ถ้าจะเอ่ยถึงย่านพาหุรัดแล้ว ก็คงจะนึกถึงร้านขายผ้า ชาวอินเดีย บางคนมาเพื่อมาซื้อของที่สำเพ็ง วันนี้เลยพาตัวเองมาเปิดใจลองกินอาหารอินเดียที่ย่านพาหุรัด หรือที่เรียกกันว่า Little India แห่งกรุงเทพ ในแบบฉบับมือใหม่เพิ่งลองเปิดใจกับอาหารอินเดียครั้งแรก ในราคาหลักร้อย โดยปักหมุดหลักไปที่ ห้างอินเดียเอ็มโพเรี่ยม India Emporium ซึ่งแต่ละร้านที่พาไปจะอยู่โดยรอบของห้างนี้หมดเลย ที่สำคัญราคาไม่แพง1. วัดซิกข์ศรีคุรุสิงห์สภาถ้าใครยังไม่เคยลองสัมผัสและอยากลองเปิดใจกับอาหารอินเดีย แนะนำให้มาที่ "คุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา" หรือที่เรียกกันว่า "วัดซิกข์" อยู่ติดกับห้างอินเดียเอ็มโพเรียม ถือเป็นศูนย์รวมใจของชาวซิกข์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และถือเป็นวัดซิกข์แห่งแรกของประเทศไทย เพราะที่นี้จะมี "โรงแบ่งปัน" หรือโรงทานนั้นเอง เมื่อเข้ามาจะเจอกับจุดรับฝากรองเท้า ทุกคนจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าสถานที่ โดยจะแบ่งเป็นของฝั่งชายและของฝั่งหญิง บุคคลที่นับถือศาสนาอื่นจะได้รับแจกผ้าคลุมคีรษะ ก่อนขึ้นไปยัง "โรงแบ่งปัน" หรือโรงทาน ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนสามารถเข้ามาทานอาหารได้ฟรี เป็นอาหารมังสวิรัติ นั่งทานกับพื้นโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น เมื่อทานเสร็จเรียบร้อยจะต้องนำถาดไปคืนให้ยังจุดล้าง ส่วนตัวมาที่นี้ครั้งแรก ผู้คนอยู่ในความสงบ ไม่ส่งเสียงดัง และเมื่อเห็นชาวต่างศาสนาเข้ามา จะมีจิตอาสาเข้ามาแนะนำและบอกวิธีการปฏิบัติอย่างเหมาะสมอีกด้วย ถือว่าเป็นสถานที่ที่อยากแนะนำให้ได้ลองมาสัมผัสทั้งในเรื่องของอาหาร ศาสนา และความศรัทธาของผู้คนอีกด้วย โดยรสชาติของอาหารส่วนตัวทานได้ ชอบชามาซาล่าหอมเครื่องเทศโดยรสชาติของอาหารส่วนตัวทานได้ ชอบชามาซาล่าเพราะหอมเครื่องเทศ และแกงที่ใส่ถั่ว (ไม่แน่ใจเรียกว่าอะไร) พอดีแป้งหมดเลยอดทาน ทานเสร็จแล้วอย่าลืมนำถาดไปคืนยังจุดล้าง โดยจะมีจิตอาสามาคอยปฏิบัติหน้าที่หมุนเวียนกันไปที่ตั้ง : คุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา หรือ วัดซิกข์ศรีคุรุสิงห์สภา 565 ถ. จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เวลาทำการ : ทุกวัน 06.00 น. - 20.00 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/t6aiie3w4YAarYH46Facebook : https://www.facebook.com/sirigurusinghsabhabangkok/โทรศัพท์ : 02 221 1011ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้า2. ร้าน Basmati International (บัสมาติ อินเตอร์เนชั่นแนล)จะอยู่ด้านหลังของห้างอินเดียเอ็มโพเรียม ห้างจะเปิด 09.00 น. สามารถเดินทะลุห้างเข้ามาแล้วออกประตูหลังก็จะเจอเลย ร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดียไม่ใหญ่มาก หน้าร้านจะเจอกับบรรดาขนมหวานต่างๆ หน้าตาสีสันน่ากินมาก แล้วยังมีอาหารอินเดียต่างๆ ให้ได้ลิ้มรสกันอีกด้วย เมื่อเข้าไปแล้วไม่รู้จะสั่งไร ก็ขอให้ทางร้านแนะนำก็ได้ (คนขายแนะนำดี ขายเก่งอีกต่างหาก) ร้านนี้อาจจะไม่ได้ใหญ่มาก เป็นห้องตึกแถวห้องเดียว โต๊ะมีจำนวนไม่เยอะมาก แต่เมื่อเข้าไปในร้านชาวอินเดียนั่งทานอาหารเช้ากันทุกโต๊ะเลย พูดคุยกัน (อารมณ์สภากาแฟบ้านเรา) เข้ามาเหมือนอยู่ในร้านอาหารอินเดียเลยจริงๆ ได้บรรยากาศมากอันที่เป็นแผ่นแป้งกลมๆ พองๆ เรียกว่า Puri Subji 70 บาท เป็นแป้งพองๆ คล้ายแป้งโรตี จิ้มกับ Puri Chhole เนื้อสัมผัสคล้ายแกงพะแนงข้นๆ บ้านเรา แต่รสชาติของจะออกเผ็ดร้อนมาก ไม่เลี่ยน มีมันฝรั่งให้ชิ้นโตๆ ส่วนอันที่เป็นลูกกลมๆ เล็กๆ เป็นของว่างเรียกว่า Pani Puri หรือคนไทยอาจจะคุ้นว่า ปานิปุริ มาพร้อมมันผสมถั่ว กินกับน้ำราด 2 รส สีแดงๆ ซอสมะขาม และสีเขียวน้ำปานิ กินผสมกันรสชาติแปลกใหม่ดีตบท้ายด้วยของขนมหวานอินเดีย (ไม่รู้อะไรก็จิ้มๆ สั่งไป) ขนมที่อยู่ในจานมีกุหลาบจามุน (ก้อนกลมๆ) ทำจากนมควายผสมแป้ง รสชาติหวานมากๆ คล้ายขนมทองหยอด ส่วนอันที่เป็นเส้นๆ ขดๆ เรียกว่าเจลาบี (ส่วนตัวเนื้อสัมผัสคล้ายขนมกง ไม่ค่อยชอบเท่าไร) ส่วนสีแดงๆ ขนมโมทกะ (ขนมไหว้พระพิฆเนศ) ส่วนสีก้อนสี่เหลี่ยมสีขาวชื่ออะไรไม่รู้ แต่ใส่ชีส (อร่อยมากๆ ชอบมาก) ส่วนอีกอันจำไม่ได้ ถัดมาเป็นขนมที่อยู่ในถ้วยคือ Rasmaali รัสมาลัย คือการนำชีสไปต้มในน้ำเชื่อมแล้วนำมาแช่ในน้ำนมเคี่ยวจนเข้มข้น ปรุงกลิ่นด้วยเครื่องเทศ ส่วนเครื่องดื่มแนะนำสั่ง Lassi Sweets (ทำจากโยเกิร์ตรสชาติออกเปรี้ยวๆ) และ Masala Tea (ชาร้อนหอมเครื่องเทศ) กินหลังมื้ออาหารชื่นใจตัดขากันไปเลย ร้านนี้ราคาไม่แรงมาก บรรยากาศเสมือนอยู่อินเดียจริงๆ แนะนำ ทั้งหมดนี้ราคาประมาณ 360 บาทที่ตั้ง : ร้าน Basmati International (บัสมาติ อินเตอร์เนชั่นแนล) 95 51 ถ. ตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เวลาทำการ : ทุกวัน 08.00 น. - 18.30 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7AsM9zh2cjM5gS4MAโทรศัพท์ : 0222545743. Samosa Corner (ซาโมซ่าคอร์นเนอร์)เป็นร้านที่อยากแนะนำ อารมณ์แบบได้ฟิวอาหารสตรีทฟู้ดอินเดียเล็กๆ น้อยๆ ร้านนี้จะเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ (คล้ายร้านขายกล้วยทอดบ้านเรา) อยู่ข้างๆ กับห้างอินเดียเอ็มโพเรียม (ออกมาหน้าประตูหันขวาจะเจอเลย) ที่ร้านจะขายเพียง 3 เมนู คือ Samosa จะเป็นแป้งทอดไส้มันฝรั่ง (คล้ายกะหรี่ปั๊บ) Tikki ไส้คล้ายๆ Samosa แต่เนื้อแป้งจะนุ่มๆ กว่า Samosa และ Pakora คล้ายๆ ผักทอด ทานกับซอสมะขาม หรือจะซื้อแบบรวม แบงค์แดงก็ทานได้ส่วนตัวชอบ Samosa เพราะคล้ายกะหรี่ปั๊บบ้านเรา แนะนำให้ทานร้อนๆ เลย จะอร่อยมากๆที่ตั้ง : Samosa Corner (ซาโมซ่าคอร์นเนอร์) ถ. จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 น. - 20.00 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/d19Xt7Fynt9xRjw67โทรศัพท์ : 099 103 75874. Punjab Sweets (ปันจาบสวีท)จากร้าน Samosa Corner เดินตรงเข้ามาในตรอกจะเจอร้าน Punjab Sweets (ปันจาบสวีท) เป็นร้านอาหารอินเดียชื่อดังอีกหนึ่งร้าน เป็นร้านขนาดกลาง แต่ที่นั่งไม่เยอะ หน้าร้านมีขนมหวานอินเดียมากมาย พอดีกินอิ่มมาหลายอย่าง มาร้านนี้เลยสั่งแค่ Mango Lassi (ลาซซี่ มะม่วง) ออกแนวโยเกิร์ตปั่นหอมกลิ่นมะม่วงสุก รสชาติออกหวานๆ แต่อร่อยมาก ราคาประมาณ 1XX บาท ราคาขนมชิ้นละประมาณ 15 บาท (หากใครต้องการถ่ายรูปกับบรรยากาศร้านสวยๆ ร้านนี้มีอีกฝั่งอยู่ตรอกตรงข้ามกับห้างอินเดียนเอ็มโพเรี่ยม จะเป็นในรูปแบบ Restaurant อีกด้วย)ที่ตั้ง : Punjab Sweets (ปันจาบสวีท) ถ. จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เวลาทำการ : ทุกวัน 08.30 น. - 18.00 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/g9QrCePNZ589c9vr5Facebook : https://www.facebook.com/punjabsweetsbangkok/โทรศัพท์ : 0222265415. ร้าน YUMMZ Kulfi & Ice Creamบริเวณหน้าห้างอินเดียเอ็มโพเรียม จะมีร้านขายไอศครีมสีชมพูตั้งเด่นเป็นสง่า ชื่อร้าน YUMMZ Kulfi & Ice Cream ที่เป็นร้านไอศครีมแนวอินเดีย-ปากีสถาน-อาหรับ-ไทยฟิวชั่น!!! มีทั้งแบบแท่งแบบโคน สั่งไอศครีมรสพิสตาชิโอ รสชาติหวานๆ เข้มข้น มันๆ จากนม มีกลิ่นเครื่องเทศบ้าง ทานไม่ยาก อร่อยๆ (แนะนำรสชาติใบพลู เห็นเค้าว่าเป็นรสชาติที่แปลก แต่ยังไม่เคยลอง)ก่อนทานอย่าลืมแกะถุงและแกะกระดาษที่ห่อไว้ก่อนด้วย กัดไปเต็มคำเพิ่งเห็น (บ้าจริง)ที่ตั้ง : YUMMZ Kulfi & Ice Cream อาคาร India Emporium 345 ถ. จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เวลาทำการ : อ.-อา. 11.00 น. - 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Fddz5hc6EcTBoS469Facebook : https://www.facebook.com/YummzKulfiIcecream/โทรศัพท์ : 0650042121ส่วนตัวคิดว่าเอาจริงๆ ขนมไทยบ้านเรา หรือเบเกอร์รี่บางอย่าง ก็หวานพอๆ กัน ส่วนของคาวก็เป็นแบบทอด ใช้น้ำมันเยอะ (บ้านเราก็พอกัน) เพียงแต่เราอาจจะติดภาพหรือคลิปตามสื่อต่างๆ และไม่รู้ส่วนประกอบหรือวัตถุดิบของอาหาร เลยทำให้บางคนอาจยังไม่เปิดใจ เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่เคยลองทานอาหารอินเดีย ขอให้ลองเปิดใจแล้วพาตัวเองมาแถวพาหุรัด เปิดรับบรรยากาศ ศาสนา การใช้ชีวิต อาหาร รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนตัวถ้ามีโอกาสจะกลับไปกินอีกแน่นอน เที่ยวเอง ถ่ายเอง หลงเอง : Longyoonee หลงอยู่นี้