เวลาเที่ยงตรง "ตื่นรึยังแก...ไปหาอะไรกินกัน มื้อบ่าย" เพื่อนสนิทสมัยมัธยมของดิฉันส่งข้อความมา ในขณะที่ดิฉันกำลังทานอาหารเที่ยง "จะกินอะไรอะ" ดิฉันถามต่อ "อะไรแซ่บ ๆ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ อะไรแบบนี้ มีร้านไหนแนะนำไหม" เพื่อนสาวของดิฉันสอบถาม เนื่องจากทราบดีว่าดิฉันเขียนรีวิวร้านอาหาร มาได้สักพักแล้ว "ไปกินร้านคุณแจงตรงวัดศรีนวล ไหมแก" ดิฉันส่งข้อความตอบ ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมไปทานอาหารมื้อบ่ายกับเธอ ไม่นานนักรถยนต์ของเธอก็มาเทียบที่หน้าบ้านของดิฉัน "วัดศรีนวลคือวัดที่ฉันเข้าใจรึเปล่าแก" เพื่อนของดิฉันสอบถามระหว่างออกรถ ดิฉันไม่แน่ใจจึงเปิด Google Map เพื่อแสดงเส้นทางให้เธอดู แล้วเราก็มาถึงร้านคุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับประตูทางเข้าวัดศรีนวล ด้านถนนหลังเมืองพอดี ด้วยความไม่ชินเส้นทาง เธอจึงขับรถเลยร้านไป ทำให้เราต้องวนไปหาที่จอดรถกันในวัดศรีนวล แล้วเดินออกจากวัดมาที่ร้านแทน ร้านคุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง เป็นบริการทุกวันตั้งแต่ 9:00 - 16:00 น. แต่มักจะหมดก่อนสี่โมงเย็นนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจเชียวนะคะ เดี๋ยวจะอดทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อรสชาติเลอเลิศ คุณแม่ค้าก็น่ารัก ร่าเริงแจ่มใสมาก ๆ นะคะ ขอถ่ายรูปก็ชูนิ้ว ยิ้มสู้กล้องทันที พร้อมทั้งกล่าวว่า "ถ้ามีอะไรผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ" ดิฉันคือประทับใจมาก ๆ นอกจากอาหารจะมีรสชาติดีเลิศประเสริฐศรีแล้ว คุณแม่ค้ายังมีจิตใจอ่อนโยน รักในการทำงานบริการอีกด้วยนะคะ เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน และได้โต๊ะนั่งแล้ว เราก็มาพิจารณาเมนูกันค่ะ แต่ละอย่างคือน่าทานมาก ๆ รูปในเมนูก็สวยมาก ๆ เมื่อเลือกได้แล้วก็หยิบกระดาษและปากกาที่อยู่บนโต๊ะมาเขียนรายการอาหารที่ต้องการ และหมายเลขโต๊ะลงไปค่ะ จากนั้นก็นำไปส่งให้พนักงานเสิร์ฟ แล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนรออาหารรสเลิศมาเสิร์ฟค่ะ เพื่อนของดิฉันเพิ่งตัดสินใจลาออกจากงานคอลเซ็นเตอร์ เพราะไม่สามารถรองรับอารมณ์ของลูกค้าได้ไหวค่ะ เธอมีความเครียดทุก ๆ วันที่ไปทำงาน จนไม่สามารถทนทานได้ต่อไป ดิฉันก็ได้แต่เห็นใจ เพราะเข้าใจในความยากลำบาก ในเนื้องานของการเป็นคอลเซ็นเตอร์ดี ดิฉันนับถือน้ำใจของคนทำหน้าที่เหล่านี้มาก ๆ ค่ะ ต้องมีจิตใจเข้มแข็งกันจริง ๆ จึงจะสามารถอดทนต่อการถูกทำร้ายด้วยวาจาได้เป็นประจำ คนเราบางทีก็ลืมนึกไปว่าปลายสายที่คุยกับเราอยู่ ก็คือมนุษย์เช่นเดียวกันกับเรา การสื่อสารกันด้วยความเห็นใจและความเอื้ออาทรต่อกัน จะทำให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารจบการสนทนาลงด้วยจิตใจที่ชุ่มชื่น แต่หลาย ๆ คนก็ใช้โอกาสที่ผู้พูดปลายสายไม่สามารถโต้เถียงได้ ในการระบายความโมโห ส่งความร้อนรุ่มจากใจของตนเองไปสู่อีกฝากฝั่ง เพื่อให้เจ็บปวดเช่นเดียวกันกับที่ตนกำลังเป็นอยู่ ในทางกลับกันดิฉันเองก็เคยได้รับสายจากคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกถึงการถูกคุกคามเช่นเดียวกัน และได้แต่ถอนใจกับการตัดสินใจของพนักงาน ที่เลือกทำงานที่มีการก่ออกุศลทางวาจาอยู่เป็นประจำ ดิฉันจึงตกลงมาทานอาหารมื้อบ่ายกับเพื่อน ทั้งที่ตนเองเพิ่งจะทานอาหารเที่ยงแท้ ๆ เพราะต้องการอยู่ข้าง ๆ เธอ ในวันที่เธอต้องการใครสักคนรับฟัง การทานอาหารรสชาติดีและการมีเพื่อนรับฟัง โดยไม่ตัดสิน ไม่สั่งสอน เป็นหนึ่งในการรับมือกับความเครียดจากการทงาน ที่ได้ผลดีมากนะคะ เมนูที่เพื่อนของดิฉันเลือกในวันนี้คือ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อน้ำข้น ราคา 40 บาท เพราะเธอชอบแทะตีนไก่ เมื่ออาหารของเธอมาถึงเธอดูจะมีความพึงพอใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้ทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ที่ทำหน้าที่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว! เป็นการนำเมนูก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ มาต่อยอดเป็นอาหารมื้อหลักได้อย่างน่าสนใจ และรสชาติดีมาก ๆ อีกด้วยค่ะ ตัวซุปรสชาติกลมกล่อมเข้มข้นพอดี ไม่เค็มจัด ไม่หวานจ๋อย ซดได้สบายใจค่ะ ในส่วนของก๋วยเตี๋ยวปากหม้อที่ทำหน้าที่แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว มีด้วยกัน 4 ไส้ คือไส้กุยช่าย ไส้ข้าวโพด ไส้แครอทและหมูบด และไส้ผัก ตีนไก่เนื้อเปื่อยพอดี ในขณะที่กระดูกไก่ก็นิ่ม แต่เนื้อไก่กลับไม่หลุดลุ่ย ยุ่ยเปื่อยจนล่อนหลุด เป็นที่ถูกใจมาก ๆ ค่ะ นอกจากตีนไก่ก็ยังมีน่องไก่ด้วยนะคะ เนื้อนุ่ม รสเข้ม ดีต่อใจมาก ๆ ค่ะ มาถึงฝั่งดิฉัน ผู้สั่งก๋วยเตี๋ยวปากหม้อต้มยำไข่ ราคา 50 บาท อย่างจะเกริ่นนำก่อนว่า ทุก ๆ อย่างดีมากจริง ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรจะติ มีแต่จะชมค่ะ ตัวน้ำซุปเป็นต้มยำที่รสชาติน่ารัก เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ตามสไตล์ก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ยำด้วยพริกป่น ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือการปรุงรสเค็ม ด้วยกุ้งแห้งฝอย ทำให้ซุปต้มยำสีส้มสวย และหอมกลิ่นกุ้งแห้งเพิ่มเข้าไปอีก ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้ข้าวโพด แป้งนุ่มเหนียว ข้าวโพดรสหวานตามธรรมชาติ ดีเลิศ ถูกใจสุด ๆ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้กุยช่าย ปรุงรสไส้เค็มพอดี และที่สำคัญคือกุยช่ายไม่มีส่วนที่แข็งเลยค่ะ บ่งบอกว่าทางร้านคัดเลือกใบกุยช่ายเฉพาะที่อ่อน ๆ เท่านั้น ใส่ใจในการคัดเลือกสุด ๆ เพื่อรสสัมผัสที่ดีงามของลูกค้า ไข่เป็ดต้มยางมะตูม...ต้มได้สวยงาม น่ารับประทาน และรสดีถูกใจคนชอบไข่ต้มยางมะตูมที่สุดเลยค่ะ หมูสดลวก นุ่มหนา รสละมุน ไม่แข็งเหนียว เคี้ยวลำบาก ถูกอกถูกใจคนรักหมู่นุ่มค่ะ หมูบะช่อ และลูกชิ้นหมู หมูบะช่อเน้นเนื้อหมู ไม่ใช้หมูบดที่เน้นมันหมูตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป จึงทำให้ได้รสชาติของหมูเต็ม ๆ ไม่เลี่ยนด้วยมันหมู ลูกชิ้นหมูเป็นลูกชิ้นเนื้อหมู ไม่ใช่ลูกชิ้นแป้งวิญญาณหมู รสชาติเลิศเลอ คนชอบลูกชิ้นหมูแท้ต้องถูกใจสิ่งนี้ค่ะ แม้ก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามจะให้ปริมาณเยอะมาก จนคนหนึ่งคนควรอิ่มได้แล้ว แต่ดิฉันก็ยังคงไม่พึงพอใจ ต้องสั่งขนมกุยช่ายปากหม้อมาทานเพิ่มค่ะ ซึ่งไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะไส้กุยช่ายนิ่มดี ไม่มีต้นแข็ง ๆ ให้เสียอารมณ์ แป้งก็นุ่มเหนียวบางพอดี น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม ขนมกุยช่ายปากหม้อ ราคาชุดละ 30 บาท มาพร้อมกับน้ำจิ้มและกระเทียมเจียว ให้มาใส่เอาเองเผื่อไม่ชอบกระเทียมเจียวค่ะ อยากให้ดูชัด ๆ เผื่อว่าจะดูภาพแล้วจะรับรู้ถึงรสชาติที่งดงาม ของขนมกุยช่ายปากหม้อของคุณแจงไปพร้อมกับดิฉันด้วยค่ะ เมื่อทานเสร็จดิฉันก็สั่งกลับบ้าน แล้วกลิ้งออกจากร้านมา ด้วยพุงกลม ๆ เดชะบุญ! ที่สั่งกลับบ้านเร็ว เพราะเดินออกมาจากร้านก็พบว่า วันนี้คุณแจงขายหมดแล้วนะคะ... เพิ่งจะบ่ายสองโมงกว่า ๆ เองค่ะ ยังไม่ถึงเวลาปิดร้านเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นใครอยากมาทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อรสชาติดีงาม ควรรีบมานะคะ อย่าชะล่าใจเชียว ถ้ามาไม่ได้จะสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ ก็สะดวกดีนะคะ แต่อย่าลืมรีบสั่งก่อนที่เมนูโปรดของคุณจะหมดนะคะ เมื่อท้องอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาทำให้ใจอิ่มกันด้วยดีกว่า แค่เดินเข้ามาวัดศรีนวล ก็จะรู้สึกได้ถึงความสงบเย็น ที่ทำให้จิตใจที่ทุกข์ร้อนลดองศาลงมาได้ ทั้งที่เป็นวัดกลางใจเมืองนะคะ แต่เข้ามาแล้วรู้สึกสงบดีมาก ๆ เลยค่ะ มาแล้วก็มาหยอดตู้ต่าง ๆ ตามอัธยาศัย แต่ขอเตือนไว้ว่าถ้าไม่อยากตกใจ อย่าหยอดตู้ไปรษณีย์วันเกิด ตู้สีแดงด้านขวามือของรูปนะคะ เพราะหยอดแล้วมีเสียงอวยพรด้วยค่ะ ไฮเทคสุด ๆ ส่วนดิฉันเป็นผู้ชอบเสี่ยงเซียมซีค่ะ ไหน ๆ ก็เพิ่งจะพ้นปีใหม่ได้ไม่นาน เสี่ยงเซียมซีตรวจดวงชะตาตัวเองเสียหน่อยดีกว่า ใบเซียมซีที่นี่ก็ดูขลังมาก ๆ เลยนะคะ ในยุคที่ผู้คนไม่นิยมหยิบใบเซียมซี แต่ชื่นชอบการถ่ายภาพใบเซียมซีมากกว่า เพราะนอกจากจะไม่เปลืองกระดาษแล้ว ยังเก็บไว้อ่านเมื่อไรก็ได้ โพสต์หรือแชร์ก็ทำได้โดยสะดวก เพราะอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเราค่ะ การทานอาหาร บางครั้งไม่ได้เป็นไปเพื่อให้ท้องอิ่ม แต่เป็นไปเพื่อให้ใจอิ่มนะคะ อาหารรสชาติถูกปากจะเป็นมื้ออาหารที่แสนวิเศษ หากผู้ที่ร่วมรับประทานอาหารกับเรา คือ คนที่มีความสำคัญกับเรา ไม่ว่าอาหารนั้นจะรสชาติดีแค่ไหน แต่ถ้าจิตใจของผู้ทานขื่นขม อาหารมื้อนั้นก็ไม่อาจจะให้ความสุขใจแก่ผู้ใดได้ ฉะนั้นเรามาฝึกเป็นผู้ร่วมรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ โดยการใช้การรับประทานอาหาร เป็นโอกาสในการสื่อสารความรู้สึกและความห่วงใย ให้แก่ผู้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารของเรากันดีกว่านะคะ * ภาพปกและภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน