ผัดกะเพรามะม่วงสุก เมนูแปลกแต่อร่อย! วันนี้ทำอะไรกินดีน้า.....ยิ่งช่วงสถานการณ์แบบนี้ด้วย สั่งอาหารจนเบื่อไปแล้ว......ถ้าเบื่อมาลองทำอาหารกันดีมั้ยคะ ประหยัดงบแถมได้ฝึกการทำอาหารไปในตัวเองด้วย ก่อนที่จะไปเริ่มทำเมนูนี้นะคะ เรามาฟังประโยชน์ของการทำอาหารกินเองสักเล็กน้อยน้า การทำอาหารถือว่าเป็นพื้นฐานที่ใครหลายๆคนควรฝึกทำเอาไว้ติดตัว อาหารถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนเรามากๆ ลองฝึกทำครั้งแรกถ้ารสชาติอาหารออกมาไม่ดีอย่าพึ่งท้อแท้ใจนะคะ ไม่มีอะไรที่ทำครั้งแรกแล้วออกมาดีเสมอไปค่ะ ทำต่อไปเรื่อยๆจนได้รสชาติที่ออกมาดีไปเลย เมื่อเราไปอยู่ที่ไหนต่างถิ่นแดนไกล ถ้าเราทำอาหารกินเองได้ก็เป็นเหมือนเป็นวิชาที่ติดตัว ไปอยู่ที่ไหนจะได้ไม่ต้องลำบาก ที่สำคัญสามารถเอามาต่อยอดได้อีกหลากหลายแบบ บางคนมาเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองก็มีบ้าง ถ้าเกิดว่าเรามีแฟน เราก็ทำให้แฟนเรากินได้เผลอๆแฟนอาจจะชอบด้วยซ้ำ ทำให้คุณพ่อคุณแม่รับประทานก็ดีไปอีก แต่โดยหลักๆของผู้เขียนเอง อยากทำอาหาร อร่อยๆไว้ เผื่อได้แฟนเป็นชาวต่างชาติจะได้ทำอาหารไทยให้เขารับประทานทุกวันเลย จะได้มัดใจแฟนด้วย เพราะอาหารไทยเป็นอาหารที่ชาวต่าง ชาติหลายๆคนก็ต้องบอกเลยว่าอร่อย ถูกปาก ผู้เขียนพูดแล้วก็เขิน เรามาเริ่มทำเมนูผัดกะเพรามะม่วงสุกกันเลยค่า ในส่วนของวัตถุดิบนะคะ หลักๆเลยคือมะม่วงสุกและใบกะเพราค่า เราใช้มะม่วงสุกไปประมาณ 1 ลูกค่ะ หรือใครจะมากกว่านั้นก็ได้แต่ต้องดูปริมาณที่เราทำด้วยน้า คุณผู้อ่านจะเพิ่มอะไรลงไปเพื่อให้ผัดกะเพราน่ากินขึ้นก็ได้นะคะ แต่วันนี้เราเพิ่มในส่วนของหมูยอและไส้กรอกลงไปค่ะ มีกระเทียม สรรพคุณของกระเทียม ช่วยในเรื่อง ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และอื่นๆนับว่ามีประโยชน์มากๆเลยค่า ต่อไปคือหมูสับตัวของหมูสับ เราหมักด้วยซีอิ๊วนะคะ ตามด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆและที่ขาดไม่ได้เลยคือพริกและกระเทียมที่นำไปตำค่ะ มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ ในขั้นตอนแรก ให้เทน้ำมันลงไปในกระทะ เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนได้ที่แล้ว ให้นำตัวพริกและกระเทียมที่ตำไว้ตักใส่ลงไปในกระทะเลย แล้วผัดจนให้ตัวกระเทียมออกสีเหลืองเข้มนิดๆ อย่าผัดจนไหม้นะคะ ขั้นตอนที่สอง เมื่อผัดตัวพริกและกระเทียมที่ตำจนได้ที่แล้ว ให้ใส่หมูบดที่เราหมักไว้ลงไปในกระทะเลยค่ะ แล้วผัดไปสักพักค่อยเติมน้ำสะอาดลงไปสักเล็กน้อยค่ะ ผัดจนให้หมูเริ่มสุกแล้ว ระวังผัดนานจนทำให้หมูแห้งนะคะ รับประทานแล้วรสชาติและเนื้อสัมผัสของหมูบดจะไม่อร่อยค่ะ ขั้นตอนที่สาม เมื่อผัดหมูจนได้ที่แล้ว ก็ใส่ไส้กรอกและหมูยอที่หั่นไว้ลงไปเลยค่ะ ผัดจนตัวๆไส้กรอกและหมูยอเริ่มสุกนะคะ หมูยอและไส้กรอกค่อนข้างที่จะสุกเร็วมากๆเลยค่ะ ขั้นตอนที่สี่ ให้เราปรุงรสตามใจชอบได้เลยค่ะ แต่ผู้เขียนเองจะเน้นไปที่รสเค็มนิดนึงนะคะ ใครชอบแบบไหนก็ทำตามใจชอบได้เลย เครื่องปรุงที่ใช้ใส่ไปมี น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรมเล็กน้อยค่ะ ซอสปรุงรส และ น้ำตาลค่ะ ขั้นตอนที่ห้า เมื่อผัดกันจนเข้าที่แล้วให้ใส่ใบกะเพราที่เราเตรียมลงไปเลยค่ะ ตัวใบกะเพราต้องเด็ดก่อนที่จะนำมาผัดน้า ไม่งั้นเราจะได้กินใบกะเพราพร้อมกับก้านแข็งๆ ผัดให้ใบกะเพราของเราได้ที่ค่ะ ตรงนี้ใช้เวลาไม่นานค่ะเพราะใบกะเพราแป๊ปเดียวก็สุกแล้ว ขั้นตอนที่หก เมื่อเราผัดทุกอย่างเข้ากันแล้วให้ปิดเตาแก๊สหรือใช้ไฟอ่อนๆก็ได้นะคะ ให้นำมะม่วงสุกลงไปเลยคลุกเคล้ากันสักเล็กน้อยแล้วค่อยปิดไฟค่ะ อีกวิธีนึงก็คือใช้มะม่วงโรยหน้ากะเพราเลยค่ะ ใครสะดวกวิธีไหนก็ใช้วิธีนั้นนะคะ ขั้นตอนสุดท้าย จัดตกแต่งจานให้สวยงามเรามีทั้งข้าวหุงเอามาใส่ถ้วยกดไว้แล้วคว่ำลงไปตรงกลางจานเลยนะคะ แล้วมีแตงกวาเอาไว้รับประทานคู่เลยค่า ใครจะรับประทานคู่กับผักอย่างอื่นก็ได้นะคะ ก็เสร็จเรียบร้อยไปแล้วนะคะกับเมนูผัดกะเพรามะม่วงสุก เมนูแปลกแต่อร่อย! บางคนสงสัยว่าของคาวกับของหวานแบบผลไม้มันจะกินเข้าได้หรอ ตอบเลยว่าได้ค่ะ รสชาติตัวกะเพรากินคู่กับมะม่วงไปแล้วมันแปลกค่ะแต่แปลกในที่นี้คือมันอร่อย มันเข้าไปผสมกันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ส่วนตัวคิดว่ารับประทานแบบไม่ต้องกินข้าวไปด้วยจะอร่อยกว่าแบบกินข้าวค่า แนะนำว่ามะม่วงที่ใช้นั้นไม่ควรสุกเกินไปนะคะ ควรหั่นชิ้นมะม่วงขนาดกลางๆดีกว่าค่าผู้เขียนหั่นชิ้นใหญ่ไปสักเล็กน้อยสงสัยหิวด้วยแน่ๆ มะม่วงเลือกเอาแบบกำลังดี ดีกว่าค่ะ เราใช้เป็นมะม่วงโชคอนันต์นะคะ ตัวมะม่วงคือกลิ่นหอมมาก เนื้อกำลังดีเลยค่ะ ใครที่จะลองใช้เป็นมะม่วงชนิดอื่นก็ลองดูได้เลยนะคะ หวังว่าคุณผู้อ่านจะชอบกันนะคะ ใครที่จะลองทำตามก็อย่าลืมทำนะคะ ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันด้วยค่า {ภาพโดย ผู้เขียน}