น้ำผักปั่นหรือน้ำคั้นผักเป็นสิ่งที่มีมานานมาหลายร้อยปีมาแล้วแต่เดิมนั้นจะใใช้วิธีการคั้นหรือขยี่กับน้ำเพื่อให้ได้น้ำผักมาใช้ใม่ว่าจะใช้เป็นยาหรือใช้ประกอบอาหารอย่าง ย่านาง ที่คนส่วนมากทั้งภาคอีสานและภาคกลางนิยมนำมาคั้นเพื่อใช้รักษาเพื่อดับโรคพิษร้อน และให้ในการประกอบอาหารอย่างแกงหน่อไม้ซึ่งน้ำย่านางคั้นมีคุณสมบัติลดความเป็นพิษในหน่อไม้ อีกพืชอีกอย่างหนึ่งที่นิยมนำมาคั้นคืออินทนิลชาวปักใต้นิยมนำมาคั้นกับน้ำแล้วดื่มป้องกันการเป็นพิษของเลือดก่อนที่จะรักษาผู้ที่ถูกงูกัด สิ่งเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ในสมัยปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ยังมีอยู่แต่คนทั่วไปไม่ค่อยที่จะนึกถึงเท่าใดนักด้วยวิชาการสมัยใหม่เข้ามาแทนที่และขาดศึกษาเอาใจใส่จึงทำให้ของดีเหล่านี้เกิดการลืมเลือนไป แต่ในช่วง 10-15 ปี ที่ผ่านมานี้ผักคั้นน้ำได้เข้ามาเป็นอาหารทางยาหรือเครื่องดื่มทางยาอีกครั้งหลังจากที่ซบเซาไปนานนับหลายสิบปี แต่วิธีการนั้นได้มีความเปลี่ยนแปลงคือ จะใช้วิธีการคั้นแบบสมัยเก่าโบราณนานปีก็ได้หรือจะนำไปใส่เครื่องปั่นคั้นกรองน้ำหรือกินไปทั้งกากเลยก็ยังได้ไม่ผิดกัน แต่ถ้าจะให้เสนอควรที่กินทั้งกากเพื่อช่วยในการขับถ่ายและยังผลักดันของเสียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เพื่อไม่ให้เกิดโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆ ในช่องท้อง มีผักอะไรบ้างที่สามารถนำมาปั่นได้ (แนะนำ) ย่านาง อั่งเต็ก ใบหม่อน ย่าปักกิ่งไผ่น้ำ อ่อมแซบ ฯลฯ ผักเหล่านี้ในตำรับแพทย์ทางเลือกเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็นสามารถนำมาดับพิษร้อนในร่างกายได้ อีกทั้งผักเหล่านี้ยังอุดมด้วยสารอาหารต่าง ๆ อย่าง วิตามินและเกลือแร่ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย วิธีการทำนั้นโดยส่วนมากเเล้วจะใช้วิธีการปั่นเพราะมีความสดวกมากกว่าการคั้นน้ำและยังกินได้ทั้งกากเพื่อช่วยในการระบายท้อง จะปั่นแบบแยกหรือจะเอาผักหลาย ๆ ชนิดมารวมกันแล้วปั่นก็ได้ โดยการนำผักมาล้างน้ำให้สะอาดใช้กรรไกรตัดให้เล็กลงแล้วนำเข้าเครื่องปั่น เติมน้ำแล้วปั่นแยกกากกรองเอาน้ำออกแล้วเอากากกลับเข้าไปในเครื่องปั่นเติมน้ำแล้วปั่นใหม่ ทำเเบบนี้จนกว่ากากจะมีสีซีดลงถือเป็นอันใช้ได้ หรือจะปั่นแบบให้กากละลายน้ำแล้วดื่มทั้งกากก็ได้ เนื่องจากผักที่นำมาปั่นหรือคั้นน้ำเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็นสามารถดับพิษร้อนในร่างกายและแก้กระหายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังช่วยในการแก้อาการเหงื่อไหลไม่ออกเมื่อเจออากาศร้อนได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะเป็นเครื่องดื่มในช่วงฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี ภาพถ่ายโดย พงศธร อิ่มอุดม ผู้เขียนบทความ