พัฒนาการลูกน้อย...โภชนาการเด็ก...ลูกเติบโตสมวัย ได้รับสารอาหารครบหมู่ ... กลุ้มใจจัง..มีแต่คนทักว่าลูกตัวเล็ก...น้องจะได้สารอาหารครบไหม...เสริมวิตามินให้ลูกน้อยดีไหม...แล้วตัองตัวไหนล่ะ ...โอ๊ย! ลูกจ๋าทำไมไม่กินวิตามินรสส้มอร่อยจริง ๆ นะ....สารพัดสารพันปัญหาที่คนเป็นแม่กำลังประสบอยู่ใช่ไหมค่ะ วันนี้ขอใช้ประสบการณ์การเป็นแม่ลูกสองที่เลี้ยงลูกเองทุกกระบวนการ ลองผิดลองถูกมาก็มาก มาเล่าประสบการณ์สู่กันฟังถึงเคล็ดลับในการทำอาหารเพื่อลูกน้อยของเรากัน ปลา เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี เป็นโปรตีนย่อยง่าย เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ๆ ที่ยังมีพัฒนาการของระบบย่อยยังไม่สมบูรณ์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโอเมก้า เสริมสร้างเซลล์สมอง หรือเรียกว่าทำให้เด็กฉลาดนั่นเอง สารพัดคุณประโยชน์ขนาดนี้ แม่ ๆ อย่างเราคงไม่รอช้าที่จะนำมาปรุงอาหารให้ลูกน้อยแน่นอน แต่สิ่งที่หลายครอบครัวมักประสบเหมือน ๆ กันคือ กลิ่นคาวปลาที่ทำให้เด็ก ๆ ทั้งหลายยี้ และแม้ว่าครอบครัวไหนโชคดีที่ลูกชอบทานปลา แต่ก้างปลาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรากังวลว่าเราดูดีพอหรือยัง ถ้าไปติดคอลูกน้อยขึ้นมาคงเรื่องใหญ่แน่ แม่สายสตรองอย่างเราคิดเผื่อไว้ทุก ๆ สถานการณ์ เชื่อว่าแม่ทุก ๆ คนคงเป็นคล้าย ๆ กัน ครั้นจะหันมาพึ่งปลาแช่แข็งที่เขาตัดแต่งมาให้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็จะมีปลาเพียงไม่กี่ชนิด ที่สำคัญเราอยากให้ลูกทานอาหารสดใหม่ เพราะนอกจากเรื่องสารอาหารที่จะมีมากกว่าแล้ว รสชาติก็ยังหวานละมุนกว่ามาก หลังจากที่ได้ลองปลามาหลากหลายชนิด มีปลาอยู่ชนิดหนึ่งที่ตอบโจทย์กับปัญหาต่าง ๆ ที่เราเกริ่นมาได้แทบทุกข้อ ขอแนะนำให้รู้จัก "ปลากราย" ปลากราย หรือ ในบางท้องถิ่น เรียกว่า "ปลาฉลาดหรือสลาด" เพราะทั้งสองชนิดอยู่ในตระกูลปลาเดียวกัน ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด จุดสังเกตง่าย ๆ ของปลาชนิดนี้ คือ ปลาสีเงิน เป็นปลาตัวแบน ๆ หน้าผากหักโค้ง หลังโก่งสูง และมีจุดวงกลมสีดำตรงฐานครีบก้นหลายวง แต่ถ้าเราไปเดินหาซื้อที่ตลาดคงจะได้เห็นหน้าค่าตาเจ้าปลาชนิดนี้ยากหน่อย เพราะเขานิยมขูดเนื้อปลากราย ออกมาขาย เนื่องจากว่าเป็นปลาที่มีก้างมาก แต่เนื้อละเอียดอร่อย เนื้อปลาที่ขูดออกมาเขาจะวางเป็นก้อนเรียงกัน เนื้อปลาออกสีชมพูเรื่อ ๆ ถ้าเป็นสีออกขาวใสมักจะเป็นปลาฉลาด (สลาด) ว่ากันว่าเป็นปลาตระกูลเดียวกันแต่ตัวเล็กกว่า บางคนชอบทานมากกว่าปลากราย เพราะว่าเนื้อจะเหนียวกว่าเล็กน้อย ลูกชิ้นปลากรายที่มีทอดขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะไม่ใช้เนื้อปลากรายล้วนต้องผสมเนื้อปลาชนิดอื่นลงไปด้วย เนื่องจากต้องการให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เพราะราคาของเจ้าเนื้อปลากรายขูดนี้ มีราคากิโลกรัมละ 340 บาท (ข้อมูลอัพเดทในปี 2563) ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูง แต่เพื่อลูกน้อยของเรา และที่สำคัญเขาสามารถทานได้ทั้งชิ้น ไม่ต้องมีก้างปลา วันนี้เราจึงขอแนะนำให้ลองนำเนื้อปลากรายมาทอด จะได้รสชาติไปอีกแบบ ซึ่งรับรองว่าเนื้อปลากรายทอดนี้แตกต่างจากลูกชิ้นปลากรายทอดตามท้องตลาดทั่วไป และที่สำคัญเด็ก ๆ ชื่นชอบ เพราะการทอดช่วยตัดกลิ่นคาวของปลาลงไปได้ และปลากรายเรานำมาแต่เนื้อที่ขูดไว้แล้ว ทำให้เราสามารถเลือกก้างออกไปก่อนที่จะนำมาปรุงอาหารได้ เด็ก ๆ สามารถหยิบทานได้ทั้งชิ้นโดยไม่ต้องกังวล เริ่มจากเมื่อเราได้เนื้อปลากรายขูดจากตลาดมาแล้ว ให้นำมาใส่ครก ตำพร้อมกับน้ำผสมเกลือเล็กน้อย ตำไปจนกว่ากล้ามจะขึ้น...เฮ้ย..ไม่ใช่ละ ตำไปจนกว่าเนื้อปลาจะเข้ากับน้ำเกลือ และมีลักษณะเด้ง ๆ เหนียว ๆ จนครกแทบจะตามสากขึ้นมายิ่งดี จากนั้นนำเนื้อที่ได้ไปทอดในกระทะที่ตั้งน้ำมัน เคล็ดลับอย่างหนึ่ง คือ นำเนื้อปลาลงพร้อมน้ำมันที่ยังไม่ร้อน แล้วยีจนเป็นชิ้นเล็ก ๆ ในกระทะเลย จะได้รูปร่างของเนื้อปลาไม่เป็นทรงไม่เหมือนกับเรามาปั้นเป็นก้อนกลมก่อนลงไปทอด ทอดต่อไปด้วยไฟกลาง คอยพลิกเนื้อปลาให้สุกทั่ว การทำแบบนี้ทำให้เนื้อปลากรายทอดของเราจะกรอบนอกนุ่มในกำลังดี ทอดเสร็จเสริฟทานพร้อมกับน้ำจิ้มหลากหลายรสชาติได้เลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มบ๊วย น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว หรือพริกน้ำปลาแบบบ้าน ๆ ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ เป็นที่ติดอกติดใจกันยิ่งนัก ทีนี้เราก็มีเมนูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเมนูให้ลูกน้อยเราได้เจริญอาหาร ได้รับสารอาหารดี ๆ จากปลา และโอเมก้า ลดความกังวลใจของคุณแม่ไปได้บ้างแล้วนะค่ะ ใครมีเมนูดี ๆ เด็ด ๆ ลองนำมาแชร์แบ่งปันกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ เพื่อลูกน้อยของเรา และเด็กไทยจะได้ตัวโตสมวัยกันทุกคน