ติ่มซำคืออาหารจีนที่ใช้กินกับน้ำชา มีรูปแบบและสไตล์ที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่ได้รับการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารมาจากจีน โดยเฉพาะสไตล์ติ่มซำ ที่มี บะกุ๊ดเต๋ ซึ่งเป็นสไตล์ที่มาจากทางภาคใต้ของไทย ถือว่าเป็นติ่มซำที่มีเอกลัษณ์ และแปลกใหม่และหายากสำหรับคนที่อยู่ในเมืองกรุง วันนี้ผมได้เดินหาของกินในย่านอุดมสุข ซึ่งมีร้านอาหารมากมายหลากหลาย ทั้งรถเข็นริมทาง และทั้งในตลาด แต่ก็จะมีร้านเด็ดที่เห็นได้เด่นชัดอยู่ร้านหนึ่ง เนื่องด้วยมีบะกุ๊ดเต๋ ด้วยจึงถือว่าค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของร้านที่จะดึงดูดให้ได้ลองเข้าไปกิน ร้านนี้คือร้าน "ไคซิน ติ่มซำ อุดมสุข (Kaixin Dimsum)" ที่ร้านจะเป็นห้องแถว มีโต๊ะนั่งประมาณ 10 โต๊ะ จุดเด่นของร้านคือ ติ่มซำที่ร้านมีความหลากหลายมากมาย เรียงกันสวยงาม เลือกได้ยากเลยทีเดียว พอมาถึงโต๊ะก็เต็ม เลยต้องนั่งต่อคิวไปก่อนครับ โดยที่ร้านจะมีเก้าอี้ให้นั่งรอ และสามารถสั่งไว้ก่อนได้ เนื่องจากอาหารจะใช้เวลานึ่งใหม่ ประมาณ 6 นาที โดย เข่งนึงจะราคา 26 บาท ตอนนี้มีโปรซื้อ 10 เข่งแถม 1 เข่ง และราคาบะกุ๊ดเต๋ จะอยู่ที่ 145 บาท เมื่อติ่มซำมาถึง ก็มาเสิร์ฟพร้อมกับผักที่เรียกได้ว่าแปลกสำหรับติ่มซำ จนไม่รู้จะกินกับอะไร แต่ก็ใช้กินตัดเลี่ยนสำหรับ บางเข่งที่มัน ๆ ได้อย่างดี กินกับบะกุ๊ดเต๋ก็อร่อย ติ่มซำรสชาติค่อนข้างดี เนื้อหมู กุ้ง และ แป้ง ที่ใช้อร่อยเลย เนื่องจากมีหลากหลาย ทำให้กินได้ไม่เบื่อ แม้รสชาติจะไม่ได้ปังมาก แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่าดีทีเดียวครับ แนะนำให้สั่งอะไรแปลก ๆ เช่นตัวกุ้งที่อร่อยทีเดียวครับ เครื่องดื่ม ถ้าพูดถึงติ่มซำก็ต้องพูดถึงน้ำชา น้ำชาที่นี่มีให้เลือก ทั้ง “อู่หลงเบอร์ 12” และ “อู่หลงเบอร์ 17” โดยตัวอู่หลงเบอร์ 12 จะเข้มกว่า และให้กลิ่นออกไปทางผลไม้ ละมุนและขมกว่า เบอร์ 17 ที่มีรสนุ่ม กลิ่มหอมคล้ายดอกไม้ ครั้งนี้ผมเลือกกิน อู่หลงเบอร์ 17 แค่ได้รินลงบนแก้วก็ได้กลิ่นหอมชื่นใจ ดื่มหลังกินติ่มซำก็เข้ากันได้อย่างดีทีเดียวครับ ลื่นคอสุด ๆ มาถึงเมนูที่รอคอยอย่าง บะกุ๊ดเต๋ เมื่อมาเสิร์ฟก็ค่อนข้างแปลกใจทีเดียว ที่ร้านใช้เครื่องใน และ "ขาหมู" (ส่วนเท้า) นำมาทำเป็นเมนูต้ม คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยการนำเท้าหมูมาใช้ทำอย่างอื่นนอกจากต้มพะโล้ แต่ในจีนหรือเกาหลีก็จะนิยมกินกันตามปกติ โดยเฉพาะไต้หวัน ที่มีความเชื่อว่ากินเท้าหมูในวันปีใหม่จะช่วยเตะสิ่งไม่ดีออกไปอีกด้วย วันนี้ได้กินเมนูนี้ตอนช่วงปีใหม่พอดี ถือว่าโชคดีล่ะครับ เนื่องจากใช้ขาหมูมาทำแทนส่วนกระดูกหมู ทำให้ได้ไขมันและคอลลาเจนมากกว่าอีกด้วย รสชาติก็จะกลมกล่อมเข้มข้น หวานน้ำซุปที่มีเครื่องเทศจีน และกระดูกส่วนเท้าหมูที่มีมันและคอลลาเจนจากส่วนเอ็นต่าง ๆ ผสมผสานกันอย่างดีเครื่องในที่นี่ก็ใส่มาอย่างครบครัน เรียกได้ว่ารสชาติอร่อย ผักที่ให้กินด้วยก็แก้เลี่ยนได้ดีจริง ๆ ครับ ถือว่าผสานทุกสิ่งกันลงตัว ทั้ง บะกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ น้ำชา และผัก กินแล้วก็อยากจะสั่งต่อ แต่ก็ต้องพอเพราะพอมองคนที่นั่งรอคิวก็จ้องกันตาเขม็งเพราะความหิวแล้วครับ หากใครสนใจมาที่ร้านไม่ยาก เพียงลงสถานี BTS อุดมสุข แล้วเดินเข้าไปในซอยอุดมสุขประมาณ 400 เมตรก็จะเจอร้านอยู่ฝั่งซ้ายครับ