ขาดไม่ได้เลย ตัดกันไม่ขาด ถึงจะมาชุบตัวเป็นสาวนอร์ดิกไกลจากไทยมากกว่า 8000 กิโล ความนัวก็ต้องตามมา ความเปรี้ยวปากเกิดขึ้นได้ไม่จำกัดพิกัด และแน่นอนว่า ไม่มีใครไม่คิดถึงส้มตำนัว ๆ แต่ปัญหาที่ทุกคนเจอคือ เรามันสายประหยัด จะไปกินร้านอาหารไทยทุกมื้อเห็นท่าจะไม่ไหว ก็ต้องตำกินเองนั่นแหละค่ะ มะละกอไทย ในต่างประเทศแพงจริง ?ปัญหาต่อมาคือ สินค้าบางอย่างจากไทยที่มาขายที่สวีเดนมันแพงมากค้าาาา คือแพงชนิดที่เราควรเก็บเงินเอาไว้จะดีกว่า โดยปกติราคาก็จะผันผวนตามค่าขนส่ง ตามราคาที่ไทย ซึ่งถ้าในร้านไทยที่ไปซื้อบ่อย ราคาจะอยู่ประมาณ 90 kr. เลย แต่วันนี้ที่ไปเจอมาก็แพงสุดไปเลย 149 kr. ประมาณ 521 บาทต่อกิโลกรัม เราก็เลยมาหาวิธีเพิ่มปลาร้าเข้าเส้นเลือด แบบประหยัดกันค้าตำแทนมะละกอ รสชาติดี ราคาดีมากเราเรียนรู้จากเพจแม่ ๆ ที่อยู่ต่าแดนที่หาอะไรมาตำแทนมะละกอ ที่หาง่ายกว่า เดิมไปซุปเปอร์ก็เจอ ส่วนตัวลอง 2 แบบเลย จะมีหัวโคราบี้ Kohlrabi และ ครัวรูท Rutabaga ภาษาสวีเดนเรียกว่า Kålrot คือทั้งสองหัวตะเป็นหัวของพืชที่เอามาขูดๆ เป็นเส้น ๆ และใช้ตำแทนส้มตำได้เลย บางสูตรจะมีการขูดแชร์น้ำส้มสายชู สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นเหม็นเขียว ส่วนตัวไม่กินผักที่เหม็นเขียวนะ แต่ทั้ง 2 หัว ไม่ได้กลิ่นแรงขนาดนั้น ออกจะไปทางกรอบ ๆ น่ากินด้วยซ้ำ กินครั้งแรกก็คือว้าวเลย ด้วยราคาก็ดีกว่าด้วย หัวครัวรูท จะอยู่ที่กิโลละ 29 kr. ประมาณ 101 บาท , หัวโคราบี้ กิโลละ 14 kr. ประมาณ 49 บาท แล้วหัวนึงตำได้มากกว่า 3 จานด้วย ไม่เคยซื้อเต็มกิโลเลย เพราะมันได้เยอะ และหาง่ายมาก หน้าตาของน้องจะหน้าตาประมาณนี้ ก่อนปอกเปลือกหัวโคราบี้ Kohlrabi หน้าตาแบบนี้เวลาที่เราซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ต น้องจะถูกตัดใบๆออก เหลือแค่หัว เราก็เลือกหัวเหมาะ ๆ ที่พอสำหรับการตำของเราได้เลย แต่ถ้าอยากขูดเอาไว้ ก็ขูดไว้ทั้งหมด เก็บใส่ถุงซิปล๊อคไว้ในตู้เย็นช่องผัก ไว้ตำ ไว้นัวรอบต่อไปได้เลยเวลาที่น้องปอกเปลือกเขียวๆ ออกมาแล้ว เนื้อด้านในจะเป็นแบบนี้ ไม่แข็ง และไม่ได้นิ่มเกิน เป็นหัว ๆ แบบนี้ไม่คิดเลยว่า จะใกล้เคียงเส้นมะละกอมาก หลังจากที่เราล้างทำความสะอาด เตรียมน้องมาขูด ๆ ไว้สำหรับตำ บอกเลยว่า เหมือนเส้นมะละกอสุด ๆ ทั้งเนื้อสัมผัสก็ใกล้เคียงกัน แววอร่อย แววนัวเริ่มมาแล้ว พอน้องถูกปรุง ถูกสร้างความนัว บอกเลยว่านัวจริง เราใช้เป็นปลาร้าอะไรก็ได้ (ที่ลดราคา 5555) คิดว่าปลาร้าถูกปรุงมาแล้ว เรามีความสามารถทำให้แซ่บได้แน่นอนอยู่แล้ว และนี่คือหน้าตาของน้อง น่ากินมาก ๆ หัวครัวรูท Kålrot หน้าตาแบบนี้สำหรับหัวครัวรูท ลักษณะภายนอกจะเหมือนหัวมันเทศ น้ำหนักค่อนข้างเยอะ จะแข็งกว่าหัวโคราบี้ ลูกหนึ่งตำได้หลายจานมาก ๆ เราก็ขูดไว้ทั้งหมด แช่น้ำส้มสายชูเอาไว้ได้ เส้นจะกรอบกว่าหัวโคราบี้ ถ้าเราขูด ๆ ออกมา เราจะสังเกมได้ว่าเป็นลูกครึ่งระหว่ามะละกอ+มะม่วงดิบ จะเป็นฟิลนั้นเลยพอเราได้น้องมาแล้ว เราก็เอามาล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกด้วยนอกออก ซึ่งเปลือกจะแข็งกว่าหัวโคราบี้ ต้องใช้ความระวังนิดนึง พอน้องถูกปอกเปลือกแล้ว หน้าตาของน้องจะประมาณนี้ไม่รอช้า หลังจากล้างทำความสะอาดอีกรอบ เราก็มาเริ่มขุด ๆ น้องกันเลย อย่างที่บอกว่า หัวครัวรูท จะแข็ง ๆ เป็นลูกครึ่งผสมระหว่างมะละกอกับมะม่วงดิบ เวลาเราขูดถ้าอยากให้ง่ายก็ผ่าแบ่งครึ่งก็ได้ แต่ส่วนตัวค่อย ๆ ขูดช้า ๆ แบบทั้งลูกไปเลย หลังขูดออกมาแล้วเนื้อสัมผัสจะประมาณนี้ถ้ากลัวมีกลิ่นเหม็นเขียน ก็แช่น้ำส้มสายชูให้ฉ่ำไปเลย แช่สัก 30 นาทีก็โอเคแล้วจ้า เอาขึ้นมาเสร็จน้ำ แบ่งเก็บใส่ตู้เย็นไว้ตำคราวหน้า แล้วก็ไปเริ่มตำกันเลยจ้า หัวโคราบี้ หัวครัวรูทตำแทนมะละกอได้จริงมั้ย ?จากภาพก็น่าจะเห็นกันแล้วว่า แทบจะแยกไม่ออกจากเส้นส้มตำแล้ว ด้วยความถึงของความเผ็ด ปลาร้า และฝีมือของเรา อิอิ รับรองว่าเป็นมื้ออาหารที่อร่อย นัวส้มใจแบบประหยัด หาซื้อง่าย ไม่มีร้านไทยที่ขายมะละกอ หรือร้านอาหารไทยที่ราคาค่อนข้างสูง ก็เลือกใช้น้อง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารได้เลยจ้า เป็นครัวไทยในต่างแดนอย่างสมบูรณ์ การันตีความแซ่บจากแม่ ๆ ในกลุ่มครัวไทยในยุโรปมาแล้วจ้า ใครไปยุโรปก็ลองชิมดู พิสูจน์ดูว่าเป็นไงกันบ้างนะคะภาพประกอบผู้เขียนเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !