ประโยชน์เพียบ!! ตับผัดพริกหวาน นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว สิ่งแรกที่จะดึงดูดให้เกิดความอยากรับประทานคงจะหนีไม่พ้นหน้าตาและสีสันของอาหาร ดีที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้มีผักหลากหลายชนิดและมีสีสันแตกต่างกันออกไป เมื่อพูดถึงสีสันของผัก “พริกหวาน” น่าจะเป็นคำตอบแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง นั่นคงเป็นเพราะพริกหวานมีให้เลือกถึง 3 สี คือ แดง เขียว เหลือง อีกทั้งพริกหวานยังมีประโยชน์แบบที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะวิตามินซี ที่เหมาะคนช่วงโควิด – 19 ที่ทุกคนต้องการภูมิคุ้มกันโรค ไม่เพียงเท่านั้นพริกวานยังมีสารแคบไซซินที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรง มีสารลูทิโอลินที่ต่อต้านสารก่อมะเร็ง และมีเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตาในพริกวานสีแดงเท่านั้น แต่ด้วยรสชาติและกลิ่นที่มีไม่มากของพริกหวาน ผู้เขียนจึงแนะนำให้ใช้ตับหมูที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาใช้ผัดในวันนี้ เตรียมของกัน ตับหมู 100 กรัม พริกหวาน กระเทียม พริกไทยดำ (ใช้พริกไทยธรรมดาแทนได้) น้ำตาล ½ ช้อนชา น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส (ฝาเขียว) 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสต็อก พร้อมแล้วก็เริ่มตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอเริ่มร้อนให้ใส่กระเทียมและตับลงไปพร้อมกันเลย พอตับเริ่มสุกใส่พริกหวานตามไป เติมน้ำสต็อกเล็กน้อยให้พอขลุกขลิก เริ่มปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา ซอสปรุงรส ปิดท้ายด้วยพริกไทย จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็จัดใส่จานเสิร์ฟได้เลย เคล็ดลับของการทำตับ ควรหั่นให้หนาประมาณ 3-5 มม. เนื่องจากตับสุกง่าย ดังนั้นในการตับต้องรวดเร็ว หากตอนปรุงรสแล้วยังไม่ถูกใจ ควรเบาไฟลงก่อน เพราะถ้าตับสุกมากจนเกินไปจะทำให้แข็งกระด้าง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ พริกไทย ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นคาวของตับได้นั่นเอง ธาตุเหล็กที่ได้จากตับหมู ยังช่วยเพิ่มประโยชน์ของอาหารจานนี้ให้มากขึ้นอีก นับเป็นหนึ่งเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารมากมาย ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับวัตถุดิบที่ใช้ วิธีการทำแสนง่าย ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถอร่อยกันได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ที่ได้เห็นสีสันบนจานนี้แล้ว ต้องสงสัยแน่ว่าเจ้าเหลือง ๆ แดง ๆ เขียว ๆ นี้มันคืออะไร แต่ถ้าจะให้เด็กรับประทาน คุณแม่อย่าลืมลดพริกไทยลงหน่อยแล้วกันนะจ้ะ ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน