“ลองเด้…บะกุ๊ดเต๋" ไทยแลนด์. เป็นเมนูหัดทำครั้งแรก..แต่ก็หอมฟุ้ง...ไปทั่วบ้าน ของอร่อยแบบนี้ มีดีต้องแบ่งปันกันไปค่ะ ทำง่ายไม่ยากอย่างที่คิด ปรับปรุงใส่เพิ่ม หรือลดส่วนผสมตามที่หาได้ เป็นแนวไทยไทยของเราเองกันได้เลยค่ะ บะกุ๊ดเต๋ มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมานานแล้ว เรื่องเล่าก็จะมีลักษณะคล้าย ๆ กัน ก็ตรงที่บอกว่า บะกุ๊ดเต๋ จริง ๆ แล้วเป็นอาหารของคนจีน ซึ่งเป็นคนงานในท่าเรือ บะกุ๊ดเต๋ เป็นอาหารที่ทำกินง่าย และกินกับอาหารจำพวกเส้นเป็นก๋วยเตี๋ยว จะกินกับข้าวก็อร่อย หรือจะกินกับปลาท่องโก๋ก็ได้ อิ่มท้องแถมยัง มีสมุนไพรบำรุงร่างกายมากมาย เรื่องเล่าต่อกันมาอีกว่า บะกุ๊ดเต๋ มีต้นกำเนิดจาก เมืองฉวนโจว ในมณฑลฝูเจี้ยน หรือที่รู้จักกันคือเฉาซาน ปัจจุบันนี้กลายเป็นเมนูที่รู้จักกันทั่วโลก และนิยมรับประทานกันมากขึ้น จนกลายเป็นอาหารที่มีชื่อเสียง และถูกเลียนแบบ ปรับปรุงสูตรเพิ่มเติม เป็นแบบฉบับของตนเอง ยิ่งเมื่อพูดถึงสมุนไพร และเครื่องเทศในส่วนผสมของ บะกุ๊กเต๋ แล้ว จะเห็นได้ว่า มีคุณประโยชน์มากมาย จากพืชสมุนไพร อันได้แก่ โป๊ยกั้ก ตังกุย กระเทียม อบเชย กานพลู เมล็ดยี่หร่า และรากผักชี สรรพคุณของเครื่องเทศในเมนู “ลองเด้…บะกุ๊ดเต๋" ไทยแลนด์. ของเราในวันนี้ โป๊ยกั้ก มีประโยชน์มากมายอาทิ เช่น ช่วยขับเสมหะ เพิ่มภูมิต้านทานโรคต่าง ๆ ให้กับร่างกาย ต้านเชื้อไวรัสได้หลายชนิด ตังกุย หรือโสมตังกุย มีสรรพคุณในการรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน บรรเทาอาการปวดข้อ บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ กระเทียม มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยลดอาการแน่นจุกเสียด และกระเทียมสด ยังใช้รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ได้ด้วย อบเชย จัดเป็นสมุนไพรชั้นเลิศ มีประโยช์หลายอย่าง เช่น ต้านแบคทีเรีย และไวรัส ลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน รักษาระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยลดกลิ่นปากได้ กานพลู รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด รักษาอาการปวดฟัน และระงับกลิ่นปาก แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เมล็ดยี่หร่า สามารถช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ที่ทำอันตรายให้กับร่างกายของเราได้ดี รากผักชี ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้ไอ แก้หวัด แก้อาการกระหายน้ำ บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ รักษาอาการอาหารเป็นพิษ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด พริกไทขาว หรือ “พริกไทยล่อน” ใช้เป็นยาขับลม ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับเหงื่อ กระตุ้นประสาท ดังนั้น บะกุ๊ดเต๋ ถือว่าเป็นอาหารที่มากด้วยประโยชน์ จะรับประทานกับข้าว หรือบางครั้งอาจทำเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยวก็ได้ และมักจะมีปาท่องโก๋ไว้จุ่มกับน้ำแกง ก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ สำหรับเรา บะกุ๊ดเต๋ สามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา แต่ในชาวจีนแล้ว นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ากันมากกว่า ถ้าไม่ไปไหน... อยู่บ้าน กับเมนู "ลองเด้... บะกุ๊ดเต๋" ไทยแลนด์. กันนะคะ.🍲 สิ่งที่ต้องเตรียม 1.เครื่องเทศตุ๋นบะกุ๊ดเต๋ 1 ห่อ ใช้ยี่ห้อไหนก็ได้นะคะ เอาที่ชอบ และสะดวก 2.กระเทียมให้แกะเป็นกลีบใช้ 8 กลีบ 3.ซี่โครงหมูหั่นเป็นท่อน ขนาดพอประมาณ ไม่เล็ก หรือใหญ่จนเกินไป 4.เห็ดเข็มทอง 60 กรัม 5.เห็ดหอมสด 10 ดอก 6.น้ำเปล่า 7 ถ้วย 7.ซีอิ๊วดำใช้ 2 ช้อนโต๊ะ 8.คนอร์ซุปหมูก้อน 2 ก้อน 9.ต้นหอม ผักชีสำหรับโรยหน้า 10.พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่น 1 เม็ด 11.ต้นหอมหั่นฝอย 1 ต้น 12.ผัดกาดหอม 1 ต้น 13.รากผักชี 3 - 4 ต้น 14.พริกไทยขาว 1 ช้อนเล็ก วิธีทำ 1.นำซี่โครงหมูมาล้างน้ำให้สะอาด และนำมาหั่นให้ได้ขนาด หมักกับซีอิ๊วดำ ประมาณ 1- 2 ชม. วางพักไว้ก่อน 2.นำเครื่องเทศใส่หม้อต้ม ถ้าเครื่องเป็นแบบถุงผ้าก็ใส่หม้อได้เลยนะคะ (อย่าลืมโขรกรากผักชี และพริกไทยขาว ใส่ลงในหม้อต้มด้วย) 3.ตั้งหม้อต้มน้ำ พอให้น้ำเดือดใส่เครื่องเทศลงไป รอให้เดือดอีกครั้งจึงจะใส่ซี่โครงหมู (จะได้ไม่มีกลิ่นคาว ) กระเทียมกลีบ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และคนอร์ซุปหมูก้อนลงตามไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนเดือดอีกครั้ง หรือเคี่ยวทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที อย่าลืม!!! คอยช้อนฟองทิ้ง เพื่อให้น้ำซุปใส น่ารับประทาน (หากต้องการน้ำแกงเข้มข้น ให้ใช้ซีอิ๊วดำเพิ่มลงไป) 4. ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้แล้วลงไป เคี่ยวไฟอ่อนต่อไปอีก 20 นาที และตามด้วยเห็ดเข็มทอง 5.เคี่ยวจนได้ที่ ถึงจะจัดเสิร์ฟ ก่อนตักเสิร์ฟ จัดใบผักกาดหอมหั่นวางด้านข้าง พร้อมใบตังโอ๋ ก่อนตักซุปใส่ ควรโรยด้วยต้นหอม ผักชีหั่น จัดชามให้สวยงามดูน่ารับประทาน และใช้รับประทานกับซีอิ๊วเค็ม (เตรียมไว้รอ 1 ถ้วยเล็ก) โดยหั่นพริกชี้ฟ้าแดงลงไปในซีอิ้วดำ เกร็ดน่ารู้ ข้อแตกต่างที่มองเห็นได้ชัดเจน ระหว่างบะกุ๊ดเต๋แบบฮกเกี้ยน กับแบบแต้จิ๋วคือ แบบฮกเกี้ยนจะใช้ซีอิ๊วดำน้ำแกงจะมีสีข้นมากกว่าแบบแต้จิ๋ว. Cr.รูปภาพทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ