7 วิธีเลือกไข่เป็ด ดูยังไงดี สดใหม่ มีคุณภาพ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล นอกจากไข่ไก่แล้ว ไข่เป็ดยังเป็นตัวเลือกที่หลายคนชอบ เพราะมีบางเมนูที่ขาดไข่ชนิดนี้ไม่ได้ เช่น การทำบัวลอยไข่หวาน การทำไข่เค็ม เป็นต้น พอเป็นแบบนี้การซื้อไข่เป็ดจึงเป็นสิ่งที่หลายคนได้เกี่ยวข้อง ที่จะว่าไปการไปซื้อไข่เป็ดทำได้ง่ายๆ เพราะเราต่างก็รู้กันดีแล้วว่าที่ไหนมีไข่เป็ดขาย แต่สำหรับการเลือกไข่เป็ดคุณภาพดี เป็นสิ่งที่มักปราบเซียน เนื่องจากไข่เป็ดมีคุณภาพมีเคล็ดลับที่ต้องนำไปสังเกตค่ะ โดยในบทความนี้เราจะมารู้กันว่าแล้วไข่เป็ดแบบไหนล่ะที่ว่าสดใหม่ ไข่เป็ดหน้าตาแบบไหนน่าซื้อ ไข่เป็ดแบบไหนคุณภาพดี ที่จะว่าไปก็ไม่ได้ยากจนเกินไปที่นำไปใช้ค่ะ เพียงแต่ว่าเราต้องรู้รายละเอียดที่จำเพาะเจาะจงเกี่ยวกับไข่เป็ดสักนิดหน่อย และรับรองว่าพอคุณผู้อ่านได้อ่านให้จบและนำไปใช้นั้น ตอนไปเลือกไข่เป็ดจะกลายเป็นสถานการณ์ที่ง่ายขึ้นมาทันที อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่ามีเคล็ดลับอะไรที่จำเป็นบ้าง งั้นเรามารู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า กับเทคนิคดีๆ ที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้ 1. ดูที่เปลือกไข่ หลายคนยังไม่รู้ว่า เปลือกไข่มีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างภายในและภายนอกไข่ หากรูพรุนเหล่านี้มีขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ไข่สูญเสียน้ำและเสียคุณภาพได้เร็วขึ้น ปกติรูพรุนบนเปลือกไข่เป็ดจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นได้ตามธรรมชาติค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไข่ถูกเก็บไว้นานๆ ค่ะ แต่เปลือกไข่ที่หนาและแข็งแรงจะช่วยป้องกันการแตกหักได้ดี และยังช่วยรักษาความสดของไข่ได้นานขึ้น สารเคลือบผิวตามธรรมชาติของไข่มีหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำและป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หากสารเคลือบผิวถูกทำลายไป ไข่จะเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นค่ะ เปลือกไข่ที่สะอาดบ่งบอกถึงการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่างๆ เช่น แบคทีเรียซาลโมเนลลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพจากอาหารเป็นสื่อได้ค่ะ เปลือกไข่ที่เรียบและแห้งแสดงว่าไข่ยังสดใหม่ และยังมีสารเคลือบผิวตามธรรมชาติปกป้องอยู่ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น สีของเปลือกไข่เป็ดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเป็ด แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในโทนสีขาวหรือเทาอ่อน เปลือกไข่ที่มีสีสม่ำเสมอทั่วทั้งฟองบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของเป็ดที่ไข่ออกมา หากพบว่าเปลือกไข่มีสีผิดปกติ เช่น มีจุดสีดำ สีน้ำเงิน หรือสีเขียว อาจเป็นสัญญาณว่าไข่มีปัญหา หรืออาจเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อรา รอยร้าวหรือรอยแตกบนเปลือกไข่เปรียบเสมือนประตูเปิดให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าไปสู่ภายในไข่ได้ง่าย ดังนั้นไข่ที่มีรอยร้าวจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เนื่องจากความชื้นจะระเหยออกไป และอากาศจะเข้าไปสัมผัสกับไข่แดงและไข่ขาว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีได้ 2. ส่องดูภายในไข่ การส่องดูภายในไข่เป็ดเป็นวิธีที่ง่ายและแม่นยำในการตรวจสอบความสดใหม่ของไข่ นอกเหนือจากการสังเกตเปลือกไข่แล้ว การส่องดูภายในไข่จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของสภาพภายในไข่ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น การใช้ไฟฉายส่องในที่มืดจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการตรวจสอบคุณภาพของไข่ เพราะเราสามารถควบคุมปริมาณแสงและมุมมองในการส่องได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้เราสังเกตเห็นรายละเอียดต่างๆ ภายในไข่ได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น ขนาดและรูปร่างของไข่แดง ความใสของไข่ขาว และขนาดของช่องอากาศ โดย 2.1 ไข่สด ไข่แดง: มีรูปร่างกลมชัดเจน อยู่ตรงกลางของไข่ เคลื่อนที่ได้เล็กน้อยเมื่อหมุนไข่ ไข่ขาว: ใส มีความหนืดสูง เคลื่อนที่ได้ช้าๆ เมื่อหมุนไข่ ช่องอากาศ: มีขนาดเล็กมาก หรือแทบจะมองไม่เห็น 2.2 ไข่เก่า ไข่แดง: ขยายตัวใหญ่ขึ้น รูปร่างไม่ค่อยกลม อาจมีจุดสีแดงหรือสีดำ ไข่ขาว: เหลว มีความขุ่น และมีจุดสีดำเล็กๆ กระจายอยู่ ช่องอากาศ: มีขนาดใหญ่ขึ้น เห็นได้ชัดเจนเมื่อส่องไฟฉาย 3. สังเกตน้ำหนัก การสังเกตน้ำหนักของไข่เป็ดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและมีประโยชน์ในการตรวจสอบความสดใหม่ของไข่ค่ะ โดยหลักการคือ ไข่สดจะมีน้ำหนักมากกว่าไข่เก่า เนื่องจากไข่สดจะมีปริมาณน้ำภายในมากกว่า ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น เนื่องจากว่าไข่มีการสูญเสียน้ำไปตามธรรมชาติผ่านรูพรุนบนเปลือกไข่ เมื่อเวลาผ่านไป น้ำภายในไข่จะค่อยๆ ระเหยออกไป ทำให้น้ำหนักของไข่ลดลง และกระบวนการทางเคมีภายในไข่จะทำให้สารอาหารบางชนิดสลายตัวไป ทำให้ไข่มีน้ำหนักเบาลง และวิธีสังเกตน้ำหนักไข่เป็ด ดังนี้ การเทียบน้ำหนัก: นำไข่หลายฟองมาวางเทียบกันบนฝ่ามือหรือบนพื้นผิวเรียบๆ พยายามเลือกไข่ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แล้วสังเกตว่าไข่ฟองไหนรู้สึกหนักกว่ากัน ไข่ที่หนักกว่ามักจะเป็นไข่สด การใช้เครื่องชั่ง: หากต้องการความแม่นยำมากขึ้น สามารถใช้เครื่องชั่งขนาดเล็กชั่งน้ำหนักของไข่แต่ละฟอง แล้วบันทึกค่าที่ได้มาเปรียบเทียบกัน 4. เขย่าเบาๆ การเขย่าไข่เป็ดเป็นวิธีง่ายๆ อีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้ตรวจสอบความสดใหม่ของไข่ได้ค่ะ โดยอาศัยหลักการที่ว่า ไข่สดจะมีไข่ขาวที่หนืดและไข่แดงที่ตรึงตัวอยู่กับที่ ทำให้เมื่อเขย่าเบาๆ จะไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของไข่แดง เมื่อไข่เก่าขึ้น ไข่ขาวจะค่อยๆ สูญเสียน้ำและความหนืด ทำให้ไข่ขาวเหลวและไม่สามารถยึดไข่แดงให้อยู่กับที่ได้เหมือนไข่สด ช่องอากาศภายในไข่จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นตามอายุของไข่ ทำให้ไข่แดงมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวมากขึ้นค่ะ และวิธีการเขย่าไข่เป็ด ให้ทำดังนี้ จับไข่: จับไข่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ โดยให้ปลายนิ้วทั้งสองสัมผัสกับไข่ เขย่าเบาๆ: เขย่าไข่ไปมาเบาๆ ระวังอย่าเขย่าแรงเกินไป สังเกต: สังเกตว่ารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของไข่แดงหรือไม่ หากรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวแสดงว่าไข่เก่า 5. ดมกลิ่น การดมกลิ่นเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่งในการตรวจสอบว่าไข่เป็ดสดหรือเสียค่ะ เพราะกลิ่นเป็นตัวบ่งบอกถึงสภาพภายในของไข่ได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเมื่อไข่เริ่มเสื่อมสภาพ โปรตีนภายในไข่จะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรีย ทำให้เกิดก๊าซและสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็น หากมีเชื้อราที่เจริญเติบโตภายในไข่ก็สามารถสร้างกลิ่นเหม็นได้เช่นกันค่ะ และกลิ่นที่บ่งบอกว่าไข่เสีย ได้แก่ กลิ่นกำมะถัน: กลิ่นคล้ายไข่เน่าทั่วไป กลิ่นเปรี้ยว: เกิดจากกรดที่เกิดจากการย่อยสลายของโปรตีน กลิ่นเหม็นหืน: กลิ่นคล้ายน้ำมันที่หืน กลิ่นอื่นๆ ที่ผิดปกติ: เช่น กลิ่นสาบ กลิ่นอับชื้น 6. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อไข่เป็ดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไข่ที่เราซื้อมานั้นมีความสดใหม่และปลอดภัยต่อการบริโภค นอกจากตลาดสดและซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ยังมีแหล่งอื่นๆ ที่เราสามารถเลือกซื้อไข่เป็ดได้อีกด้วยค่ะ เช่น ฟาร์มเป็ด: หากมีโอกาสลองซื้อไข่เป็ดสดๆ จากฟาร์มได้โดยตรง ซึ่งจะได้ไข่ที่มีความสดใหม่ที่สุดค่ะ ร้านค้าออร์แกนิก: ร้านค้าออร์แกนิกมักจะมีไข่เป็ดที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม่มีการใช้สารเคมี ตลาดนัด: ในบางตลาดนัดอาจมีเกษตรกรนำไข่เป็ดมาขายเอง ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 7. สังเกตขนาดของไข่ ขนาดของไข่เป็ดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้บริโภคมักจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุด และมักจะเปรียบเทียบกับขนาดของไข่ไก่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไข่เป็ดจะมีขนาดใหญ่กว่าไข่ไก่จริง ๆ ถึงแม้ว่าขนาดของไข่ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของไข่โดยตรงเสมอไป แต่เป็ดที่อายุมากขึ้นมักจะให้ไข่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อาหารที่เป็ดกินมีผลต่อขนาดและคุณภาพของไข่ เป็ดที่สุขภาพแข็งแรงจะให้ไข่ที่มีขนาดใหญ่และคุณภาพดีกว่า อย่างไรก็ตามไข่เป็ดแต่ละขนาดก็มีความเหมาะสมในการทำอาหารแตกต่างกันไป ดังนี้ ไข่ขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องการไข่แดงเยอะ เช่น คัสตาร์ด เค้ก หรือขนมอบ ไข่ขนาดกลาง: เหมาะสำหรับการทำอาหารทั่วไป เช่น ผัดไข่ หรือต้มไข่ ไข่ขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องการไข่จำนวนมาก เช่น สลัด หรืออาหารว่าง และทั้งหมดนั้นคือเคล็ดลับที่จำเป็นต้องนำไปใช้ตอนเลือกไข่เป็นค่ะ ถ้าอยากได้ไข่สดใหม่และมีคุณภาพดี ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะจากที่ผู้เขียนได้ลองนำมาใช้เองบ้างนั้น ก็พบว่าทำให้ได้ไข่เป็นสดใหม่มาง่ายมากค่ะ โดยที่นี่ผู้เขียนมีร้านประจำค่ะ ที่แม่ค้าจะขายไข่เป็นที่ตลาดคลองถม ตลาดประชารัฐและตลาดสีเขียวด้วย คือทุกตลาดแม่ค้าคนนี้มักนำไข่เป็ดไปขาย และทุกครั้งผู้เขียนก็ได้ไข่สดใหม่ค่ะ ที่ตอนไปเลือกผู้เขียนจะดูเรื่องความสะอาดของเปลือกไข่ และจับดูเพื่อประเมินน้ำหนักของไข่เป็ดด้วย ซึ่งคุณผู้อ่านก็ควรนำเทคนิคดีๆ ในนี้ไปใช้ด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าจะซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือก็ตาม ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก Pixabay และภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/rPgYDekLzD8w https://food.trueid.net/detail/BDNEQKmlx81q https://food.trueid.net/detail/ZVb4Ree3ambj หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !