วิธีเก็บบรอกโคลี ให้สดนานหลายวัน ไม่เหลืองง่าย ทำไงดี | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล พอเห็นบรอกโคลีสดใหม่และงามน่าซื้อ หลายคนก็อดใจไม่ได้เป็นต้องซื้อกลับมาบ้านทุกที ที่ก็ลืมไปว่าปัญหาของการมีบรอกโคลีที่ตามมา ที่ทำให้หลายคนปวดหัวก็คือ การที่จะทำยังไงดีนะให้บรอกโคลีสดได้นานหลายวัน จริงไหมคะ? โดยในประเด็นนี้ผู้เขียนเองก็ได้เรียนรู้มาเยอะพอสมควร จนพบว่าบรอกโคลีสามารถสดได้นานจนลืม หากเรารู้และเข้าใจการเก็บรักษาผักชนิดนี้อย่างเหมาะสมค่ะ โดยการจะรักษาความสดใหม่ของบรอกโคลีนั้น ไม่ได้ยากมานะคะ เพียงแต่มีจุดที่สำคัญๆ อยู่บ้างที่เราต้องนำไปประยุกต์ใช้ และในบทความนี้ผู้เขียนขอส่งต่อเทคนิคดีๆ เพื่อรักษาความสดใหม่ของบรอกโคลี เพื่อทำให้เรามีบรอกโคลีสดใหม่เอาไว้ทำอาหารได้นานๆ ค่ะ ซึ่งเทคนิคที่น่ารู้มีอะไรบ้างนั้น ยังไงลองอ่านให้จบและนำไปปรับใช้กันค่ะ ดังข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. เลือกบรอกโคลีสดใหม่ การเลือกบรอกโคลีที่สดใหม่ เป็นขั้นตอนแรกสำคัญที่จะช่วยให้บรอกโคลีคงความสดได้นานขึ้นค่ะ ดังนั้นควรเลือกบรอกโคลีที่มีสีเขียวเข้ม ดอกแน่น ไม่หลวมหรือมีรอยเหลือง ก้านต้องแข็ง ต้นดูสด ไม่เหี่ยว เมื่อสัมผัสดอกบรอกโคลีควรรู้สึกแน่น ไม่นิ่มหรือมีรอยช้ำ 2. แช่ในช่องผัก เก็บในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ: การใช้ถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศในการเก็บบรอกโคลีเป็นวิธีที่นิยมทำกัน เพราะช่วยควบคุมความชื้นและอากาศภายในถุง ทำให้บรอกโคลีคงความสดใหม่ได้นานขึ้นค่ะ รูระบายอากาศจะช่วยให้มีการถ่ายเทอากาศภายในถุง ทำให้บรอกโคลียังคงความสด หากหั่นแล้วควรเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด: เพราะว่าเมื่อหั่นบรอกโคลีแล้ว ผิวสัมผัสจะเพิ่มขึ้น ทำให้บรอกโคลีสูญเสียความชื้นได้เร็วขึ้น การเก็บในภาชนะปิดจะช่วยรักษาความชื้นภายใน ทำให้บรอกโคลีคงความกรอบและสดได้นานขึ้น บรอกโคลีที่หั่นแล้วจะคายกลิ่นได้ง่าย การปิดฝาจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นของบรอกโคลีไปรบกวนอาหารชนิดอื่นในตู้เย็น การปิดฝาจะช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ มาปนเปื้อนกับบรอกโคลีค่ะ ห่อด้วยกระดาษแล้วเก็บ: การล้างบรอกโคลีก่อนเก็บจะทำให้บรอกโคลีมีอายุการเก็บรักษาสั้นลง เพราะความชื้นจะทำให้บรอกโคลีเน่าเสียได้ง่าย ซึ่งการห่อบรอกโคลีด้วยกระดาษก่อนเก็บเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาความสดของบรอกโคลีได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะกระดาษจะช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา และช่วยให้บรอกโคลีคงความกรอบได้นานขึ้น การห่อด้วยกระดาษจะช่วยลดการสัมผัสของบรอกโคลีกับอากาศ ทำให้ชะลอการสลายตัวของสารอาหาร อย่างไรก็ตามควรเปลี่ยนกระดาษห่อบรอกโคลีทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นสะสม 3. แบ่งเก็บ การแบ่งบรอกโคลีออกเป็นส่วนเล็กๆ ก่อนเก็บเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจค่ะ เพราะว่าเมื่อต้องการนำบรอกโคลีมาปรุงอาหาร ก็เพียงแค่หยิบส่วนที่ห่อแยกไว้มาใช้ ไม่ต้องละลายทั้งหัว ทำให้บรอกโคลีส่วนที่เหลือยังคงความสดใหม่ การแบ่งเป็นส่วนเล็กๆ จะทำให้พื้นผิวสัมผัสกับอากาศน้อยลง ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพและการสูญเสียความชื้น หากส่วนใดส่วนหนึ่งของบรอกโคลีเริ่มเน่าเสีย การแบ่งเก็บจะช่วยจำกัดความเสียหายให้อยู่เฉพาะส่วนนั้น ไม่ลามไปยังส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ตามขนาดของส่วนที่แบ่งควรเหมาะสมกับปริมาณที่เราจะนำมาใช้ในแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันการเสียของบรอกโคลีส่วนที่เหลือค่ะ ควรเลือกภาชนะที่สะอาดและแห้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย และถึงแม้ว่าการแบ่งเก็บจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้ แต่ก็ควรบริโภคบรอกโคลีให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าทางอาหารที่ดีที่สุด 4. แช่ก้านในน้ำแข็ง การแช่ก้านบรอกโคลีในน้ำแข็งเป็นวิธีที่ดีในการช่วยรักษาความสดของบรอกโคลีให้นานขึ้นค่ะ โดยหลักการทำงานคือ การชะลอกระบวนการทางชีวเคมีที่ทำให้บรอกโคลีเหี่ยวและเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของก้าน ซึ่งเป็นส่วนที่สูญเสียน้ำได้ง่าย จากที่อุณหภูมิที่เย็นจัดจะช่วยชะลอการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้อาหารสลายตัว ทำให้บรอกโคลีคงความสดและกรอบได้นานขึ้น อุณหภูมิที่ต่ำจะช่วยลดอัตราการหายใจของเซลล์พืช ทำให้บรอกโคลีใช้พลังงานน้อยลงและชะลอการเสื่อมสภาพ และเมื่อน้ำแข็งค่อยๆ ละลายไป สถานการณ์นี้จะเพิ่มความชื้นให้กับบรอกโคลี จึงช่วยป้องกันไม่ให้บรอกโคลีสูญเสียน้ำและเหี่ยวแห้งค่ะ โดยจะควรแช่เฉพาะส่วนก้านเท่านั้น เพราะส่วนดอกมีความบอบบางและอาจเสียหายได้ง่าย ซึ่งวิธีการนี้หลายคนอาจพบเห็นได้บ่อยๆ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต 5. ลวกก่อนเก็บและนำไปแช่แข็ง การแช่แข็งบรอกโคลีเป็นวิธีที่ดีในการเก็บรักษาให้สดใหม่ได้นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรามีบรอกโคลีจำนวนมาก หรือต้องการเก็บไว้ใช้ในระยะยาว การแช่แข็งจะช่วยชะลอกระบวนการทางชีวเคมีที่ทำให้บรอกโคลีเสื่อมสภาพ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติและคุณค่าทางอาหารของบรอกโคลีได้นานขึ้นค่ะ และวิธีการแช่แข็งบรอกโคลี ให้ทำดังนี้ เตรียมบรอกโคลี: ล้างบรอกโคลีให้สะอาด ตรวจสอบและตัดส่วนที่เสียหายออก หั่นบรอกโคลีเป็นช่อหรือขนาดตามต้องการ ลวกบรอกโคลี: นำบรอกโคลีไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อหยุดการสุก สะเด็ดน้ำ: นำบรอกโคลีออกจากน้ำเย็น สะเด็ดน้ำให้แห้ง แบ่งใส่ถุง: แบ่งบรอกโคลีใส่ถุงซิปล็อกหรือภาชนะที่สามารถปิดสนิทได้ ไล่อากาศออก: ก่อนปิดถุงหรือภาชนะ ควรไล่อากาศออกให้หมด เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำแข็ง แช่แข็ง: นำไปแช่ในช่องแช่แข็ง ซึ่งเหตุผลที่ควรลวกบรอกโคลีก่อนนำไปแช่แข็ง นั่นเป็นเพราะว่า การลวกจะช่วยรักษาสีเขียวสดใสของบรอกโคลี การลวกจะช่วยหยุดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้อาหารสลายตัว การลวกช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงทางรสชาติ จึงทำให้บรอกโคลีคงรสชาติเดิมได้นานขึ้นค่ะ และข้อดีของการแช่แข็งบรอกโคลี คือ เก็บได้นาน: สามารถเก็บได้นานหลายเดือน สะดวกในการใช้งาน: สามารถนำออกมาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการ คงคุณค่าทางอาหาร: แม้ว่าจะสูญเสียวิตามินบางส่วนไปบ้าง แต่ก็ยังคงคุณค่าทางอาหารส่วนใหญ่ และการนำบรอกโคลีแช่แข็งไปปรุงอาหาร ให้ทำดังนี้ ไม่จำเป็นต้องละลาย: สามารถนำบรอกโคลีแช่แข็งไปปรุงอาหารได้เลย เช่น ผัด ผัดกับไข่ หรือทำซุป เพิ่มเวลาในการปรุงอาหารเล็กน้อย: เนื่องจากบรอกโคลีแช่แข็งจะแข็ง เราอาจต้องเพิ่มเวลาในการปรุงอาหารเล็กน้อยค่ะ 6. แยกเก็บจากผักและผลไม้ชนิดอื่น การแยกเก็บบรอกโคลีออกจากผักชนิดอื่นๆ เป็นวิธีที่ดีในการช่วยให้บรอกโคลีคงความสดใหม่ได้นานขึ้นค่ะ การแยกเก็บจะช่วยลดการปนเปื้อนของกลิ่นและชะลอการสุกของบรอกโคลี หากมีผักชนิดอื่นเน่าเสีย การแยกเก็บจะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายไปยังบรอกโคลี การแยกเก็บจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมความชื้นที่เหมาะสมสำหรับบรอกโคลีได้ 7. ตรวจสอบบ่อยๆ การตรวจสอบบรอกโคลีเป็นประจำเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบรอกโคลีได้เร็วขึ้น และสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้บรอกโคลีของเราคงความสดใหม่ได้นานขึ้น เนื่องจากการตรวจสอบบรอกโคลีเป็นประจำจะช่วยให้เราสังเกตเห็นรอยช้ำ ใบเหลือง หรือส่วนที่เริ่มเน่าเสียได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตัดส่วนที่เสียออกได้ทันทีก่อนที่จะลามไปยังส่วนอื่นๆ เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว หากเราพบว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งของบรอกโคลีเริ่มมีเชื้อรา ก็ควรนำออกจากส่วนที่เหลือทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ค่ะ การตรวจสอบบรอกโคลีจะช่วยให้เราสังเกตเห็นว่าบรอกโคลีของเรามีความชื้นมากเกินไปหรือไม่ หากมีความชื้นมากเกินไป ก็ต้องเปลี่ยนกระดาษห่อหรือภาชนะที่เก็บเพื่อลดความชื้น บรอกโคลีที่เริ่มเน่าเสียจะส่งกลิ่นเหม็น หากเราตรวจสอบบรอกโคลีบ่อยๆ คุณจะสามารถตรวจพบกลิ่นผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และนำบรอกโคลีออกจากตู้เย็นได้ทันท่วงที ก็จบแล้วค่ะ กับเทคนิคดีๆ สำหรับนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้บรอกโคลีที่เราซื้อมา มีความสดใหม่ได้นานหลายวันขึ้น โดยหลายวิธีการที่ผู้เขียนได้พูดถึงข้างต้น เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็ได้นำมาใช้ในชีวิตจริงเหมือนกันค่ะ เช่น การเลือกบรอกโคลีคุณภาพดีมาให้ได้ก่อน จากนั้นผู้เขียนมักเก็บในช่องผักด้วยการใส่บรอกโคลีที่ล้างน้ำจนสะอาด และสะเด็ดน้ำก่อนเก็บค่ะ ซึ่งในบางครั้งก็หั่นเก็บเหมือนกันค่ะ โดยมักใส่กล่องที่มีฝาปิดหรือถุงพลาสติกที่สามารถมัดปากถุงได้ค่ะ และยังไม่เคยเก็บบรอกโคลีแบบลวกและนำไปแช่แข็ง ที่ในตอนหลังมาพยายามซื้อบรอกโคลีแค่พอดีใช้ และไปซื้อใหม่เรื่อยๆ ที่ก็พบว่า การทำแบบนี้ก็ทำให้เราได้บรอกโคลีสดใหม่ได้เหมือนกันค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำวิธีการที่เข้ากับสถานการณ์ของตัวเองไปประยุกต์ใช้กันค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2, 4 โดยผู้เขียน และภาพที่ 3 โดย Cats Coming จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/E38eEqg5nmd2 https://food.trueid.net/detail/lv3X00ebxO2M https://food.trueid.net/detail/Kz1DyO7Y8VGR เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !