ผัดผักบุ้ง ถือได้ว่าเป็นอาหารที่คู่ครัวของใครหลาย ๆ คน ที่มีความชื่นชอบรับประทานผักบุ้ง ผักบุ้งสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงส้มผักบุ้ง ไก่ผัดผักบุ้ง ยำผักบุ้งทอดกรอบ ผัดกระดูกหมูผักบุ้ง และสิ่งที่จะเข้ากันกับผักบุ้งมาที่สุด คือ “เมนูผัดผักบุ้ง” โดยผักบุ้งยังสามารถนำมาเป็นเครื่องเคียง เช่น ผักบุ้งลวกรับประทานคู่กับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกกะปิ หรือแม้แต่นำผักบุ้งสดมารับประทานคู่กับส้มตำ ที่คนไทยชาวอีสานชื่นชอบนำมารับประทานคู่กัน ซึ่งการนำมารับประทานสด ต้องมีการล้างทำความสะอาด เพื่อไม่ให้พยาธิเข้าสู่ร่างกาย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาทำเมนูคู่ครัว “ผัดผักบุ้ง” ที่ง่ายและอร่อย ฉบับชาวหอ หลายคนอาจจะคิดว่าต้องเตรียมอุปกรณ์มาก แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำฉบับชาวหอ ที่ทั้งง่ายและอร่อย มาเริ่มทำพร้อมกันเลย อุปกรณ์/เครื่องปรุง 1.ผักบุ้ง 1 กำ 2.พริก 3 เม็ด (แล้วแต่ความชื่นชอบความเผ็ดของแต่ละคน) 3.กระเทียม 2 กรีบ 4.ซอสปรุงรส 5.ผงปรุงรส 6.ซอสหอยนางรม 7.น้ำตาลทราย 8.น้ำปลา 9.กระทะ (ที่สามารถใช้กับเตาไฟฟ้าได้) 10.เตาไฟฟ้า ขั้นตอนการทำ 1.ตั้งกระทะ แล้วเทน้ำมันพืชลงไปในกระทะ พอน้ำมันร้อน ให้นำกระเทียมและพริกลงผัดให้มีความหอม 2.นำผักบุ้งที่หั่นเป็นท่อน ๆ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้พอแห้ง จึงนำผักบุ้งลงกระทะ พร้อมลดระดับความร้อนลดลง เพื่อไม่ให้พริกและกระเทียมไหม้ 3.เติมน้ำเล็กน้อย จึงปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำปลา ผงปรุงรส และน้ำตาทราย “ปริมาณในการปรุงรสขึ้นอยู่กับแต่ละคน ที่มีความชื่นชอบในแต่ละรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เราจึงไม่ได้กำหนดปริมาณในการปรุงให้ทุกคน” 4.เมื่อทำการปรุงรสได้รสชาติตามต้องการแล้ว โดยเร่งไฟให้แรง แล้วผัดไปอีกสักพักให้ผักบุ้งสุก จึงปิดไฟ 5.ตักลงจานตกแต่งให้สวยงาม พร้อมรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันได้ดีมาก ผักบุ้งยังมีสรรพคุณที่ทุกคนรู้เป็นอย่างดี คือช่วยบำรุงสายตานั่นเอง แต่ผักบุ้งยังมีสรรพคุณอีกมากที่ทุกคนยังไม่รู้ เช่น ช่วยในการลดน้ำหนัก ป้องกันมะเร็ง บำรุงหัวใจ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด บำรุงเลือด แก้ปัญหาท้องผูก ขับสารพิษ ช่วยทำให้เจริญอาหาร และในผักบุ้งยังมีสารอาหารอีกมาก เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และอีกมากมาย เมนูอาหารเย็นมื้อนี้ คงต้องมีผัดผักบุ้งอยู่บนโต๊ะอาหารของทุกคนแล้วใช่ไหมครับ การรับประทานต้องมีความหลากหลาย จึงจะได้ได้รับสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ และต้องมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ภาพประกอบ:ถ่ายโดยผู้เขียนบทความ(JameWut)