สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ นักอ่านที่น่ารักทุกคน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารที่มาแรงในช่วงนี้คือ ยำ ซึ่งจะบอกว่าเราก็เป็นอีกคนที่ขาดยำไม่ได้ เรียกว่าเกือบทุกมื้อต้องกินยำ แต่ครั้นจะไปซื้อกินบ่อย ๆ ก็คงจะไม่ได้เพราะราคายำเดี๋ยวนี้สูงซะเหลือเกิน ดังนั้นเราจึงลองศึกษาสูตรยำจากยูทิวป์ อินเตอร์เน็ต และนั่งดูไลฟ์สดแม่ค้าเวลาทำยำ จนได้สูตรยำที่เป็นของเราเอง ฮ่า ๆ ซึ่งสูตรยำของเราจะเน้นการทำแบบง่าย ๆ ที่เด็กหอ และคนที่มีอุปกรณ์ไม่มากสามารถทำตามได้ เรามาเริ่มกันเลย วันนี้เราจะมาแชร์สูตรการทำยำ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือยำหมูยอ และแบบที่สองคือยำมาม่า ความต่างของทั้งสองสูตรคือ ยำหมูยอจะใส่ปลาร้า แต่ยำมาม่าจะไม่ใส่ปลาร้าและมีเครื่องค่อยข้างเยอะกว่า เริ่มกันที่ ยำมาม่า ยำมาม่า ปกติเวลาทานยำ หลาย ๆ คนคงมีรสชาติส่วนตัวที่ชอบไม่เหมือนกัน บางคนเน้นเผ็ด บางคนเน้นเปรี้ยว เน้นหวานตามความชอบ แต่อย่าลืมว่ารสชาติพื้นฐานของอาหารชนิดนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งยำตามแบบเดิม ๆ ที่ทานกันมาต้องมีครบรส เค็ม เปรี้ยว เผ็ด และหวานตาม ดังนั้นวัตถุดิบที่เราต้องการจึงมาจากรสชาติ ดังนี้ (อัตราส่วนวัตถุดิบต่อมาม่าสองห่อ) 🌈 วัตถุดิบ/การเตรียมวัตถุดิบ 1.พริกกระเทียม พริก 6-7 เม็ดและใส่กระเทียม 3-4 เม็ด ตามความชอบ โดยตำทั้งสองเข้ากันไม่ต้องละเอียดมาก 2.มะนาว (4 ลูก) โดยเลือกมะนาวที่เปลือกบางน้ำเยอะ ก่อนหั่นให้คลึงก่อนเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมะนาว 3.น้ำตาล (4 ช้อนโต๊ะ) เคี่ยวกับน้ำเปล่าประมาณ 1 ถ้วยตวงจนน้ำตาลละลายและมีความหนนึดเล็กน้อย 4.หอมใหญ่ (1ลูก) ปลอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแนวนอนไม่หนา และไม่บางจนเกินไป 5.น้ำปลา ( 3-4 ช้อนโต๊ะ) เราเลือกใช้น้ำปลาของทิพย์รส เพราะมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ 6.คื่นช่าย (2 ต้น) เป็นผักที่ทำให้ยำมีความหอมที่บ่งบอกความเป็นยำ ดังนั้นควรจะใส่แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ 7.ฝักชีฝรั่ง (2ต้น) จริง ๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่เราชอบกลิ่น และความหอมเลยเลือกใส่ 8.หมูยอ (1แท่ง) เลือกหมูยอที่มีอัตราส่วนของหมูมากกว่าแป้ง เพราะอรรถรสในการทาน 9.หมูสับบด (ประมาณ 0.1 กิโลกรัม) โดยนำไปรวนกับน้ำเดือดที่ใส่คะนอ ให้พอสุกแต่ไม่ต้องมากเพราะหมูจะแข็ง 10.มาม่า ( 2 ห่อ ) เราเลือกใช้เฉพาะตัวมาม่า แต่จะไม่ใช้เครื่องปรุง ภาพด้านบนเป็นภาพการเตรียมวัตถุดิบของเรา เริ่มจากด้านซ้ายบนคือการตำพริกและกระเทียมให้แหลก แต่ไม่ต้องละเอียด ต้มมาม่าให้มีความพอดีไม่แข็งและไม่สุกนิ่มจนเกินไป เคี่ยวน้ำตาลให้พอหนึด หรือหากใครไม่เคี่ยวก็ได้แต่ต้องคนให้ละลายกับน้ำปรุง สุดท้ายคือการรวนหมูสับบดโดยตั้งน้ำ รอให้เดือด ใส่คะนอผงและใส่หมูสับตาม พอเราเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วก็มาถึงส่วนของขั้นตอนการทำ เรียกว่าเป็นขั้นตอนที่ง่ายมาก ๆ แต่อุปกรณ์ในการยำให้เตรียมภาชนะใหญ่ ๆ เช่น กะละมังเล็ก หรือถ้วยที่ปิดรอบ เวลาคนจะได้ไม่หกเละเทอะ และไม้คนหนึ่งอัน เราใช้เป็นช้อนตักข้าวแบบง่าย ๆ 🌈 วิธีการทำ 1.ใส่วัตถุดิบที่เราเตรียมลงในภาชนะที่เตรียมไว้ โดยเริ่มจากของที่เป็นน้ำปรุงก่อน คือ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำเชื่อม คนให้เข้ากันแล้วตามด้วยพริกกระเทียมโคลก จากนั้นตามด้วยหมูสับและผักต่าง ๆ 2.ชิมรสชาติที่เราต้องการ หากขาดรสชาติใดก็สามารถเพิ่มเติมได้ในขั้นตอนนี้ โดยส่วนตัวเราจะเน้นรสชาติเปรี้ยว และเค็ม และทำให้เข้มข้นกว่าปกติเพราะเมื่อใส่เส้นมาม่าลงไปรสชาติจะเจือจางลง 3.ใส่เส้นมาม่าลงไปคลุกเคล้าน้ำยำ ชิมรสชาติที่ต้องการจากนั้นตักใส่จานพร้อมทาน ทาดาาา ~ เสร็จแล้วค่ะยำมาม่าของเรา น่าทานไหมคะ !? ความดีงามของการทำหารทานเองคือ เราจะสามารถเลือกปรุงรสชาติที่เราถูกใจได้ และใส่วัตถุดิบที่เราชอบเยอะ ๆ ได้ เช่น หมูยอ หมูสับ ซึ่งรสชาติของยำที่ทำออกมาอร่อยไม่แพ้ยำที่ซื้อทานตามร้านเลยหล่ะ หมูยอที่เราทำยำมาม่าเหลือ เราเลยเลือกที่จะมาทำยำหมูยอ ในครั้งถัดไป ใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบคล้าย ๆ ยำมาม่า แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของน้ำปลาร้า สรุปคือซื้อของครั้งเดียวสามารถทำทานได้ถึง 3-4 ครั้งแบบคุ้ม ๆ โดยเราจ่ายไปแค่ร้อยกว่าบาทเท่านั้น เป็นยังไงกันบ้างคะ กับสูตรอาหารง่าย ๆ สไตล์เด็กหอที่เราได้นำมาแชร์กันวันนี้ ทั้งประหยัดและได้เยอะ หวังว่าจะถูกใจเพื่อนนักอ่านกันนะคะ แต่ทั้งนี้ ยำ เป็นอาหารที่มีรสจัด ควรทานแต่พอดี และออกกำลังกายควบคู่อย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ 💰 ราคาวัตถุดิบโดยรวม 160 บาท 🌈 สถานที่ซื้อวัตถุดิบ แม็กซ์แวลู รูปภาพประกอบและเนื้อเรื่องโดย ครูอิงลิชอิสมี