ร้านขนมจีนป้าม้อน ข้าวกั๊นจิ้น ขนมจีนน้ำใส อาหารคนเมือง มีที่เดียวในประเทศไทย จังหวัดแพร่ เช้านี้อยากตากแดด ก็เลยไปร้านค้าในชุมชน ครั้งแรกที่เดินออกจากบ้านไปซื้อของที่ร้านค้าในรอบ 1 เดือน ปกติไปตลาดใกล้บ้านช่วงเย็นแบบนาน ๆ ที COVID-19 ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่แม่ค้ายังต้องทำมาหากิน ถ้าเรามัวไม่อุดหนุนสินค้าชุมชน การกระจายรายได้สู่แม่ค้า และชาวบ้าน อาจน้อยลง ออกมาช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนกัน แต่จริงๆก็ คือหิวแหละ อยากกินอาหารสไตล์ Local หลงใหลความเป็นพื้นเมือง เมื่อมาถึงร้านค้า ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ตรงข้ามพระธาตุช่อแฮ ช่วงเวลานี้ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว ถนนไม่มีรถวิ่ง นาน ๆ ผ่านมาทีสัก 1 คัน บริเวณโดยรอบเงียบสงัด เราเห็นบางสิ่งห่อใบตองอยู่วางอยู่ในถาด “นี่อะไรคะ” เราถาม “ข้าวกั๊นจิ้น หรือข้าวเงี้ยวเจ้า” แม่ค้าตอบเป็นภาษาเหนือ ฟังเสนาะหู “อ่ะ...อะไรนะคะ” เราถามซ้ำเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ “หนูมาจากที่ไหน” แม่ค้าถามเหมือนรู้ว่าเราไม่ใช่คนแถวนี้ “มาจากที่อื่น แต่มาอยู่นี่ได้ 4-5 เดือนแล้วค่ะ” ถ้าจะบอกมาจากกรุงเทพก็กลัวแม่ค้าแตกตื่น ตกใจ “ห๊ะ อะไรนะ 45 เดือนนี่มันกี่ปีละเจ้า” แม่ค้าฟังเราไม่ถนัด เพราะต่างคน ต่างใส่หน้ากากคุยกัน (หมายถึงหน้ากากอนามัย) “555 แล้วอันนี้ มันทำยังไง” เราไม่ได้ตอบคำถามเพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ก็เลยชวนคุยเรื่องข้าวเงี้ยว ที่คุยค้างไว้ตอนแรก “เอาข้าวมาใส่น้ำต้มเลือดหมู แล้วห่อใบตองเอามานึ่ง” แม่ค้าตอบอย่างใจดี พร้อมกับเปิดห่อข้าวให้ดู “อ่อ..เวลาจะขายก็เอามาใส่น้ำกระเทียมเจียวแบบนี้หรอคะ เดี๋ยวหนูขอถ่ายรูปหน่อย” แม่ค้าโชว์ลีลาการห่อใบตองให้ดู อย่างทะมัดทะแมง แล้วกลัดใบตองด้วยไม้ไว้ตามเดิม “หนูขอ 2 ห่อค่ะ ห่อเท่าไหร่คะ” “ห่อละ 10 บาทจ้ะ” “โอ้วว แล้วทำไมมันชื่อกั๊นจิ้นล่ะคะ” “มันเป็นภาษาเหนือเจ้า กั๊น แปลว่า บีบ นวด ปั้น ส่วนจิ้น แปลว่า เนื้อหมู” แม่ค้าอธิบาย “มัน คือ ข้าวปั้นน้ำเลือดหมู นั่นเอง ถ้าแปลแบบง่าย ๆ ใช่ไหมคะ” “เจ้า เจ้า (หัวเราะ)” แม่ค้าอารมณ์ดี “แล้วนี่อะไรคะ” เราชี้ไปที่ หม้อใหญ่ใส่น้ำซุปใสๆ “ขนมจีนน้ำใสเจ้า มีที่เดียวในแพร่ นะเจ้า” “หนูเอา 1 ค่ะ “ “อร่อยมากนะ มีที่เดียวในแพร่ ” แม่ค้าพูดทวน “งั้นขอ 2 เลยค่ะ” แล้วก็หยิบขนมถุงแบบพื้นบ้าน ที่วางหน้าร้าน “เอานี่ นี่ และก็นี่ด้วยนะคะ “ เหมือนจะซื้อทุกอย่างที่มีวางขายในร้าน แล้วเหลือบไปเห็นใบประกาศนียบัตรที่ตั้งหน้าร้าน ร้านผ่านการประเมินด้านสุขภิบาลอาหาร สะอาดปลอดภัย ประกาศนียบัตร ให้วัน พ.ศ. 2557 แสดงว่าร้านเปิดก่อนหน้าปี 2557 แน่นอน น่าจะ 10 ปี ด้วยความสงสัยจึงถามแม่ค้า “ขนมจีนร้านป้าม่อน ใครคือป้าม่อนคะ” “ป้าม้อน ไม่ใช่ป้าม่อน” แม่ค้าบอก ไม่ใช่พี่ “…” “นู้น..ป้าม้อนอยู่ข้าง ๆ ร้านกำลังทอดกล้วยแขก” แม่ค้าชี้ไปที่ป้าม้อน เราเดินไปดูป้าม้อนทอดกล้วยอยู่ “ป้าม้อน ใช่ไหมคะ สวัสดีดีค่ะ กล้วยแขกขายยังไงคะ” “ถุง 20 บาท เจ้า” ป้ายิ้มอย่างใจดี “หนูขอ 1 ถุงค่ะ “ ป้าม้อนหยิบกล้วยใส่ถุงอย่างชำนาญ “ป้าขายขนมจีนมากี่ปีแล้วคะ” “น่าจะสิบกว่าปี แต่ก่อนป้าขายใต้ต้นมะขาม” ว่าแล้วป้าก็ชี้ต้นมะขามใหญ่ที่อยู่ด้านหลังรั้วบ้านให้ดู “ต้นใหญ่มากเลยค่ะ แต่มันถูกตัดไปแล้วเนอะ น่าเสียดาย” “เจ้า” ป้ากำลังจดจ่อกับการตักกล้วยแจกใส่ถุง “นี่ขนมถ้วยหรอคะ ทำไมมันเหลือง ๆ ฟักทองหรอคะ” เราถาม “แตงไทย ขนมถ้วยใส่แตงไทยเจ้า” ป้าม้อนตอบ “หนูไม่เคยเห็นเลย ปกติจะเห็นเป็นกะทิ ขายยังไงคะ “ “4 ถ้วย 10 จ้ะ” “งั้น หนูเอานี่ไปลองชิม 1 กล่อง เอาแบบกะทิด้วยนะคะ 1 กล่อง” “2 กล่องนะจ้ะ” ป้าม้อนตักขนมก้อนกลมหนึบ ๆ ออกจากถ้วย ใส่กล่อง “ขายดีมั้ยคะป้า ช่วงนี้” “เงียบมากจ้าา” ป้าตอบเสียงเบา ปนเศร้าหน่อย “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเนอะป้า เดี๋ยวหนูมาอุดหนุนใหม่” “ขอบคุณเจ้า” ป้าม่อนตอบรับ แม้จะไม่เห็นรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากอนามัยนั้น แต่ก็สัมผัสได้ถึงแววตาที่มีความสุข ทุกอย่างซื้อห่อมารับประทานที่บ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน ก็รับประทานข้าวเงี้ยวหรือ ข้าวกั๊นจิ้น อร่อยมาก รสชาติกลมกล่อม เม็ดข้าวใหญ่ ๆ เหมือนข้าวญี่ปุ่น มีความหอมของกลิ่นใบตองนึ่ง ไออุ่น ร้อน ๆ ของควันที่โชยมาจากข้าว รู้สึกแปลกใหม่ อิ่มอร่อย ต่อด้วยเมนูขนมจีนน้ำใส ที่แม่ค้าโปรโมทถึง 2 รอบ อร่อยจริง ๆ สมคำร่ำลือ แล้วจะกลับไปอุกหนุนบ่อย ๆ นะคะ หากใครแวะมาก็อย่าลืมเข้าไปรับประทานที่ร้านขนมจีนป้าม้อน ตรงข้ามวัดพระธาตุช่อแฮ มองออกมาจากวัดมองเยื้องไปทางขวา เพียง 100 เมตร ก็เจอร้านแล้วค่ะ หาไม่ยากเลย มาอุดหนุนอาหารพื้นเมืองกันนะคะ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน