อำเภอบ้านโป่งนั้นมีชนชาติอยู่หลายเชื้อชาติ ในตลาดบ้านโป่งซึ่งเป็นย่านการค้าจะสังเกตว่ามีร้านทองอยู่หลายร้าน บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันของชาวไทยเชื้อสายจีน หากมาทางแถบ ต.บ้านม่วง ต.สวนกล้วย ในอ.บ้านโป่งนั้นจะเป็นชุมชนของคน "มอญ" ในประเพณีสงกรานต์ชาวมอญ ในต.บ้านม่วงและต.สวนกล้วย (เท่าที่ผู้เขียนรู้จัก) ก็จะมีประเพณีทำข้าวแช่เพื่อไปทำบุญที่วัดถวายพระตามประเพณีด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ในตลาดบ้านโป่งจะมีเมนู "ข้าวแช่" ขายแม้ว่าจะไม่ใช่ "ข้าวแช่ชาววัง" แต่เป็นข้าวแช่ตำรับแท้ของคนมอญเลยทีเดียว ข้าวแช่ในตลาดบ้านโป่งชื่อร้าน หมู - น้อย ข้าวแช่ ปัจจุบันป้าน้อยได้เสียชีวิตแล้ว มีลูกหลานของป้าน้อย และลุงหมูขายแทนป้าน้อย ผู้เขียนยังจำครั้งที่พาเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาชิมได้ ป้าน้อยจะชอบดูหมอดูด้วยไพ่ จะมีสำรับไพ่ไว้สับ ๆ ระหว่างนั่งรอลูกค้า เพื่อน ๆ และผู้เขียนก็ยังแซว ๆ กันให้ป้าน้อย ดูดวงเรื่องความรักให้ เป็นที่สนุกสนาน เรียกได้ว่าร้านนี้ขายกันมานานประมาณ 30 - 40 ปีเลยทีเดียว เครื่องเคียงของร้านข้าวแช่ หมู - น้อย จะมีเพียง 3 อย่างซึ่งเป็นแบบโบราณ ได้แก่ ลูกกะปิ ทำจากกุ้งแห้ง หมูสับ กะปิ เครื่องเทศต่าง ๆ ได้แก่กระชาย กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้นำมาผสมกันตามกรรมวิธีปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปทอด ไชโปวหวาน ใช้ไชโปวเค็มหั่นเป็นเส้นฝอยๆ นำมาผัดให้หวาน ปลาฝอย ปลาเส้น หรือปลาหวาน ซึ่งใช้หางปลากระเบนแห้งในการทำการหุงข้าวสำหรับทำข้าวแช่และน้ำลอยดอกมะลิ ลักษณะของข้าวแช่นั้นจะเป็นเม็ดที่เรียงตัวกันสวยจะไม่เหมือนข้าวหอมมะลิที่หุงด้วยหม้อหุงข้าวทั่ว ๆ ไป จะเป็นข้าวเม็ดขาว ๆ ร่วน ๆ แต่เวลากินแล้วรสสัมผัสจะนุ่ม เพราะใช้วิธีหุงด้วยการนึ่งแล้วอบควันเทียน ส่วนน้ำลอยจะเป็นน้ำที่มีกลิ่นควันเทียนแล้วมีดอกมะลิลอยอยู่เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ในถังน้ำจะมีน้ำแข็งก้อนใหญ่อยู่ เพื่อให้น้ำเย็นชื่นใจตลอดเวลา แม้จะไม่มีดอกมะลิให้เห็นแล้วในช่วงเย็น แต่น้ำก็ยังหอม เย็น ชื่นใจ เช่นกัน (ในวันที่ผู้เขียนไปกินและถ่ายรูปนั้นเป็นช่วงเย็นใกล้จะเก็บร้านแล้วจึงไม่เห็นดอกมะลิ) การรับประทานข้าวแช่ การกินข้าวแช่นั้นตามวิธีการก็จะบอกว่าให้เริ่มจากการกินเครื่องเคียงข้าวแช่ก่อน แต่สำหรับผู้เขียน พอแม่ค้ายกถ้วยข้าวแช่มาวางผู้เขียนก็ตักน้ำซดเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ เพราะร้อนอยากซดน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อน แล้วค่อยตักเครื่องเคียง (กินไปแล้วด้วยถึงนึกได้ว่าต้องถ่ายรูป ฮ่า) ผู้เขียนคิดว่าการจะกินอะไรก่อนหลังนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหา ขอเพียงว่าอย่าตักเครื่องเคียงลงไปในน้ำข้าวแช่นะคะเพราะจะเสียอรรถรสมาก ราคา ข้าวแช่ร้านหมู - น้อย ในตลาดบ้างโป่งนี้ราคาไม่แพงค่ะเพียงแค่ 25 บาทต่อชุดเท่านั้น ซึ่งข้าวของร้านนี้คนขายบอกว่าจะทำวันต่อวันหากวันนี้เหลือคือต้องทิ้งอย่างเดียวไม่นำมาขายต่อ เวลาขาย 8.00 น. - 16.00 น. ที่เลิกขายเร็วนั้นคนขายบอกว่า เพราะขายเผื่อคนที่มาจากกรุงเทพซื้อกลับไปแล้วไม่เกิน 2 ชม.ยังคงกินได้อร่อยอยู่ แต่ถ้ายังไม่กินเลย จะเก็บไว้ในตู้เย็น โดยข้าวให้เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง เครื่องเคียงให้ใส่ในช่องเย็นธรรมดา ผู้เขียนนั่งกินที่ร้านแล้วก็ซื้อกลับมาบ้านด้วยอีก 2 ชุด เพื่อนำมาแช่แข็งวันรุ่งขึ้นลองนำข้าวมาอุ่นเวฟ (ด้วยโปรแกรมละลายน้ำแข็ง 5 นาที) ก็พบว่า ข้าวกลับมาเป็นข้าวที่หอมนุ่มเหมือนเดิมได้จริงๆ ส่วนเครื่องเคียงไม่ต้องอุ่นค่ะ แค่พักไว้ให้หายเย็น หรือจะกินเย็น ๆ เลยก็ได้ ไม่เสียรสชาติ (ในภาพคือเผลอหยิบลูกกะปิกินไปก่อนขณะรออุ่นข้าว ด้วยความลืมว่าต้องถ่ายรูป ฮ่า)การเดินทางมาร้านข้าวแช่ หมู - น้อย ในตลาดบ้านโป่ง เข้ากูเกิ้ลแมปค้นหาการเดินทางมายัง "ตลาดบ้านโป่ง" ได้เลยค่ะ ลงมาจากทางยกระดับเข้าอำเภอบ้านโป่ง ผ่านวัดดอนตูมมาจนกระทั่งเจอหอนาฬิกา สถานีตำรวจจะอยู่ด้านขวามือให้ตรงไปเข้าตลาดบ้านโป่ง (ตรงข้ามกับทางเข้าตลาดเทศบาลบ้านโป่ง) เข้ามาแล้วจะพบร้านทองเยาวราชแสงเจริญ ตรงข้ามร้านทองจะเป็นทางเข้าในตัวตลาด ร้านข้าวแช่หมู - น้อย จะอยู่ต้นทางเลยค่ะ เห็นป้ายสีชมพู ๆ ราคา 25 บาท อย่าลืมนะคะ ท่านผู้อ่านที่มาธุระทางแถบ จ.กาญจนบุรี หรือจะไป จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี ลองเลี้ยวเข้ามาเยี่ยมชมตลาดบ้านโป่ง ของกินในตลาดบ้านโป่งเยอะมาก ขอบอก!!!! ถ้าไม่แวะ อาจพลาดของดี ของเด็ด ของหากินยาก ในอ.บ้านโป่งก็ได้ค่ะ ภาพทุกภาพโดยผู้เขียน