ชวนมาชิมข้าวต้ม เห็นแล้วหิว สี่โมงครึ่งแล้ว เก็บของได้ครับ จบภารกิจไปอีกหนึ่งงาน สำหรับกิจกรรมการแจกบัตรนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี ทีมงานสาขาเดินมาบอก พี่คะ เจอกันที่ร้านข้าวต้ม เห็นแล้วหิว นะคะยุคนี้ไม่จำเป็นต้องถาม ว่าร้านอยู่ที่ไหน ไปยังไง เพียงแค่กด GPS นำทาง มันก็พาเราไปถึงร้านได้อย่างง่ายดาย พวกผมมาถึงร้านประมาณ 5 โมงเศษ ๆ มองผ่านรถตู้ยังไม่เห็นทีมงานสาขา และร้านก็ยังมีผ้าใบกั้นแดดยังไม่เปิดร้านนั่นเอง ร้าน เห็นแล้วหิว เป็นร้านข้าวต้มที่ใหญ่มาก เป็นตึกสองคูหาติดกัน และบริเวณด้านข้างเดินเข้าซอยไปนิดนึง มีตึกสามชั้นเป็นห้องแอร์ สาขาเลือกตึกนี้ดูใหม่กว่า และเป็นห้องแอร์ ทีมงานสาขานั่งรออยู่ด้านในแล้ว บรรยากาศด้านในโต๊ะสเตนเลสถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ พอทีมงานเราเข้าไปในร้าน จึงมีการปรับเปลี่ยนลากโต๊ะให้มาชิดติดกันเป็นโต๊ะที่ยาวกว่าใคร ๆ ฮ่า ๆ ๆ สาขาเริ่มสั่งอาหาร โดยบอกกับพนักงานว่า ทุกเมนูที่สั่งเอามาอย่างละ 3 ที่นะคะ เมนูแรก ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา จานนี้ 100 บาท ครับ ทางร้านจะถามก่อนว่าเอาปลาแบบเค็ม หรือ จืด น้องหนิงตอบหนักแน่น เอาจืด ค่ะ เนื้อปลาอินทรีย์นุ่ม จืดดี น้ำซ้อสเมนูปลาทอดน้ำปลาส่วนใหญ่ก็จะออกรสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ เป็นปกติ เอามาราดบนปลาอินทรีย์ดุเข้ากันดีครับ ทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวยร้อน ๆ นี่สุดฟิน จานต่อไป คะน้าหมูกรอบ คะน้าสดดีครับ คะน้าหมูกรอบ ราคาไม่ถึงร้อย แค่ 70 บาทเอง หมูกรอบจานนี้รสชาติพอดีเลยครับ มีความเค็มในพิกีดพอดี ไม่กระเทือนถึงไต ฮ่า ๆ ๆ ต่อด้วย ไส้หมูพะโล้ ไส้นี่ส้มมาเลย จานละ 60 บาท ผมใช้ตะเกียบคีบไส้เข้าปาก ไส้มีความนุ่มมาก ไม่เหนียวชนิดแบบว่าเคี้ยวไม่ออก น้ำพะโล้มีความหวานไปนิดนึง ไส้ต้องจิ้มกับน้ำส้มที่ทางร้านจัดมาให้ ช่วยตัดความหวานได้ดีอร่อยครับ และอีกเมนูที่ต้องสั่งเมื่อมาทานข้าวต้มคือ ไชโป๊วผัดไข่ ร้านนี้ผัดได้อร่อยทีเดียวครับ รสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ ไม่ถึงกับเค็มมาก ที่สำคัญใส่ไข่มาเยอะมาก ราคาเพียง 70 บาทเองครับ สั่งเมนู หมู ๆ ไปเยอะพอควร จนลืมน้องตาลที่เป็นอิสลามไปเลยครับ งั้นลอง หนามเลี๊ยบกุ้งสับ ดู หน้าตาดูน่าทานดี เพราะเป็นกุ้งราคาเลยขยับขึ้นมานิดนิง จานนี้ 90 บาท ผมลองชิมดูแล้ว รสชาติความเข้มข้นมันดร๊อปไป มันจืดไปนิดนึง เมื่อเทียบกับหมู จานต่อไปเมนูบำรุงสายตา ผัดบักบุ้งปลาเค็ม เคยแต่สั่งคะน้าปลาเค็ม วันนี้ลองผักบุ้ง รสชาติไม่เลวครับ ปลาเค็มมองเห็นชิ้นปลาเป็นปลา ไม่เหมือนบางร้านที่ขยี้เนื้อปลาซะเละ มองไม่เห็นเนื้อปลาเค็มเลย ปลาเค็มมีความเค็มพอดี น้ำผัดผักบุ้งก็รสชาติดีกลมกล่อม ดูทีท่าน่าจะเค็มมาก เพราะใส่ทั้งเต้าเจี๊ยว และปลาเค็ม แต่กลับทำรสชาติได้อร่อยลงตัว และราคาก็ดีด้วย จานนี้แค่ 70 บาท มาถึงทะเลแล้ว ขอลอง ทะเลลวกจิ้ม สักหน่อย ทะเลลวกจิ้ม ประกอบด้วยสามสหาย เนื้อปลา ลูกชิ้นปลา กุ้ง และปลาหมึก ความเห็นส่วนตัวเมนูนี้ ผมเฉย ๆ ชิมปลาจิ้มน้ำจิ้มไปหนึ่งชิ้น น้ำจิ้มแซ่บมาก เผ็ด ๆ ตามสูตรน้ำจิ้มทะเลมักจะเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ความหวานพอมีบ้าง หวานจิ๊ดเดียว เปรี้ยวเผ็ดนำโด่งครับ ราคาขยับขึ้นมาอีกนิดนึง ทะเลลวกจิ้ม จานละ 170 บาท ยำปลาสลิด สั่งไปนานละ ยังไม่มา ยำปลาสลิด จานนี้ 80 บาท ปลาทอดกรอบมาก ที่สำคัญเนื้อปลาไม่เค็ม ปลาไม่ได้หมักเกลือนานเหมือนร้านอื่น น้ำยำรสชาติดี ออกแนวสามรส เปรี้ยว-หวาน-เค็ม ทานกับข้าวต้มอร่อยลงตัว อาหารทะยอยมาไม่หยุด ยำกุ้งแห้งจานใหญ่ มาเสิร์ฟตรงหน้า จานนี้นอกจากกุ้งแห้งจะเป็นวัตุดิบหลัก ยังมีผักกาดดองกระป๋องอยู่ในจานอีกด้วย ยำคลุกเคล้ากับกุ้งแห้ง ขิงซอยเป็นเส้น ๆ และพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าลูกโดด ยำกุ้งแห้งจานนี้ราคาเท่ากับยำปลาสลิด รสชาติยำกุ้งแห้งจานนี้ออกแนวเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ ไม่มีรสหวานเลย จึงเหมาะที่จะทานกับข้าวต้ม ได้ Texture ความกรุบกรอบของผักกาดดอง เมนุสุดท้ายที่ผมชิมคือ ยำปลาดุกฟู จานนี้ราคา 120 บาท ปลาดุกฟูสัมผัสด้วยสายตา ทอดมาชนิดฟูกรอบเลยทีเดียว ตักเข้าปากกรอบ เหมือนดั่งตาเห็น น้ำยำที่จัดมา มองผิวเผินนึกว่ายำกุ้งแห้งจานย่อม กุ้งแห้งเยอะมาก เพียงแต่จานย่อมจานนี้ใส่มะม่วงเพิ่มเติมเข้ามา รสชาติน้ำยำออกแนวเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ มีหวานปะแล่ม ๆ จิ๊ดเดียว สรุปว่าเมนูทุกจานของร้าน เห็นแล้วหิว พ่อครัวคงควบคุมความหวาน ไม่อยากให้ลูกค้าทานหวานมากไป โดยภาพรวมอาหารทุกจานรสชาติดี ผมเพิ่งมาทานที่ร้านนี้เป็นครั้งแรก ความอร่อยนั้น เจ้าถิ่นเขารับรอง ถ้ารสชาติไม่ได้เรื่อง ทางร้านคงไม่ขยายตึกมากกว่า 2 คูหาแน่ และที่บริเวณด้านข้างยังมีตึกเปิดเป็นห้องแอร์อีก 3 ชั้น ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกมานั่งทานที่ห้องแอร์ ใครที่ผ่านมาแถวจันทบุรี มีโอกาสอย่าลืมแวะมาชิมข้าวต้ม และอาหารทะเลของร้าน เห็นแล้วหิว กันนะครับ วันนี้สวัสดีครับ หมายเหตุ : ที่ตั้งร้าน เลขที่ 67 ถนนมหาราช อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โทรศัพท์ : 039 301 327 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา : 16.00-4.00 น.