หาไม่ได้จากภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ส้มยูสุ ที่นี่ก็ราคาถูกและหวานอร่อยด้วย กิโลละ 100 เยนเท่านั้น หรือประมาณ 30 บาท นอกจากนี้ยังมีผลไม้พื้นถิ่น เช่น ภาพด้านบนส้ม คือลูกแพร ลูกพลับ ลูกพีช เมล่อน ลูกอะเคบิ ลูกพลัม ฯลฯ 4. ร่ม ซึ่งเรามาหน้าฝนพอดีเลยได้มีโอกาสซื้อร่มด้วย มีแบบกดปุ่มเปิดอัตโนมัติ และปิดอัตโนมัติ อีกทั้งร่มกันแสงยูวี 99% ลายของร่มก็น่าซื้อเป็นของฝากเช่นกัน เช่น ลายภูเขาไฟที่มีลาวา ภูเขาไฟฟูจิ ภาพวาดของศิลปินญี่ปุ่นต่าง ๆ รวมไปถึงซามูไรเท่ห์ ๆ เรียกได้ว่าร่มที่ขายที่นี่ราคาไม่แพงเลยประมาณ 300-1150 เยน หรือ 120 – 350 บาท 5. ดอกไม้ ทั้งดอกไม้แบบจัดช่อ หรือขายไม้ดอกไม้ประดับในกระถาง ดอกไม้แปลก ๆ น่าซื้อไปถ่ายรูปดีเหมือนกันเพราะดอกไม้เหล่านี้หาชมได้ยากที่เมืองไทยเพราะมีที่เมืองหนาวเท่านั้น และก็ไม่มีในสวนสาธารณะด้วย ราคาก็ถูกมาก ช่อละ 128 เยน หรือ 38 บาท 6. ลูกอมรสนมฮอกไกโด ลูกอมวิตามินซี ขอบอกว่าที่นี่มีร้านป้าคนหนึ่งที่ขายราคาถูกมาก ขายขนมแบบ 88 เยนทุกห่อ หรือราคาประมาณ 27-28 บาทเอง 7. ร้านอาหารแนวนั่งทานในร้าน ซึ่งตลาดที่นี่เปิดตั้งแต่ช่วงเช้าใครจะมาทานก็สามารถมานั่งทานได้เลย มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารแบบฝรั่งก็มีนะจ๊ะ โดยที่นี่เค้าจะเน้นเรื่องอาหารทะเลเพราะฉะนั้นร้านซูชิเยอะมาก เป็นร้านแบบให้นั่งทาน ภาพที่ 1, 13, 19 จาก flickr1, flickr13, flickr19 ภาพที่ 2-12, 14-18 และภาพปก โดยผู้เขียน