9 ทริคเลือกฟักทองที่ผ่าแล้ว แบบไหนดี สดใหม่ มีเนื้อแน่นอร่อย อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายครั้งที่เราเดินผ่านแผงขายฟักทองที่ผ่าแล้ว ที่ไม่ว่าจะเป็นในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็ตามแต่ หลายคนอาจจะคิดว่าการเลือกซื้อนั้นง่ายมากๆ แค่ดูสีเนื้อสวยๆ ก็พอแล้ว ใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้ว การจะได้ฟักทองคุณภาพดี สดใหม่ และเหมาะสมสหรับทำอาหารกลับบ้านนั้น ต้องมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ นะคะ โดยที่หลายคนอาจมองข้ามไป และที่เราจำเป็นต้องมีทริคในการเลือก นั่นเป็นเพราะว่าฟักทองที่ถูกผ่าแล้วจะบอบบางกว่าฟักทองทั้งลูกมาก และมีโอกาสที่จะเสียหรือปนเปื้อนได้ง่ายกว่า ซึ่งการรู้เคล็ดลับในการเลือกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าฟักทองที่เราเลือกนั้นคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และเหมาะสมสำหรับการนำไปประกอบอาหารค่ะ แล้วเราต้องเลือกยังไง ต้องดูอะไรบ้าง หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ! เพราะเนื้อหาต่อไปนี้เราจะมาเรียนรู้กันแบบละเอียด เกี่ยวกับเทคนิคการเลือกซื้อฟักทองผ่าแล้ว ตั้งแต่ลักษณะภายนอกไปจนถึงไส้ใน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณผู้อ่านสามารถฉลาดเลือกฟักทองแบบแบ่งขายได้ด้วยตัวเอง และมั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่เราหยิบฟักทองแบบตัดเป็นชิ้น เราจะได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดกลับบ้านค่ะ ดังนั้นเรามาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า กับข้อมูลที่น่าสนใจต่อไปนี้ 1. เลือกชิ้นที่ไม่มีรอยบุบช้ำหรือความเสียหาย คุณผู้อ่านคงเคยเห็นฟักทองที่หั่นขายตามตลาดใช่ไหมคะ? และหลายคนชอบซื้อเพราะว่าสะดวกดี ที่ไม่ต้องมาผ่าเองให้วุ่นวาย แต่รู้ไหมคะว่าการเลือกฟักทองที่ผ่าแล้วก็มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญมาก นั่นคือต้องเลือกชิ้นที่ไม่มีรอยบุบช้ำหรือความเสียหายค่ะ ลองคิดดูสิคะว่ารอยบุบช้ำหรือรอยแตกเล็กๆ ที่เรามองข้ามไป คือ ประตูบานแรกที่จุลินทรีย์จะเข้าไปเจริญเติบโตได้ง่ายๆ พอมีรอยต่างๆ เนื้อฟักทองก็จะเริ่มเน่าเสียเร็วขึ้น จากที่ควรจะเก็บไว้ได้หลายวันก็อาจจะเสียในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แถมยังทำให้รสชาติของฟักทองเปลี่ยนไป ไม่หอมหวานเหมือนเดิมด้วย ดังนั้นก่อนจะหยิบฟักทองแบบแบ่งขายใส่ตะกร้า ลองใช้สายตาพิจารณาดีๆ สักนิด เลือกชิ้นที่เนื้อแน่น สีสวย ไม่มีความเสียหายแม้แต่น้อย เพื่อให้ได้ฟักทองสดใหม่ เก็บได้นาน และอร่อยเต็มที่ทุกคำค่ะ 2. ตรวจสอบความแน่นของเนื้อฟักทอง ก่อนตัดสินใจซื้อให้ลองกดเบาๆ เพื่อตรวจสอบความแน่นของเนื้อฟักทองค่ะ เพราะฟักทองที่สดใหม่และมีคุณภาพดี เนื้อข้างในจะแน่น ไม่นิ่มยวบยาบหรือเละ จากที่เซลล์ของฟักทองยังเต่งตึงและอุ้มน้ำไว้อย่างดี ที่บ่งบอกว่าฟักทองแก่กำลังดีและยังไม่เริ่มเสื่อมสภาพ ในทางกลับกันถ้าเราเจอว่า เนื้อฟักทองนิ่มหรือเละ แสดงว่าอาจจะถูกเก็บมานานเกินไป เริ่มเน่าเสีย หรือมีความเสียหายจากด้านใน ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติจะไม่หวานมัน และอาจจะเสียง่ายกว่าปกติด้วย ดังนั้นการกดทดสอบความแน่นจึงเป็นเหมือนการตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้นง่ายๆ ที่ช่วยให้เราได้ฟักทองอร่อยๆ กลับบ้านไปทำอาหารได้อย่างสบายใจค่ะ 3. ดูที่สีของเนื้อฟักทอง เนื่องจากสีของเนื้อฟักทองสามารถบอกเราได้ว่า ฟักทองชิ้นนั้นแก่กำลังดี มีคุณภาพ และพร้อมให้เรานำไปปรุงอาหารอร่อยๆ ได้หรือเปล่า ซึ่งฟักทองที่แก่เต็มที่และมีคุณภาพดี เนื้อจะต้องมีสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอกันตลอดทั้งชิ้น ถ้าเราเจอเนื้อฟักทองที่มีสีซีดจาง หรือมีสีไม่สม่ำเสมอ ออกขาวๆ เหลืองๆ ปนกันไปมา เป็นสัญญาณว่าฟักทองยังไม่แก่เต็มที่ ซึ่งรสชาติอาจจะไม่อร่อย ไม่หวานมันเท่าที่ควร หรือบางทีก็อาจจะเริ่มเก่าแล้วก็ได้ ดังนั้นการดูสีจึงเป็นเหมือนการประเมินคุณภาพเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด ที่ช่วยให้เราเลือกฟักทองได้ถูกต้องและมั่นใจว่าจะได้ของดีมีคุณภาพกลับบ้านไปค่ะ 4. สังเกตความชื้น การเลือกซื้อฟักทองที่ผ่าแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าดูแค่เนื้อสีส้มสวยๆ ก็พอ แต่จริงๆ แล้วความชื้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เนื่องจากฟักทองที่ถูกผ่าทิ้งไว้นานๆ โดยเฉพาะในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี จะคายน้ำออกมา ทำให้เนื้อฟักทองชื้นแฉะ ซึ่งความชื้นนี้เป็นแหล่งเพาะชั้นดีของจุลินทรีย์ ยิ่งชื้นมากเท่าไหร่ ฟักทองก็จะยิ่งเสียเร็วมากขึ้นเท่านั้น และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาได้ด้วย ดังนั้นเวลาเลือกซื้อฟักทองที่ผ่าแล้ว ให้ลองสังเกตดูว่าเนื้อฟักทองดูแห้ง ไม่แฉะเยิ้ม ไม่มีเมือก และไม่มีจุดด่างดำหรือราขึ้นนะคะ เพื่อให้เราได้ฟักทองที่สดใหม่ ที่จะสามารถเก็บไว้ได้นาน และเหมาะสมสำหรับทำอาหารค่ะ 5. สังเกตหีบห่อ เวลาเราไปเดินตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วเจอฟักทองที่ผ่าแล้ววางขาย สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยคือหีบห่อค่ะ เพราะหลายคนอาจจะคิดว่าดูแค่เนื้อฟักทองสวยๆ ก็พอ แต่จริงๆ แล้วหีบห่อบอกอะไรเราได้เยอะมากเลยนะคะ ถ้าฟักทองถูกห่อมาแบบลวกๆ หรือหีบห่อไม่สะอาด มีรอยฉีกขาดหรือดูเก่า นั่นหมายความว่าฟักทองชิ้นนั้นถูกทิ้งไว้นานแล้ว หรืออาจไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดีพอ ซึ่งอาจทำให้จุลินทรีย์หรือสิ่งปนเปื้อนต่างๆ เข้าไปทำลายเนื้อฟักทองได้ง่ายๆ เลยค่ะ แต่ถ้าฟักทองถูกห่อมาอย่างมิดชิด สะอาดและดูใหม่ ก็จะช่วยป้องกันการปนเปื้อนและรักษาความสดใหม่ของฟักทองได้ดีกว่า ทำให้เรามั่นใจได้ว่าฟักทองที่เราซื้อไปนั้นสะอาดและมีคุณภาพ ที่พร้อมนำไปทำอาหารอร่อยๆ ได้อย่างสบายใจค่ะ 6. ดูที่ขอบรอยตัด สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้เนื้อฟักทองเลยก็คือขอบรอยตัดค่ะ ลองนึกภาพดูว่าถ้าฟักทองถูกผ่าทิ้งไว้นานๆ หรือถูกเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสม บริเวณขอบรอยตัดจะเป็นด่านแรกๆ ที่แสดงอาการว่าฟักทองเริ่มไม่สดแล้ว และถ้าขอบรอยตัดดูแห้งแข็ง มีสีคล้ำ หรือมีเมือกๆ เหนียวๆ นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าฟักทองชิ้นนั้นไม่สดใหม่แล้วค่ะ เพราะส่วนที่ถูกตัดจะสัมผัสกับอากาศได้โดยตรง ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้ง่ายและเร็วที่สุด ตรงกันข้ามถ้าขอบรอยตัดยังดูสดใหม่ มีสีเหลืองสวยหรือเหลืองนวลคล้ายเนื้อฟักทองด้านใน ไม่แห้ง ไม่คล้ำ และไม่มีเมือก นั่นแปลว่าฟักทองยังสดอยู่มากและน่าซื้อไปทำอาหารค่ะ 7. สังเกตไส้ในของฟักทอง เวลาที่เราเลือกซื้อฟักทองที่ผ่าแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่สำคัญมากเลยก็คือการสังเกตไส้ในของฟักทองค่ะ ลองนึกภาพดูว่าฟักทองแต่ละลูกมีไส้และเมล็ดอยู่ข้างใน ซึ่งส่วนนี้สามารถบอกความสดใหม่ของฟักทองได้ดี ถ้าฟักทองถูกผ่าทิ้งไว้นานๆ หรือไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ไส้ในจะเริ่มมีเมือกเหนียวๆ หรือบางทีอาจจะเริ่มมีจุดด่างดำคล้ายเชื้อราขึ้นได้ง่ายๆ เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับความชื้นและอากาศโดยตรง แต่ถ้าฟักทองยังสดใหม่ ไส้ในจะดูแห้ง สะอาด ไม่มีเมือก และเมล็ดจะยังดูเต่งตึง ไม่เหี่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ดีว่า ฟักทองลูกนั้นยังคงคุณภาพดี เหมาะกับการนำไปทำอาหารอร่อยๆ ให้กับทุกคนในครอบครัวค่ะ 8. ดูที่ผิวเปลือกด้านนอก นอกจากจะดูที่เนื้อหรือไส้ในแล้ว การสังเกตผิวเปลือกของฟักทองก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นส่วนที่เราไม่ได้กินในบางคน แต่ผิวเปลือกฟักทองก็เป็นเหมือนกระจกสะท้อนความสดใหม่ได้ดีทีเดียว ถ้าผิวเปลือกยังดูตึง ไม่เหี่ยวแห้ง ไม่มีรอยช้ำหรือจุดด่างดำผิดปกติ นั่นหมายความว่าฟักทองลูกนั้นยังค่อนข้างสดอยู่ค่ะ แต่ถ้าผิวเปลือกดูเหี่ยว ย่น มีรอยช้ำหรือมีเชื้อราขึ้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฟักทองถูกเก็บไว้นานเกินไป หรืออาจได้รับการกระทบกระเทือน ที่จะทำให้คุณภาพลดลงไปมากแล้ว ดังนั้นการเลือกฟักทองที่ผ่าแล้วโดยสังเกตที่ผิวเปลือกควบคู่ไปด้วย จะช่วยให้เราได้ฟักทองที่สดใหม่และคุณภาพดีที่สุดกลับบ้านไปทำอาหารอร่อยๆ ได้อย่างมั่นใจค่ะ 9. พิจารณาจากแหล่งที่ซื้อ ให้เลือกฟักทองที่วางขายตามแผงในตลาดสด หรือที่ที่ดูสะอาดสะอ้าน มีการจัดเก็บอย่างดี และมีการหมุนเวียนสินค้าอยู่ตลอดเวลา เพราะมีโอกาสที่จะสดใหม่กว่าฟักทองที่วางอยู่ตามร้านที่ไม่สะอาด ที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสินค้ามากนัก หรือวางตากแดดตากลมเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้การเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ หรือร้านค้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความสดใหม่ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าเราจะได้ฟักทองที่มีคุณภาพดี ถูกสุขอนามัย และเหมาะสมสำหรับทุกคนในครอบครัวค่ะ ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างแหล่งที่ซื้อ จะช่วยให้เราได้วัตถุดิบที่ดีที่สุดมาทำอาหารได้อย่างสบายใจเลยนะคะ ที่โดยสรุปแล้วการเลือกซื้อฟักทองที่ผ่าแล้วให้ได้คุณภาพดี ไม่ใช่แค่เรื่องของโชคช่วย แต่ต้องอาศัยเทคนิคการสังเกตหลายๆ จุดประกอบกันเลยค่ะ ซึ่งการใช้เทคนิคต่างๆ ตามที่ผู้เขียนได้นำเสนอไว้ร่วมกัน จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าฟักทองที่เราเลือกนั้นสด สะอาด และคุณภาพดีแน่นอนค่ะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงจุดที่ตัดสินใจซื้อได้เลย? จุดสรุปอยู่ที่การประเมินองค์ประกอบทั้งหมดที่เรากล่าวมาค่ะ ถ้าฟักทองชิ้นไหนที่ผ่านการพิจารณาไปในทางที่ดีในทุกๆ ข้อที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชื้นที่พอดี หีบห่อที่เรียบร้อย ขอบรอยตัดที่สดใหม่ ไส้ในที่สะอาด ผิวเปลือกที่เต่งตึง และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ฯลฯ นั่นคือฟักทองที่มีคุณภาพที่เราสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ 100% เพียงแค่ทุกองค์ประกอบอยู่ในเกณฑ์ดี ก็เพียงพอแล้วที่จะได้ฟักทองอร่อยๆ ไปทำอาหารนะคะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็ได้นำเทคนิคต่างๆ ไปใช้ด้วยกันหลายข้อ และจุดที่ผู้เขียนตัดสินใจเลือก คือ ดูจากภาพรวมของฟักทองที่ผ่าแล้วชิ้นนั้น โดยต้องมีลักษณะเป็นไปตามที่ได้พูดไว้ข้างต้น ที่ในบางครั้งพอเราใช้ทริคในนี้ 4-5 ข้อ ก็สามารถตัดสินใจได้แล้วค่ะ โดยทริคที่ผู้เขียนชอบใช้ประจำ คือ การเลือกจากร้านค้าที่ไว้ใจได้ จากนั้นผู้เขียนจะดูในส่วนของความแน่นของเนื้อฟักทอง รอยตัดแบ่งและสีของเนื้อฟักทองค่ะ และถ้าคุณผู้อ่านได้นำทริคต่างๆ ไปใช้เป็นแนวทาง รับรองว่าก็ได้ฟักทองแบบตัดแบ่งขายที่มีคุณภาพดีมาทำอาหารเหมือนกันค่ะ ยังไงนั้นอย่าลืมนำไปใช้นะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 ทริคเลือกฟักทองบัตเตอร์นัต แบบไหนดี สดใหม่ สำหรับทำอาหาร 8 วิธีเก็บพริกขี้หนู ให้อยู่ได้นาน ลดเน่าเสียง่าย ทำยังไงดี 8 วิธีเลือกฟักทองญี่ปุ่น ลูกสดใหม่ ดูยังไงดี น่าซื้อมาบ้าน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !