วันนี้ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมพ่อตา พบว่ากล้วยหินกอใหญ่ที่หน้าบ้านกำลังออกเครือตั้ง 3 - 4 เครือ ผลกำลังสวยเลยเลยทีเดียว แต่ตอนที่ผมถ่ายรูปนั้นฝนกำลังจะตกพอดี รูปที่ถ่ายมาจึงออกมามัวๆ หน่อย นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเกือบสิบกว่าปีก่อนนั้น ผมเองก็เคยเอาหน่อกล้วยหินมาทดลองปลูกไว้ที่บ้าน 4-5 หน่อ แต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ดูแล แม่ได้เอาไปปลูกในที่ดินนาซึ่งขุดใหม่ๆ ตอนหน้าร้อน มันเลยไม่เหลือรอดสักต้น ไม่เหมือนกับต้นที่บ้านพ่อตา ซึ่งปลูกบนดินลูกรังภูเขา ซึ่งเป็นดินที่กล้วยหินชอบและเจริญเติบโตได้ดี ลำต้นของมันจึงใหญ่มากๆ หากดูตามรูปแล้วคงจะเถียงไม่ออกเลยจริงๆ กล้วยหินเป็นพืชเขตร้อน พบมากทางจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เติบโตได้ในดินทุกประเภท แต่เท่าที่สังเกตุเห็น จะเจริญเติบโตได้ดีในดินลูกรังภูเขา ขยายพันธุ์โดยใช้หน่อ ใบมีขนาดใหญ่ แข็งและหนา ออกเครือคราวประมาณ 10 หวี หวีนึงจะมีประมาณ 10 - 15 ผล ผลมีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ เปลือกหนา เมื่อสุกเนื้อจะไม่เละ เนื้อแน่นและเหนียว รสชาติดี สามารถเก็บไว้ได้นาน ทนทานต่อการขนส่ง ไม่ช้ำง่าย กล้วยหิน เปลือกจะหนาๆ หยวกของกล้วยหินสามารถนำไปปรุงอาหารได้ เช่น แกงหยวกไก่ ลวกกะทิจิ้มน้ำพริกก็อร่อย ส่วนผลแก่ของกล้วยหินสามารถนำมาทำอาหารได้ เช่น แกงป่า แกงเนื้อ แกงไก่ ผลสุกกินได้เลยหรือจะนำมาต้ม นึ่ง จิ้มกับมะพร้าวขูดก็อร่อย หรือนำมาเชื่อมก็ได้ นอกจากนี้ทางภาคใต้ยังนิยมนำมาทำกล้วยฉาบ กล้วยทอดกรอบก็อร่อย นอกจากนี้ ในกลุ่มของผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกก็นิยมนำมาเป็นอาหารนก เพราะเนื้อของกล้วยหินสามารถเก็บไว้ได้นาน นกกรงชอบกิน แกงกล้วย กล้วยแขก กล้วยหินเป็นกล้วยที่มีเส้นใยและปริมาณของคาร์โบไฮเดรตสูงด้วย ย่อยเป็นน้ำตาลได้ช้ากว่ากล้วยชนิดอื่นๆ หากมีโอกาสได้พบเจอกล้วยหิน อย่าลืมที่จะลิ้มลองรสชาตินะครับ ภาพโดย Samart Chusuk #กล้วยหิน #แกงกล้วย #กล้วยแขก