เมื่อมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้นึกถึงเทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรัก ตามห้างร้านต่าง ๆ ก็มักจะขายสินค้าเข้ากับเทศกาล ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปหัวใจ สีแดง สีชมพู แต่ที่น่าแปลกใจนอกจากเดือนกุมภาจะเป็นเทศกาลแห่งความรักแล้ว ยังเป็นเทศกาลสตรอว์เบอร์รีที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย จะเรียกสตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ประจำวันวาเลนไทน์ก็ได้อยู่นะ เพราะเป็นผลไม้รูปทรงคล้ายหัวใจและมีสีแดงอีกด้วย สาเหตุที่เดือนนี้เป็นฤดูสตรอว์เบอร์รีนั่นก็เพราะอากาศที่หนาวเย็นมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ก็เป็นช่วงเวลาเหมาะแก่การเก็บเกี่ยวที่กำลังสุกงอม แต่ทราบกันไหมค่ะว่า ผลไม้ชนิดนี้มีอันตรายกว่าที่คุณคิด เพราะอาจมียาฆ่าแมลงตกค้างเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงอยากมาแนะนำ 3 วิธีล้างสตรอว์เบอร์รีให้สะอาด ปลอดยาฆ่าแมลง ให้ติดตามกันค่ะ สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง การรับประทานสตรอว์เบอร์รีสดให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่า สตรอว์เบอร์รีเชื่อมหรือสตรอว์เบอร์รีอบแห้ง การเลือกซื้อควรเลือกซื้อที่ผิวไม่ช้ำ เนื้อค่อนข้างแข็ง สามารถซื้อผลห่าม ๆ กรณียังไม่ทานทันที ปกติผู้เขียนชอบทานของโครงการหลวง จะเป็นพันธุ์พระราชทาน 80 รสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน ถ้าสุกมากจะหวาน ช่วงก่อนหน้านี้มีลดราคาอยู่ที่ 3 กล่อง 100 บาท แต่ถ้าไม่มีโปรโมชั่น ขนาดเล็กจะอยู่ที่กล่องละ 35 บาท ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะเป็น 45 บาท 85 บาท 100 บาท ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของสตรอว์เบอร์รี ก่อนรับประทานก็ควรล้างทำความสะอาดเพื่อล้างสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงที่เคลือบผิวออกก่อน โดยสามารถนำไปแช่ในน้ำส้มสายชู น้ำเกลือ หรือ ด่างทับทิม เมื่อล้างแล้วควรทานทันที ไม่ควรล้างทิ้งไว้ก่อนทานนาน ๆ เพราะตอนล้างเราแช่น้ำ ความชื้นจากการแช่น้ำจะทำให้สตรอว์เบอร์รีเสียเร็วขึ้น วิธีการล้างสตรอว์เบอร์รีให้สะอาดปลอดยาฆ่าแมลง ควรเริ่มจากเด็ดใบอ่อนหรือตัดขั้วออกแล้วแต่ความชอบ บางคนไม่ชอบกินตรงขั้วก็คว้านขั้วออก การนำใบอ่อนออกก็เพื่อกำจัดสารเคมีที่ตกค้างที่ใบอ่อน หรือขี้ดิน สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดอยู่ที่ใบอ่อนออกก่อน จากนั้นนำไปแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมด่างทับทิม โดยมีอัตราส่วนดังนี้ 1. น้ำผสมน้ำส้มสามชู ใช้น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตรผสมกับน้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ แช่สตรอว์เบอร์รีทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด 2. น้ำผสมเกลือเกลือ ใช้น้ำเปล่า 1 ลิตรผสมกับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แช่สตรอว์เบอร์รีทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด 3. น้ำผสมด่างทับทิม ใช้ผสมน้ำเปล่า 1 ลิตรผสมกับด่างทับทิม 20-30 เกล็ด แช่สตรอว์เบอร์รีทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด รูปน้ำผสมด่างทับทิม สามารถล้างได้ทั้งสามวิธีข้างต้นเลือกเอาตามแต่ที่สะดวก ถ้าที่บ้านมีเกลือใช้น้ำเกลือ มีน้ำส้มสายชูใช้น้ำส้มสายชู ถ้ามีด่างทับทิมใช้ด่างทับทิม ปิดท้ายด้วยรูปลูกชายกำลังทานสตรอว์เบอร์รีของโปรด เพิ่มวิตามินซี ห่างไกลโรคหวัด ถ้าเดือนกุมภาพันธ์นี้มีโอกาสมาเที่ยวเชียงใหม่ลองขึ้นดอยไปเก็บสตรอว์เบอร์รีกันนะคะ ได้ฟีลคล้าย ๆ ไปเก็บสตรอว์เบอร์รีที่ญี่ปุ่นอยู่ค่ะ แต่นี่เมืองไทยบ้านเราเอง ช่วงนี้อากาศตอนเช้าที่เชียงใหม่ก็ยังคงหนาวเย็นอยู่บ้าง ถ้ามาเที่ยวอย่าลืมพกเสื้อกันหนาวกันมาด้วยค่ะ และไม่ลืมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ กันได้ทั้งโควิดและ PM2.5 ต้องใส่หน้ากาก Unicharm 3D Mask ค่ะ ใส่สบายมีลวดตรงจมูกทำให้ปรับกระชับเข้ากับรูปหน้า ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เครดิตภาพ : unsplash : ภาพปก / ภาพประกอบอื่น ๆ โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !