วอเตอร์เครสสีแดง กินดิบยังไงดี มีรสชาติยังไง กรอบอร่อยไหม มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขอนามัยมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการเลือกรับประทานผักสดที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งผักกินใบได้หลายชนิดไม่เพียงช่วยเติมเต็มสารอาหารตามธรรมชาติให้ร่างกายของเรา แต่ยังช่วยสร้างความสมดุลให้กับมื้ออาหารทั้งด้านรสชาติและความสวยงาม ทำให้หลายครอบครัวเริ่มมองหาผักที่สามารถกินดิบได้ง่าย ปรุงอาหารได้หลากหลาย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ช่วยดูแลร่างกายในระยะยาว โดยผักบางชนิดถึงแม้ว่าเราจะคุ้นเคย แต่ก็ยังมีอีกหลานสายพันธุ์ที่น่าสนใจและไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ซึ่งหากเลือกให้เหมาะสมก็จะทำให้เมนูธรรมดากลายเป็นเมนูที่พิเศษขึ้นได้ทันที ซึ่งหนึ่งในผักที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นก็คือ วอเตอร์เครสสีแดง ซึ่งเป็นผักที่มีลักษณะโดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์และรสชาติ โดยผักชนิดนี้มีใบสีเขียวเข้มปนแดงอมม่วงที่เกิดจากสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ จึงดูสวยสะดุดตาเมื่อนำไปจัดใส่จานอาหาร นอกจากนี้ยังมีรสเผ็ดเบาๆ ขมเล็กน้อย และความกรอบฉ่ำที่เหมาะกับการกินดิบเป็นพิเศษ จึงทำให้วอเตอร์เครสสีแดงไม่เพียงเป็นผักสำหรับประกอบอาหาร แต่ยังเป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มคุณค่าด้านสุขอนามัย และเพิ่มความน่าสนใจให้กับทุกมื้ออาหารได้อย่างแท้จริงค่ะ รู้ไหมคะว่า วอเตอร์เครสสีแดงเป็นผักใบเขียวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จากเส้นใบและขอบใบที่ออกสีแดงอมม่วง จึงทำให้แตกต่างจากวอเตอร์เครสเขียวทั่วไป โดยความสวยงามของสีนี้ทำให้หลายคนมองวอเตอร์เครสสีแดง กลายเป็นทั้งผักและเครื่องประดับบนจานอาหารในเวลาเดียวกัน ใบมีลักษณะขนาดเล็กถึงปานกลาง ก้านบาง เรียวยาว และมีความกรอบสดเมื่อสัมผัส หากสังเกตอย่างใกล้ชิดใบวอเตอร์เครสสีแดงจะมีพื้นเขียวเข้มปนแดงชัดเจนที่ปลายใบหรือบริเวณเส้นกลางใบ ยิ่งได้รับแสงแดดและอากาศเย็นมากเท่าไร สีแดงจะเข้มชัดและดูสะดุดตามากขึ้นค่ะ อีกทั้งวอเตอร์เครสสีแดงยังมีความอ่อนนุ่มเมื่อกัด ทำให้เหมาะอย่างยิ่งต่อการรับประทานแบบสดๆ ไม่ต้องผ่านการปรุงมากนัก ความกรอบของก้านและความฉ่ำของใบช่วยนี้ สามารถสร้างประสบการณ์การเคี้ยวที่แตกต่างจากผักใบทั่วไป เมื่อจัดใส่จานสลัด แซนด์วิช หรือโรยบนอาหารตะวันตก เช่น พาสต้าและสเต๊ก จะเพิ่มความสวยงามและช่วยให้รสชาติอาหารสมดุลมากขึ้นค่ะ ในขณะเดียวกันก็ยังเข้ากับอาหารไทยที่มีรสจัด เพราะความเผ็ดเบาๆ และความขมอ่อนๆ ของใบช่วยตัดเลี่ยนและเพิ่มมิติให้กับรสชาติ วอเตอร์เครสสีแดงจึงไม่เพียงเป็นผักสดธรรมดา แต่ยังเป็นวัตถุดิบที่สร้างความพิเศษทั้งด้านรสชาติ และรูปลักษณ์ของจานอาหารได้ในคราวเดียวค่ะ สำหรับรสชาติของวอเตอร์เครสสีแดงมีความโดดเด่นและแตกต่างจากผักใบเขียวทั่วไปอย่างชัดเจนนั้น จุดแรกที่สัมผัสได้เมื่อกินดิบคือรสเผ็ดเบาๆ คล้ายกับพริกไทยอ่อนผสมกลิ่นมัสตาร์ด ทำให้เกิดความรู้สึกซู่ซ่าเล็กน้อยบนปลายลิ้น เมื่อเคี้ยวต่อไปจะมีรสขมอ่อนๆ แทรกขึ้นมา แต่ไม่ใช่ความขมที่ทำให้ฝืนกินยาก แต่เป็นความขมละมุนที่ทำให้ผักมีเสน่ห์เฉพาะตัว รสเผ็ดและขมนี้เองที่ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยและทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยตัดเลี่ยนจากอาหารที่มีมันหรือรสเข้มได้เป็นอย่างดีค่ะ นอกจากนี้ความกรอบฉ่ำของก้านและใบ ยังทำให้การกินวอเตอร์เครสสีแดงสดๆ เพลิดเพลินยิ่งขึ้น เมื่อกินร่วมกับน้ำสลัดรสเปรี้ยวอย่างเลมอน น้ำส้มบัลซามิก หรือแม้แต่น้ำสลัดโยเกิร์ต จะช่วยปรับรสให้กลมกล่อมมากขึ้น และยังดึงรสธรรมชาติของผักออกมาได้อย่างลงตัวค่ะ หากนำมากินคู่กับอาหารไทย เช่น ลาบหรือน้ำตก รสเผ็ดเบาและความขมเล็กน้อยของวอเตอร์เครส จะเสริมรสชาติจัดจ้านให้ซับซ้อนขึ้นโดยไม่กลบความอร่อยดั้งเดิม สรุปแล้ววอเตอร์เครสสีแดงมีรสที่ทั้งสดกรอบ เผ็ดนิดๆ และขมเล็กๆ แบบลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติผักที่ไม่ธรรมดา และเพิ่มความหลากหลายให้กับมื้ออาหารค่ะ โดยความกรอบและความสดเป็นเสน่ห์สำคัญของวอเตอร์เครสสีแดง ที่ทำให้เหมาะกับการรับประทานแบบดิบๆ โดยตรง ก้านของวอเตอร์เครสสีแดงมีลักษณะบางแต่คงความตึงและเด้ง เวลากัดจะได้ความกรุบกรอบเบาๆ คล้ายผักใบอ่อนที่มีน้ำในตัวสูง ส่วนใบแม้จะดูเล็กและบาง แต่กลับมีความฉ่ำสด เมื่อเคี้ยวแล้วรู้สึกถึงน้ำที่ซึมออกมาเล็กน้อย ผสมกับรสเผ็ดและขมอ่อนๆ จึงทำให้ผักชนิดนี้ไม่เพียงแต่กินง่าย แต่ยังสร้างประสบการณ์การกินที่สนุกและไม่จำเจค่ะ และความกรอบนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้วอเตอร์เครสสีแดงแตกต่างจากผักใบเขียวอื่นๆ ที่อาจนิ่มหรือเหนียวจนไม่น่ารับประทานแบบดิบ อีกทั้งความสดยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของวอเตอร์เครสสีแดงได้อย่างดีค่ะ หากเป็นวอเตอร์เครสที่เพิ่งเก็บใหม่ ใบจะยังคงความตึง สีแดงอมม่วงชัดเจน ไม่เหี่ยวและไม่ช้ำ เมื่อนำไปผสมในสลัดจะยังคงความกรอบแม้คลุกกับน้ำสลัดนานพอสมควร ที่จะต่างจากผักบางชนิดที่เหี่ยวหรือชืดเร็ว ซึ่งการเก็บรักษาความสดสามารถทำได้โดยห่อด้วยกระดาษทิชหรือผ้าที่ชื้น จากนั้นใส่ในกล่องปิดฝาสนิทและนำไปใส่ตู้เย็นช่องผัก แบบนี้จะช่วยยืดอายุความกรอบและสดได้อีก 2–3 วันค่ะ ทำให้สามารถหยิบมาล้างแล้วกินดิบได้ทันทีที่ต้องการ หากผู้บริโภคเลือกซื้อวอเตอร์เครสสีแดงที่ยังกรอบและสดใหม่ ก็จะได้รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่ดีค่ะ แลคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การกินวอเตอร์เครสสีแดงแบบดิบ ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยดึงรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการออกมาได้อย่างเต็มที่ที่สุด เพราะสารอาหารที่ให้สีแดงอมม่วงนั้น จะคงอยู่ครบเมื่อไม่ผ่านความร้อน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำมาล้างให้สะอาดด้วยน้ำไหลหลายครั้ง แล้วอาจแช่ในน้ำเกลือหรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจางสัก 5–10 นาทีเพื่อความมั่นใจ จากนั้นสามารถรับประทานสดๆ ได้ทันที โดยนิยมใส่เป็นส่วนผสมในสลัดผัก เพราะช่วยเพิ่มทั้งสีสันและรสชาติที่เผ็ดเบา ขมเล็กน้อย และสดชื่น เหมาะกับการกินคู่กับผักใบเขียวชนิดอื่นๆ หรือแม้แต่มะเขือเทศและแตงกวาเพื่อสร้างความหลากหลายในจานเดียวค่ะ นอกจากนี้วอเตอร์เครสสีแดงยังสามารถใช้เป็นผักแนมในอาหารไทยได้อย่างลงตัว ด้วยความเผ็ดอ่อนและความกรอบเบาของใบ จึงช่วยตัดเลี่ยนเมนูที่มีรสจัดหรือมันมาก เช่น ลาบ น้ำตก เนื้อย่าง หรือแม้แต่น้ำพริกปลาทู เมื่อวางเคียงกับอาหารเหล่านี้จะทำให้รสชาติซับซ้อนและสดชื่นขึ้นทันตา อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ตกแต่งจานอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กหรือพาสต้าได้เป็นอย่างดี เพราะสีแดงอมม่วงของใบช่วยเพิ่มความสวยงามและความหรูหราให้กับจาน การกินวอเตอร์เครสสีแดงดิบจึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมโภชนาการ แต่ยังทำให้มื้ออาหารดูน่าสนใจและมีเสน่ห์มากขึ้นด้วยค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมวอเตอร์เครสสีแดงจึงมีสีแดงน้อย ในประเด็นนี้มีคำตอบค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการปลูกค่ะ โดยเฉพาะแสงแดดและอุณหภูมิ เนื่องจากสารตามธรรมชาติที่ทำให้ใบออกแดงอมม่วง จะสร้างได้มากขึ้น เมื่อพืชได้รับแสงแดดจัดและอากาศเย็นสบายนะคะ หากปลูกในที่ร่มหรือช่วงอากาศร้อนจัด ใบจึงออกเขียวมากกว่ามีสีแดง อีกทั้งยังมีเรื่องของดินหรือสารละลายที่ใช้ปลูก หากมีไนโตรเจนมากเกินไป ใบจะเจริญเขียวสดแต่สีแดงกลับลดลง ในขณะที่ธาตุโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสที่สมดุลจะช่วยส่งเสริมให้สีแดงชัดเจนขึ้น นอกจากนี้พันธุ์หรือสายพันธุ์ของวอเตอร์เครสก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะบางพันธุ์ให้สีแดงเข้ม แต่บางพันธุ์อาจออกเขียวมากกว่าโดยธรรมชาติ และถึงแม้สีแดงของวอเตอร์เครสจะมีผลต่อความสวยงามและบ่งบอกถึงปริมาณสารตามธรรมชาติ แต่การที่สีแดงน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าทางอาหารจะหายไปทั้งหมดนะคะ แค่คุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติยังคงมีอยู่ครบถ้วนค่ะ รวมถึงใยอาหารด้วยก็ไม่ได้ลดลง แต่สิ่งที่ต่างออกไปเพียงเล็กน้อยคือสารสีแดงที่อาจน้อยกว่าพืชที่แดงจัด ดังนั้นเวลาซื้อวอเตอร์เครสสีแดง ควรพิจารณาความสด ก้านกรอบ ไม่เหี่ยว ไม่มีรอยเหลืองหรือรอยช้ำมากกว่ามุ่งดูแต่สีเพียงอย่างเดียว เพราะแม้ใบจะออกแดงน้อย แต่ถ้ายังสดใหม่ สะอาด และเก็บรักษาอย่างถูกวิธีก็ยังคงเป็นผักที่กินดิบได้อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเช่นเดิมค่ะ ในการเลือกซื้อวอเตอร์เครสสีแดงให้ได้คุณภาพดีและเหมาะสำหรับการกินดิบนั้น ควรสังเกตจากลักษณะของใบและก้านเป็นอันดับแรก ใบที่สดใหม่จะต้องมีความตึง ไม่เหี่ยวหรือช้ำ สีใบควรมีเขียวเข้มผสมแดงอมม่วงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หม่นหรือเหลือง เพราะนั่นคือสัญญาณของการเก็บไว้นานเกินไป ก้านควรตรงและแข็งแรง ไม่อ่อนนิ่มหรือหักง่าย เมื่อใช้มือสัมผัสเบาๆ จะรู้สึกถึงความกรอบที่ซ่อนอยู่ภายใน การเลือกผักที่มีลักษณะเช่นนี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่ารสชาติเมื่อกินดิบยังคงความกรอบและฉ่ำตามธรรมชาติค่ะ และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ แหล่งที่มาหรือร้านค้าที่ซื้อ หากเป็นร้านที่มีการหมุนเวียนสินค้าเร็ว และดูแลความสะอาดของผักเป็นอย่างดี มักจะได้วอเตอร์เครสสีแดงที่สดใหม่กว่า ควรหลีกเลี่ยงผักที่มีกลิ่นผิดปกติ มีคราบสกปรก หรือมีแมลงติดอยู่ เพราะบ่งบอกถึงการจัดเก็บที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เมื่อซื้อมาแล้วหากต้องการเก็บไว้ต่อ ควรห่อด้วยกระดาษหรือผ้าที่ชื้นเล็กน้อยแล้วใส่กล่องปิดสนิทก่อนนำไปแช่ในตู้เย็นช่องผัก เพราะจะช่วยรักษาความกรอบและสีสันได้นานขึ้น ทำให้พร้อมสำหรับการนำไปกินดิบได้อย่างปลอดภัยและอร่อยเสมอค่ะ หลายคนยังไม่รู้ว่า วอเตอร์เครสสีแดงสามารถนำไปปรับใช้กับเมนูหลากหลายได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเมนูที่เน้นความสดและการกินดิบ เมนูแรกที่เหมาะที่สุดคือ สลัดผักรวมค่ะ เพราะสีแดงอมม่วงของใบช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับจาน ในขณะที่รสเผ็ดเบาๆ และขมเล็กน้อยจะเข้ากันได้ดีกับน้ำสลัดเปรี้ยว เช่น เลมอนหรือบัลซามิก นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นสลัดวอเตอร์เครสสีแดงกับผลไม้สด อย่างแอปเปิ้ล องุ่น หรือส้มได้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความหวานสดชื่นกับรสจัดของใบผักได้อย่างลงตัวค่ะ และอีกทางเลือกคือการนำไปใช้เป็นผักแนมกับอาหารไทยรสจัด เช่น ลาบ น้ำตก หรือต้มยำ เนื่องจากรสเผ็ดอ่อนและความกรอบของวอเตอร์เครสช่วยตัดเลี่ยนและทำให้รสอาหารกลมกล่อมมากขึ้น สำหรับสายอาหารตะวันตกสามารถโรยวอเตอร์เครสสีแดงสดๆ ลงบน พาสต้า พิซซ่า หรือสเต๊ก เพื่อเสริมทั้งรสชาติและความหรูหราให้กับจานอาหาร ในกรณีที่อยากได้เมนูเบาๆ สามารถนำวอเตอร์เครสสีแดงมาทำเป็นสมูทตี้ผักผลไม้ โดยปั่นรวมกับแอปเปิ้ลหรือกีวี ก็จะได้เครื่องดื่มสีสวยที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารและความสดชื่นจากธรรมชาติค่ะ ที่โดยสรุปแล้ววอเตอร์เครสสีแดงเป็นผักที่มีความน่าสนใจทั้งในด้านรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยรสเผ็ดเบาๆ ขมเล็กน้อย และความกรอบฉ่ำ จึงเหมาะกับการกินดิบและนำไปปรับใช้ได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก อีกทั้งสีแดงอมม่วงของใบยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้จานอาหารดูสวยงามมากขึ้น ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านความอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารตามธรรมชาติ และด้วยความที่เป็นผักที่ปลูกไม่ยากและสามารถดูแลได้แม้ในพื้นที่จำกัด วอเตอร์เครสสีแดงจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกไว้เป็นผักในครัวเรือน ทั้งปลูกในกระถาง ปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ หรือปลูกในแปลงเล็กๆ ก็ทำได้สะดวก หากมีไว้ในบ้านจะช่วยให้ได้ผักสดปลอดภัยไว้กินเองทุกวัน ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังมั่นใจได้ว่าผักที่นำมากินดิบสะอาดและปลอดสารเคมี การปลูกวอเตอร์เครสสีแดงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทั้งดีต่อสุขอนามัยและดีต่อครัวเรือนในระยะยาวค่ะ เพราะที่นี่ผู้เขียนได้ปลูกวอเตอร์เครสสีแดงไว้เป็นผักในครัวเรือนค่ะ โดยตอนแรกสุดนั้นเริ่มจากการไปซื้อผักชนิดนี้จากร้านขายต้นไม้ จำได้ว่าตอนนั้นซื้อมาถุงละ 20 บาท และได้นำไปปลูกไว้ที่บ้านสวน ต่อจากนั้นไม่นานพบว่าวอเตอร์เครสสีแดงที่ปลูกเกิดงามดีมากๆ จนกินไม่ทัน พอว่างผู้เขียนเลยตัดกิ่งมาปักชำในถุงดำ ได้หลายถุงมากค่ะ น่าจะมากกว่า 15 ถุง อยู่มาวันหนึ่งป้ามาบ้านเห็น เลยถามว่าผักอะไรทำไมสีแดงจัง ซึ่งตอนนั้นสีแดงอมม่วงทุกใบเลยค่ะ พออธิบายไปว่าคืออะไร ป้าเลยขอซื้อไป 3 ถุง แล้วในระหว่างทางที่ป้ากลับบ้านไปจอดตลาด คนแถวนั้นเห็นก็ถามซื้อต่อ แต่ป้าไม่ขายแต่บอกให้มาซื้อกับผู้เขียน โดยตอนนี้ผู้เขียนเพาะไว้เพิ่มเพื่อขาย แต่ในบางครั้งก็แจกฟรีค่ะ วอเตอร์เครสปลูกง่ายมากค่ะ อีกทั้งกินดิบได้ง่ายๆ เด็กก็ยังกินได้ กรอบอร่อย ไม่ได้เผ็ดเหมือนส้มตำ หรือขมเหมือนสะเดา ห่างไกลกันมาก ที่ต้องลองนำมาปลูกและรับประทานเองค่ะ ถึงจะรู้ว่าเป็นยังไง ปกติผู้เขียนนำวอเตอร์เครสแดงมาทานดิบในทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่ทานคู่กับยำปลากระป๋องค่ะ ทำสลัดผักก็เรื่อยๆ และไม่ได้เก็บมาไว้ในตู้เย็นค่ะ เพราะเดินไปเก็บหน้าบ้านตอนต้องการ สดใหม่จริงกินอร่อยต้องวอเตอร์เครสสีแดงค่ะ ในบางครั้งหากไปร้านขายผักปลอดสารพิษ อาจพบว่ามีการขายวอเตอร์เครสแดงนะคะ ยังไงลองไปหามาลองกันคะทุกคน และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #วอเตอร์เครสแดง #ผักที่กินดิบได้ #ผักกินใบ # เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ต้นอ่อนทานตะวัน กินดิบได้ไหม รสชาติยังไง ทำอะไรได้บ้าง ผักสลัดกรีนคอส แบบไหนสดใหม่ ดูยังไงดี น่าซื้อ เคล็ดลับเลือกซื้อสะระแหน่ สดใหม่ ดูยังไงดี น่าซื้อ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !