แวะพักชิลชิคที่เมืองกาญฯ ไปกับ The Village Farm To Cafe' หากจะให้กล่าวถึงจังหวัดฝั่งตะวันตกที่โดดเด่นและขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติติดอันดับต้น ๆ ของประเทศแล้ว จะไม่ให้นึกถึง ‘จังหวัดกาญจนบุรี’ เสียไม่ได้เลยจริง ๆ เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบนิเวศทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้, ภูเขา รวมถึงแหล่งน้ำและวัฒนธรรมที่หลากหลาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จังหวัดกาญจนบุรีจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่รักในธรรมชาติ และไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อในด้านของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น จังหวัดกาญจนบุรียังขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งคาเฟ่เช็คอินสุดกิ๊บเก๋มากมาย และคราวนี้ผู้เขียนเองจะพาไปแวะชิมเมนูออแกนิคเอาใจสายรักสุขภาพกันสักหน่อยที่คาเฟ่โรงนาสุดฮิป พร้อมที่ถ่ายรูปสุดชิค จะรอช้าอยู่ใยไปดูกันเลย รับรองไม่ผิดหวังค่ะ The Village Farm To Cafe' ตัวร้านคาเฟ่สร้างขึ้นเหมือนโรงนาแถบฝั่งทวีปยุโรป มองภายนอกจะเห็นเป็นโรงนาขนาดใหญ่ตั้งติดกันห้าหลัง รายล้อมด้วยธรรมชาติเขียวขจีของต้นไม้บนพื้นที่กว้างใหญ่ ด้านหน้าของคาเฟ่เป็นลานจอดรถ ที่มีไว้บริการลูกค้าที่แวะเวียนกันเข้ามาเรื่อย ๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจุรถได้หลายคันเลยทีเดียว โถงคาเฟ่ยกเพดานสูง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง พร้อมไฟประดับสวยเก๋ พอเดินเข้ามาภายในคาเฟ่ ก็ต้องตื่นตาไปกับการออกแบบ เริ่มตั้งแต่ความโอ่อ่าของห้องโถงขนาดใหญ่ ยกเพดานสูงตกแต่งสวยเก๋ด้วยโคมไฟที่ทำให้ห้อยลงมา (เป็นกิมมิคที่แปลกแต่สวยดี) ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย และอบอุ่น บวกเข้ากับสีแนวเอิร์ธโทนของตัวคาเฟ่ ทำให้ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านของตัวเองเลยหล่ะ ที่คาเฟ่มีเมนูหลากหลายทั้งอาหารเครื่องดื่ม และขนมหวาน เอาใจสายรักสุขภาพสุด ๆ เมนูของทางคาเฟ่เป็นเมนูแบบฟิวชั่นเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ขนมหวานก็ล้วนแต่เป็นเมนูสุขภาพทั้งนั้น เมล่อนออแกนิคปั่น ได้รสชาติหวานจากธรรมชาติของเมล่อน ไม่ต้องเติมไซรัปเลย (ผู้เขียนจำราคาไม่ได้ต้องขออภัยค่ะ แต่ไม่แพงเลย อร่อยคุ้มค่าแน่นอน) ด้วยความที่ผู้เขียนต้องรีบไปทำธุระต่อ จึงสั่งเมนูเครื่องดื่มง่าย ๆ มาดับร้อน โดยพนักงานแนะนำเป็นน้ำเมล่อนปั่น (ซึ่งช่วงที่ไปนั้น เป็นฤดูที่เมล่อนกำลังออกผลพอดี) เลยจัดไปแก้วหนึ่ง ได้รสชาติหวาน ๆ บวกกลิ่นเมล่อนออแกนิคหอม ๆ ช่วยดับกระหายได้ดีมากเลย เมล่อนปั่นชื่นใจ ดับกระหายได้ทันควัน ส่วนที่นั่งผู้เขียนเลือกนั่งโซนบาร์ติดกระจกด้านใน ให้ความเป็นส่วนตัวสูงแต่สามารถมองเห็นวิวสีเขียวด้านนอกได้ชัดเช่นกัน นั่งโซนบาร์ติดกระจก แหงนหน้าขึ้นมองเจอต้นไม้ห้อยลงมา พร้อมโคมไฟประดับแบบวินเทจ มีมุมสีเขียวเล็ก ๆ ของเหล่าเจ้าแคคตัสจิ๋วไว้ให้ถ่ายภาพด้วย ที่คาเฟ่มีโซนสำหรับขายของที่ระลึกด้วย เป็นพวกสินค้าออแกนิค, ต้นไม้, และขนมแปรรูปต่าง ๆ แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะผู้เขียนรีบเลยไม่ได้ถ่ายมุมนี้มาฝาก และไม่ได้ออกไปถ่ายรูปด้านนอกของคาเฟ่ด้วย (ซึ่งต้องขอกระซิบบอกว่า แค่การสังเกตก็รู้ว่ามีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเยอะและร่มรื่นมากเลยหล่ะ) ก่อนกลับ หันหลังกลับไปถ่ายรูปตัวคาเฟ่ไว้อีกรูปก็แล้วกัน หากไปกาญจนบุรีครั้งหน้า The Village Farm To Cafe' จะเป็นจุดหมายร้านคาเฟ่ที่ผู้เขียนจะแวะถ่ายรูป, พักผ่อน และดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบไม่รีบอีกครั้ง (และจะมารีวิวอัพเดทให้คุณผู้อ่านที่น่ารักด้วย) สุดท้ายนี้อย่าลืมนะคะ ไปเที่ยวเมืองกาญฯ ต้องแวะไปฟาร์ม ที่ The Village Farm To Cafe' แล้วคุณจะหลงรัก และได้รูปถ่ายสวยเก๋ไว้อวดพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ . เครดิตรูปภาพโดย : LA-MUN-NEE (ผู้เขียน) . ข้อมูลสถานที่ ชื่อสถานที่สุดชิค : The Village Farm To Cafe' ทำเลที่ตั้ง : 88/8 หมู่ 4 ถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค (มีระยะห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 8 กิโลเมตร) อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านอาหารคีรีมันตรา ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71190 เปิดให้บริการ : ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.30 - 21.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30 - 21.00 น. Facebook : The village farm to cafe'