จริงๆ แล้ว “อาหารไทย” ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องยุ่งยาก วุ่นวาย เหมือนที่หลายคนคิด โดยเฉพาะเมนูที่จะมานำเสนอกันในวันนี้อย่าง “เต้าเจี้ยวหลน” ที่หารับประทานก็ยาก ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารไทยใหญ่ๆ หรือบางร้านตามตลาดก็ทำน้ำจนใสเหมือนน้ำซุป เสียอารมณ์ !! ที่บอกว่าไม่ยาก เพราะใช้วัตถุดิบเท่านี้เอง กะทิ 200 มล. เต้าเจียว แบบที่ยังเป็นเม็ดถั่วอยู่ 50 กรัม หมูบด 100 กรัม หอมหัวใหญ่ สับให้เล็กหน่อย พริกจินดา ถ้าไม่มีใช้พริกขี้หนูได้ แต่หั่นเล็กๆ บางๆ หน่อย เดี๋ยวจะเผ็ดเกิน น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนทำอาหารทุกครั้งอย่าลืมล้างมือให้สะอาด เริ่มจากบดเต้าเจียวในครก หรือถ้าไม่มีครกก็สามารถเข้าเครื่องปั่นได้ ส่วนใครชอบให้เต้าเจี้ยวละลายกับน้ำกะทิเลย ก็บด(ปั่น) ให้ละเอียดหน่อย สำหรับบางคนอาจจะอยากให้เห็นเป็นเม็ดเต้าเจี้ยวเล็กๆ บ้าง เพื่อจะได้สัมผัสในการเคี้ยว ก็ไม่ต้องบดนานเท่านั้นเอง จากนั้นเริ่มนำกะทิตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปละลายพร้อมกะทิ ตามด้วยเต้าเจี้ยวที่บดเอาไว้และหมูบด ค่อยๆ คนให้ทุกอย่างเข้ากันและหมูสุก ค่อยใส่พริกจินดาที่หั่นไว้ลงไปเพิ่มสีสันซักหน่อย เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย สังเกตได้ว่าวันนี้เราไม่ได้ใช้เครื่องปรุงที่ให้รสเค็มเลย เป็นเพราะเต้าเจี้ยวและกะทินั้น มีรสเค็มอยู่แล้วนั่นเอง แต่หากลองชิมแล้ว ยังรู้สึกว่าเค็มเกินไปก็สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้ แต่อย่าใส่เยอะมากอาจจะทำให้น้ำใสเกินไป แต่ถ้ารู้สึกว่ายังอ่อนเค็ม ให้ใส่น้ำของเต้าเจี้ยวลงไป จะดีกว่าใส่น้ำปลาหรือเกลือ ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลย !! หนุ่มๆ ลองเข้าครัวทำเมนูเต้าเจี้ยวหลน ให้คุณพ่อคุณแม่ นั่งรับประทานกันในครอบครัว ถือว่าเป็นเมนูบอกรักและแสดงถึงความห่วงใยได้ดีทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเมนูไทยๆ ที่คุ้นลิ้นแล้ว เต้าเจี้ยวหลนยังมักจะรับประทานคู่กับผักมากมาย เช่น ผักกาดขาว แตงกวา ถั่วฝักยาว หรือจะเป็นผักสลัดแนวใหม่ๆ ทั้งมินิคอส กรีนโอ๊ค สลัดแก้ว ก็ไม่ว่ากัน เผื่อท่านใดเบื่อผักจิ้มน้ำพริกแล้ว จะปันใจให้เต้าเจี้ยวหลนบ้าง การทำอาหารรับประทานเอง ความสุขและความสนุกอยู่ตรงที่เราได้ทำ ได้ทดลอง จากเมนูที่ยากเราลองมาปรับเปลี่ยน ดัดแปลง ให้เหมาะกับตัวเรา และทำให้ออกมาในรสชาติแบบที่เราชอบ ไม่จำเป็นว่าจะต้องตรงตามหลักการเสมอไป เท่านี้ทุกมื้อที่ทำ “คุณจะมีแต่รอยยิ้มและความอร่อย” ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน