ใครชอบกินแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นกันบ้างยกมือขึ้น คาดว่าน่าจะมีจำนวนไม่น้อยเลยล่ะที่นับเมนูนี้เป็นของโปรดอย่างนึงของตัวเองเลย มีเครื่องเทศหอม ๆ กับเนื้อสัตว์ กินกับข้าวสวยหรือข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ มันอร่อยมาก...กกกกก ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน แต่ปัญหาหลัก ๆ เลยเวลาที่อยากกินเมนูนี้ที่เจอมาก็คือ 1. ซื้อกินตามร้านแล้วได้น้อย รู้สึกไม่คุ้ม ราคาแบบอิ่มกำลังดีจานละไม่ต่ำกว่า 100 บาทขึ้นไป อาจจะเกือบ ๆ 200 บาทเลยด้วย ถ้าหากเพิ่มเนื้อ เพิ่มไข่ เพิ่มเครื่องเคียงต่าง ๆ อีก กินทีต้องงดค่าขนมไปหลายวันเลย 2. ซื้อแกงกะหรี่แบบก้อนมาต้มเป็นหม้อ ถูกกว่าแน่นอน แต่ก็จะมาพร้อมกับความยุ่งยาก ต้องซื้อผักมาต้ม ต้องซื้อเนื้อมาตุ๋นให้เข้ากันอีกบางทีรู้สึกเปลืองไปกับค่าผัก ค่าเนื้อด้วย แถมทำครั้งนึงก็คงได้กินอีกหลาย ๆ มื้อจนเบื่อกันไปเลย ซึ่งมากเกินความต้องการไปอีก ดังนั้นและเราจึงจะมาแนะนำให้รู้จักกับสิ่งนี้กันก็คือ แกงกะหรี่แบบซองพร้อมรับประทาน ที่เพียงแค่อุ่นโดยการต้มซองให้ร้อนและเทลงบนข้าว หรือว่าถ้าที่บ้านมีไมโครเวฟ แนะนำให้ฉีกซองเทลงจานแล้วเข้าไมโครเวฟจะดีกว่าการต้มซองให้ร้อนก่อน เพราะตอนร้อน ๆ ฉีกซองมันจะลำบากมากกว่านะ ข้อดีของแกงกะหรี่แบบนี้คือ 1. พร้อมรับประทานได้ทุกเมื่อ เหมาะเก็บเอาไว้เป็นเสบียงเวลาที่ไม่มีอะไรกินด้วยนะ 2. ขนาดกำลังพอดีกินมื้อเดียวจบ ไม่รู้สึกค้างคาอะไร หายอยากเวลาต้องการแกงกะหรี่ได้ดีทีเดียว 3. รู้สึกคุ้มค่ากว่าไปกินบางร้านที่รู้สึกไม่อร่อยไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปด้วย เฉลี่ยแล้วราคาซองละ 70-80 บาทต่อซอง ก็คือจานนึงไม่ถึง 100 บาท ให้ใส่ไก่ทอด หรือเนื้อเพิ่มก็ยังดีเสียกว่าไปกินในร้าน แถมบางร้านชาร์จราคาแพงจนเสียความรู้สึกไปเลย อยากใส่ข้าวมากน้อยได้ตามใจเราชอบอีก ยอมรับเลยว่าตั้งแต่รู้จักกับแกงกะหรี่แบบซองพร้อมทานนี้มา ก็เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเพื่อกินแกงหรี่น้อยลงไปเยอะมาก เรียกว่าแทบไม่สั่งกินอีกเลย หรือว่านาน ๆ ทีถึงอยากจะกินขึ้นมาสักครั้ง เพราะสำหรับลิ้นตัวเองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ กลิ่นและรสชาติก็คล้าย ๆ กันมาก ดังนั้นก็เลยต้องเลือกมาลองหลาย ๆ ยี่ห้อที่ถูกปากกันดู และเท่า ๆ ที่เคยลองกินมาก็ผ่านเข้ารอบมา 3 ยี่ห้อที่จะมาแนะนำกันนั่นเอง ทั้งสามตัวเป็นแกงกะหรี่เนื้อหมด ที่เลือกเนื้อเพราะเวลาเป็นแกงกะหรี่และมีความเข้มข้นมากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่ค่อยเลือกแบบที่มีแต่ผัก หรือแบบแกงกะหรี่ไก่ที่จะไม่ค่อยเข้มข้นเท่านั่นเอง เอาล่ะจะมาเริ่มรีวิวยี่ห้อที่เคยกินมาเลยนะ - House Curry - ยี่ห้อนี้ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมาก แม้กระทั่งถ้าหากจะซื้อแบบก้อนมาทำเป็นหม้อเองก็ควรจะซื้อยี่ห้อนี้นะ ส่วนรสชาติที่ได้กินมานั้นน้ำแกงมีความเข้มข้นมาก สามารถใส่ผัก ใส่ไข่เพิ่มลงไปอีกก็ไม่ทำให้จืดลง และสีก็จะเข้มแบบสุด ๆ เลยด้วยหากเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ที่เคยกินมา แต่รู้สึกว่าน้ำแกงเยอะ แต่เครื่องโหรงเหรง เนื้อก็ให้เป็นเศษชิ้นเล็ก 2-3 ชิ้นได้ รสชาติคืออร่อยมากนะ แต่อดคิดไม่ได้แหละว่าราคาสูง (ที่สุดใน 3 ยี่ห้อนี้) ประมาณ 80 กว่าบาท แต่ได้น้อยไปนิด ถ้าเพิ่มปริมาณอีกสักหน่อยจะโปรดมากเลยทีเดียว ข้อเสียอีกอย่างคือหาซื้อยากจัง ไปที่ชั้นขายคือไม่ค่อยเจอนะ จะซื้อออนไลน์ ถ้าบวกค่าส่งก็รวม ๆ ซองนึงเป็นร้อย รู้สึกไม่คุ้มไปอีก แต่ถ้าใครหาซื้อได้ก็แนะนำให้ลองดูนะ - Yamanori Beef Curry - ยกให้เป็นยี่ห้อโปรดที่ชอบมากที่สุดแล้ว ซองนึงถือว่าคุ้มทั้งปริมาณ ราคา และรสชาติ มีผักในซองให้กินในปริมาณที่มากพอสมควร น้ำแกงก็ให้เยอะ เทมาคือสามารถตักข้าวจานพูน ๆ กินได้อิ่มตื้อกำลังดีเลย แต่ตัวนี้จะเน้นรสชาติกลาง ๆ ไม่มีความเผ็ดแบบยี่ห้ออื่น ๆ ที่อาจจะมีให้เลือกระดับความเผ็ด สำหรับคนที่ชอบแกงกะหรี่ที่มีความเผ็ดสักหน่อยก็อาจจะผิดหวังเล็กน้อย (แค่โรยพริกเพิ่มก็ชดเชยได้แล้ว) แต่ข้อดีสุด ๆ เลยก็คือเป็นยี่ห้อที่ให้เนื้อมาในซองด้วย ไม่ต้องยุ่งยากหาเนื้อมาใส่เพิ่ม ปริมาณสมกับราคาดี เนื้อก็กินแล้วหอมขึ้นจมูก ได้อารมณ์แกงกะหรี่จากร้านอาหารญี่ปุ่นกันไปเลย หาไข่ออนเซนมากิน หาขิงดองมาเพิ่มตัดเลี่ยนก็ยิ่งดีใหญ่ (แต่ตอนที่กินมีแต่กระเทียมโทน ซึ่งก็ยิ่งอร่อยมาก ๆ เลยล่ะ) ฟินกันจุก ๆ ในราคาเบา ๆ หาซื้อได้ในกรูเม่ต์มาร์เก็ต ในเครือเดอะมอลล์นะ - Ottogi Curry - ตัวนี้เป็นแบรนด์ของเกาหลีนะ น่าจะคุ้นเคยกันมาบ้างสำหรับคนที่ชอบกินบะหมี่ หรือว่าแกงแบบเกาหลีที่จัดว่าเป็นยี่ห้อดังด้วย บังเอิญว่าเห็นมีขายบนชั้นวางข้าง ๆ ยี่ห้อโปรดพอดีราคาประมาณ 70 บาทก็ถือว่ารับได้ เลยถือโอกาสเอามาลองด้วยว่าแกงกะหรี่ของเกาหลีนี่ รสชาติจะถูกปากแบบของญี่ปุ่นหรือไม่ จากที่เทใส่จานข้าวก่อนอุ่นปริมาณก็โอเคสำหรับกิน 1 คนพอดี รู้สึกผักก็มีให้ไม่น้อยเลยนะ น้ำแกงดูเหลว ๆ แต่เป็นสีเหลืองจัดกว่าอีกสองยี่ห้อ นี่เลือกแบบเผ็ดสุดเพราะคิดว่าลิ้นตัวเองน่าจะรับไหว ลองแรง ๆ ไปเลยก็แล้วกัน พอลองกินแล้วรสชาติไม่ได้แตกต่างจากแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเลย มีความคล้ายคลึงกันมาก ถือว่าดีเป็นแบบที่ชอบและถูกปากด้วย มีชิ้นเนื้อให้พอได้ลองเคี้ยวอยู่นิดหน่อย ไม่ได้รู้สึกความเนื้อที่น่าประทับใจอะไรนัก แต่ก็เป็นแบบที่ควรจะเป็นนั่นแหละ แต่ทีเด็ดอยู่ที่ความเผ็ดซึ่งจะมีติดลิ้นนิด ๆ ไม่ได้เผ็ดรุนแรงจนทนไม่ไหว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ดีของแกงกะหรี่เลย เอาเป็นว่าถ้าเจอจะซื้อมาเก็บและกินต่อแน่นอน สรุปสั้นๆ - เฮ้าส์ : อร่อยเข้มข้น แต่ได้น้อยไปนิดทั้งผักและเนื้อ - ยามาโนริ : อร่อย เยอะ หอมกลิ่นของเนื้อ คุ้มมาก - Ottogi : ปริมาณผักเยอะ รสชาติโอเค ดีที่มีระดับความเผ็ดให้เลือกด้วย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ชอบแกงกะหรี่ได้ไปลองเลือกซื้อเลือกชิมกันนะ บางทีของโปรดของอร่อยสำหรับเราไม่จำเป็นต้องมีราคาสูงมากเสมอไป ถ้าประหยัดลงแต่ความอร่อยไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ก็ทำให้รู้สึกแฮปปี้เวลากินด้วยอีกต่างหากที่อร่อยได้ในราคาที่คุ้มค่า มาเข้าสู่วงการแกงกะหรี่ซองพร้อมทานด้วยกันเถอะ รูปถ่ายเอง โดย : Akine_noxx