โจ๊กอุ่นๆ ทานคู่กับปาท่องโก๋ในตอนเช้า เรียกได้ว่าเป็นอาหารคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน หรือแม้กระทั่งในวันที่เราป่วย โจ๊กก็เป็นที่พึ่งให้เราได้เสมอ ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถทำโจ๊กได้ง่ายขึ้น เพราะหม้อหุงข้าวหลายยี่ห้อได้ใส่ฟังก์ชั่นการทำโจ๊กมาให้แล้ว โดยวิธีการทำขอแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ท็อปปิ้ง ไข่ลวก และส่วนที่ต้องเริ่มก่อน คือ น้ำซุปที่ในการหุงข้าว ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้ น้ำสะอาด 500 ml. สูตรนี้โจ๊กจะมีความข้นมาก ถ้าใครชอบแบบน้ำๆ ใสๆ ให้เพิ่มปริมาณน้ำเข้าไปได้ เห็ดหอม รากผักชี กระเทียม เครื่องปรุง ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนชา พริกไทยเล็กน้อย ใส่ทุกอย่างลงในหม้อ ต้มไปปานกลางประมาณ 5 นาที ดูให้เห็ดพอสุก พักไว้ให้น้ำซุปเย็นลง ระหว่างรอให้ซาวข้าวหอมมะลิ โดยใช้ข้าวหอมมะลิครึ่งถ้วยตวง แล้วใส่ข้าวและน้ำซุปลงในหม้อหุงข้าว เลือกฟังก์ชั่น “โจ๊ก” ก็เป็นที่เรียบร้อย หลังจากข้าวสุกจะได้โจ๊ก 2 ถ้วย ในน้ำซุปที่เราทำมีกระเทียม รากผักชี และเห็ดหอมอยู่ ถ้าเราใส่ลงไปหุงด้วย จะทำให้โจ๊กมีกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร แต่ถ้าไม่ชอบสามารถใช้ตะแกรงกรองออกได้ ก่อนใส่ลงในหม้อหุงข้าว ต่อมาคือ “ไข่ลวก” ใช้วิธีต้มน้ำให้เดือดจัดๆ ก่อน หลังจากนั้นปิดไฟแล้วนำไข่ลงไปแช่ ประมาณ 10 นาที แล้วตักออกมาแช่ในน้ำเย็น หากใครชอบไข่แดงแบบยังไม่สุกหรืออยากได้แบบไข่ที่สุกแล้ว ก็สามารถลดหรือเพิ่มเวลาในการแช่ไข่ในน้ำร้อนได้ตามต้องการ สุดท้ายคือส่วนของท็อปปิ้ง หรือจะเรียกว่าเครื่องเคียง ที่ให้โปรตีนสำหรับรับประทานคู่กับโจ๊ก แบบไม่เหมือนใครสไตล์เกาหลี โดยใช้วัตถุดิบ 2 อย่าง คือ กิมจิ และหมูสามชั้นแบบสไลด์ ลักษณะเหมือนที่ใส่ในชาบู เพราะมีความบางทำให้สุกง่ายและไม่เหนียว ส่วนวิธีทำให้หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นพอดีคำ นำลงไปย่างในกระทะ รอให้หมูสุกหรือใครชอบแบบเกรียมๆ ก็ย่างให้นานขึ้นหน่อย แล้วจึงใส่กิมจิลงไปผัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จพิธี เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ หากสังเกตดีๆ โจ๊กที่ออกมาจะมีสีออกน้ำตาล บางท่านอาจคิดว่าดูไม่น่ารับประทานเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะเราใส่น้ำปลาและซีอิ้วขาวในการทำน้ำซุปนั่นเอง ผลที่ได้คือความหอมของเครื่องปรุงทั้งสองอย่าง อีกทั้งเวลารับประทานก็ไม่ต้องเสียเวลาปรุงเพิ่มอีก แต่ถ้าต้องการให้ข้าวดูขาวสะอาด ก็สามารถตัดน้ำปลาและซีอิ้วขาวออกได้ แล้วใช้ “เกลือ” ในการปรุงรสแทน ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน