ผักหวานป่า ทำอะไรได้บ้าง รสชาติแบบไหน อร่อยไหม | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังไม่รู้ว่า มีผักจากป่าหลายชนิดที่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ และผักแต่ละชนิดจากป่าก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ผักหวานป่า โดยผักชนิดนี้หลายคนก็ยังไม่มีได้มีโอกาสได้ลองชิม ในขณะที่บางคนก็อาจไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่สำหรับผู้เขียนนั้น ต้องบอกว่าผักชนิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในชีวิตค่ะ เพราะเป็นคนชอบกินผัก ดังนั้นพอเจอผักแปลกใหม่ หรือแม้แต่ผักจากป่า ก็มักหาโอกาสนำมาทำเป็นอาหารเสมอๆ เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติในผักชนิดนั้นๆ ค่ะ และยิ่งถ้าเป็นผักหวานป่าแล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าเป็นผักที่ผู้เขียนได้นำมาทำหลายเมนูมาแล้ว ส่วนผักหวานป่าจะอร่อยไหม มีรสชาติยังไง ถ้าซื้อมาแล้วต้องทำเมนูอะไรดี ในบทความนี้มีข้อมูลมาให้แล้วค่ะ ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบ กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ผักหวานป่าเป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า พบได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ ซึ่งผักหวานป่ามีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือไม้พุ่ม ใบมีสีเขียวอ่อน ยอดอ่อนและใบอ่อนมักเป็นส่วนที่นิยมนำมาทำเป็นอาหาร ที่สามารถคุณค่าทางโภชนาการตามธรรมชาติได้ ดังนั้นพอเราไปซื้อผักหวานที่ตลาด จึงพบว่าผักหวานป่าที่นำมาขายมีลักษณะเป็นยอดอ่อนและใบอ่อนค่ะ โดยผักหวานป่าสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูมาก ซึ่งช่วงเวลาที่ผักหวานป่าออกยอดและเก็บเกี่ยวได้นั้น จะแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่และสภาพอากาศค่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลักๆ ดังนี้ 1. ช่วงฤดูร้อน (เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน) เป็นช่วงที่ผักหวานป่าเริ่มแตกยอดอ่อน ซึ่งเป็นส่วนที่นิยมนำมาทำเป็นอาหาร และช่วงนี้ผักหวานป่าจะมีรสชาติอร่อยและมีปริมาณมากที่สุด 2. ช่วงฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม) เป็นช่วงที่ผักหวานป่าจะยังคงออกยอด แต่ปริมาณอาจน้อยกว่าช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่สามารถเก็บเกี่ยวผักหวานป่าได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ดังนั้นหากต้องการผักหวานป่าสดๆ ในปริมาณมากที่สุด ควรเลือกซื้อในช่วงฤดูร้อนค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่า ผักหวานป่ากินสดได้ไหม หรือต้องนำไปทำอาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น ต้องบอกว่าโดยทั่วไปแล้ว ไม่แนะนำให้กินผักหวานป่าแบบดิบๆ นะคะ เนื่องจากผักหวานป่ามีสารบางชนิดที่อาจทำให้เกิดอาการ เบื่อเมาได้หากกินเข้าไปในปริมาณมาก จึงควรนำผักหวานป่าไปปรุงให้สุกก่อนเสมอค่ะ และก่อนที่เราจะไปรู้ว่า ผักหวานป่าสามารถทำเมนูอร่อยๆ อะไรได้บ้างนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าการเลือกซื้อผักหวานป่าให้ได้คุณภาพดี ต้องดูอะไรก่อนเลือกซื้อ ดังนี้ 1. ความสดใหม่ เลือกผักหวานป่าที่มีสีเขียวสด ใบและยอดอ่อนไม่เหี่ยวเฉา หลีกเลี่ยงผักหวานป่าที่มีรอยช้ำหรือรอยแมลงกัดแทะ หากเป็นไปได้ ควรเลือกซื้อผักหวานป่าที่เก็บมาใหม่ๆ 2. ลักษณะของยอด เลือกยอดอ่อนที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป ยอดอ่อนควรมีลักษณะอวบอิ่มและกรอบ 3. เลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ควรเลือกซื้อผักหวานป่าจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับสารเคมีตกค้าง หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามผู้ขายเกี่ยวกับแหล่งที่มาของผักหวานป่า ให้ระวังผักหวานป่าที่มีลักษณะคล้ายผักหวานเมา ซึ่งมีพิษ 4. การสังเกตลักษณะโดยรวม ใบผักหวานป่าจะมีสีเขียวอ่อน ก้านใบนิ่ม ไม่แข็ง ยอดอ่อนเด็ดง่าย สังเกตที่ใบไม่มีรอยช้ำ ไม่หักงอ ไม่เหี่ยว หรือแห้งกรอบ และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ผักหวานป่าที่ปรุงสุกแล้วจะมีรสชาติที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์มากๆ ที่โดยทั่วไปจะมีรสชาติดังนี้ค่ะ หวาน: มีรสหวานอ่อนๆ ตามชื่อ "ผักหวาน" แต่ไม่ได้หวานจัดนะคะ มัน: มีรสชาติมันๆ ที่เป็นลักษณะเด่นของผักชนิดนี้เลยค่ะ กรุบกรอบ: ใบและยอดอ่อนจะมีเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบเมื่อเคี้ยว กลมกล่อม: เมื่อนำไปปรุงอาหาร จะให้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวมากๆ ค่ะ นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ผักหวานป่ายังมีประโยชน์ทางโภชนาการสูง และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย โดยรสชาติของผักหวานป่าที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือความกรุบกรอบและความมัน ที่มีความหวานแบบธรรมชาติที่กลมกล่อมค่ะ พอเป็นแบบนี้เลยทำให้ผู้เขียนต้องหาโอกาสนำผักหวานมาทำอาหารเรื่อยๆ ค่ะ จากที่เราก็ได้รู้แล้วว่า ผักหวานป่าเป็นผักที่มีรสชาติอร่อย จึงมีผู้คนนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทยและอาหารอีสาน โดยตัวอย่างเมนูที่ได้รับความนิยมมีดังนี้ค่ะ แกงผักหวานป่า เช่น แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง: เป็นเมนูยอดนิยมของอาหารอีสาน มีรสชาติหวานมันจากผักหวานป่าและรสเปรี้ยวจากไข่มดแดง แกงผักหวานป่าปลาย่าง: ให้รสชาติหอมอร่อยของปลาย่างเข้ากันได้ดีกับผักหวานป่า แกงเลียงผักหวาน ผัดผักหวานป่า เช่น ผักหวานป่าผัดน้ำมันหอย: เป็นเมนูผัดที่ทำง่ายและอร่อย ผักหวานป่าผัดหมูสับ ผักหวานป่าผัดไข่ ยำผักหวานป่า เช่น ยำผักหวานกรอบกุ้งสด: เป็นเมนูยำที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานเค็มครบรส เมนูอื่นๆ เช่น ต้มจืดผักหวานป่า: เป็นเมนูซุปที่ให้รสชาติหวานหอมของผักหวานป่า วุ้นเส้นแกงผักหวาน เปาะเปี๊ยะผักหวาน จากเมนูตัวอย่างข้างต้นที่ผู้เขียนได้เคยลองทำมาแล้ว คือ แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง ผักหวานป่าผัดน้ำมันหอยค่ะ และเมนูอื่นๆ ที่ผู้เขียนได้ทำแต่ยังไม่ได้พูดถึง ได้แก่ ผักหวานป่าลวกจิ้ม แกงผักหวานป่าใส่ปลากระป๋อง แกงผักหวานป่าใส่เห็ดนางฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณผู้อ่านไม่ได้ต้องการที่จะทำเมนูตามที่ผู้เขียนได้พูดถึงมาข้างต้นนั้น ผักหวานป่ายังสามารถทำเมนูอื่นๆ ได้อีกแบบไม่ต้องยึดติดกับสูตรใดสูตรหนึ่ง เพราะลองนึกภาพว่า ผักหวานป่าคือตัวอย่างของผักชนิดหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่เป็นผักที่มาจากป่า และเป็นผักพื้นบ้านที่หาได้ในบางพื้นที่เท่านั้น ที่ในตอนหลังมาก็เริ่มมีคนทำสวนผักหวานป่าเพื่อขายแล้วค่ะ จึงอยากชวนคนไทยหันมากินผักมากขึ้น และถ้าเบื่อผักทั่วไปแล้ว ก็ลองหันมาชิมเมนูจากผักหวานกันดูบ้างค่ะ และจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เคยทำแกงผักหวานป่ามาบ่อยครั้งแล้วนั้น เพราะเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ต้องบอกว่ารสชาติของแกงผักหวานป่าจะมีความอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ ดังนี้ค่ะ รสชาติหวานมัน: ผักหวานป่ามีรสชาติหวานมันตามธรรมชาติ เมื่อนำมาแกงจะให้รสชาติที่กลมกล่อม ความหอม: แกงผักหวานป่ามักใส่เครื่องปรุงสมุนไพรต่างๆ เช่น หอมแดง กระเทียม พริก ซึ่งให้กลิ่นหอมชวนน่ากินมากๆ ความนัว: ในแกงผักหวานป่าบางสูตรจะมีการใส่ปลาร้าหรือปลาแห้ง เพื่อเพิ่มรสชาติความนัว ความหลากหลาย: แกงผักหวานป่าสามารถใส่ส่วนผสมอื่นๆ ได้หลากหลาย เช่น ไข่มดแดง ปลาแห้ง ไก่ หรือเห็ด ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างกันไปค่ะ ที่โดยรวมแล้วแกงผักหวานป่าเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากใครที่ชื่นชอบอาหารรสชาติหวานมันและกลมกล่อมจากความหวานตามธรรมชาติของผัก แนะนำว่าควรลองชิมแกงผักหวานป่าสักครั้งค่ะ ที่รับรองว่าจะติดใจและอยากทำเมนูจากผักหวานอีกบ่อยๆ แน่นอน ซึ่งในปัจจุบันหากเป็นคนที่ทำอาหารไม่เก่ง แกงผักหวานป่าหรือเมนูอื่นๆ จากผักหวานป่าก็มีหลายร้านทำขายแล้วนะคะ ยังไงก็หาโอกาสไปลองกันค่ะ เพราะอร่อยมากๆ และผู้เขียนหวังว่าเนื้อในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่คล้ายกันโดยผู้เขียน ผักติ้ว ทำอะไรได้บ้าง ใส่แกงเห็ด เปรี้ยวไหม ลูกโดดคือพริกอะไร ทำไมต้องใส่ รสชาติยังไง มาดูกัน! ดอกกระเจียว ผักพื้นบ้านอีสาน กินได้ไหม รสชาติยังไง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !