น้ำพริกหรือเครื่องจิ้ม สำหรับคนไทยนั้นถือว่าเป็นเมนูที่อยู่คู่กันมาอย่างช้านาน ในวันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับน้ำพริกให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม โดยผ่านตำรากับข้าวไทย ‘ตำรับพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา’ ซึ่งพระนามนี้ใครที่อยู่ในวงการอาหารไทยโบราณจะทราบกันดีว่า พระวิมาดาเธอฯ ทรงพระปรีชาสามารถในด้านการปรุงอาหารเป็นที่หนึ่งก็ว่าได้ อีกทั้งยังทรงเป็น “เอตทัคคะทาง ด้านการทำกับข้าว” และยังได้ทรงรับราชการฉลองพระเดชพระคุณมีหน้าที่ในการกำกับดูแลห้องเครื่องต้นจนถึงสิ้นรัชกาลที่ 5 น้ำพริกลงเรือ เมนูน้ำพริกที่ขึ้นชื่อของชาววังสวนสุนันทา ‘ประวัติความเป็นมาของน้ำพริกลงเรือ’ มาจากการที่เจ้านายฝ่ายในทรงเล่นเรือพาย และมีพระราชประสงค์ว่าอยากจะมีพระกระยาหารไปกับเรือด้วย ทำให้มีการคิดเมนูน้ำพริกลงเรือนี้ขึ้นมา ดังนั้นเราจะพาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสกับความละเมียดละมัยของน้ำพริกลงเรือตำรับพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา "น้ำพริกลงเรือ"‘เครื่องปรุง’1.กระปิ 1 ช้อนชา 2.กระเทียน 5 กลีบ 3.กระเทียมดอง 2 หัว 4.พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูสด 5 เม็ด 5.มะเขือเปราะ 4 ผล 6.ไข่เค็มดิบ 2 ฟอง 7.ปลาดุกหรือปลาช่อน 1 ตัว 8.หมูสามชั้น 1 ชิ้น 9.ผักชีตามควร 10.น้ำตาล น้ำปลา มะดันหรือมะนาวตามควร 11.น้ำมันหมูตามควร ขั้นตอนการทำ ตำน้ำพริกน้ำสำหรับจิ้มผักสดธรรมดา แต่ปรุงให้เหลวชิมรสตามชอบ เจียวกระเทียมพอหอมนำน้ำพริกลงไปผัดให้สุก นำหมูสามชั้นต้มจนหนังหมูเปื่อย แล้วหันให้ละเอียดผัดกับน้ำมัน น้ำปลาและน้ำตาล ชิมดูให้ออกรสจัดแล้วพักไว้นำปลาดุกนึ่งสุกแกะแต่เนื้อยีให้ละเอียด นำลงทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ(น้ำมันต้องท่วมปลาและใช้ไฟแรง) วิธีจัดจานแบบดั้งเดิม นำน้ำพริกกับหมูหวานคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงตักใส่ในชาม โดยเอาปลาทอดที่ขยี้แล้วโรยทับ กระเทียมดองปอกเป็นกลีบเล็ก ๆ และไข่เค็มดิบใช้แต่ไข่แดงผ่าเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประดับลงบนปลาสลับกับกระเทียมดอง ผักสดต่าง ๆ เช่นมะเขือผักชีผักสดจัดลงภาชนะเดียวกัน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำน้ำพริกลงเรือฉบับต้นตำรับของพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา น้ำพริกลงเรือสูตรนี้ นอกจากจะทำไว้กินเองแล้วยังสามารถประยุกต์เพื่อนำไปทำขายสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook :สำนักศิลปะวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา@ArtsandcultureSSRU