8 วิธีเลือกมะละกอดิบ ทำส้มตำอร่อย กรอบและไม่ขม...กดอ่านเลย | บทความด้านสุขาภิบาลอาหาร โดย Pchalisa การเลือกมะละกอที่เหมาะกับการนำมาตำส้มตำนั้น จริงๆ แล้ว ประเด็นนี้ผู้เขียนทำมาตลอดค่ะ เพราะเป็นคนชอบทำอาหาร และส้มตำก็เป็นเมนูที่พอทำได้ และต่อให้ไม่ได้ตำส้มตำเอง หลายครั้งผู้เขียนก็มักมีโอกาสได้เป็นคนที่ต้องเตรียมหรือจัดหามะละกอดิบค่ะ จึงกลายเป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องนี้กับเขามาบ้างพอสมควร และถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตำส้มตำขายแต่ด้วยความที่โดยส่วนตัวมีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารมา เลยมองภาพได้อย่างรวดเร็วหากพูดถึงการเลือกมะละกอดีๆ สักลูกมาสับเพื่อทำส้มตำค่ะดังนั้นใสบทความนี้ข้อมูลดีที่เป็นคำแนะนำเจ๋งๆ ให้กับคุณผู้อ่าน ที่บางคนก็อาจจะได้ไปเลือกมะละกอดิบแบบไม่ทันตั้งตัวเลยก็ได้ จากนั้นก็ไม่รู้จะเริ่มต้นเลือกยังไงดีจริงไหมคะ? ก็อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ แค่ลองอ่านเนื้อหาในบทความนี้ดูก่อน รับรองว่าเห็นภาพแน่นอนว่าต้องเลือกแบบไหน ซึ่งรับรองว่าได้มะละกอดิบแบบเป๊ะปังเวอร์! เหมือนมืออาชีพแน่นอนค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางง่ายๆ ดูมะละกอดิบแบบคับคุณภาพ ที่ใช้ทำส้มตำอร่อย กรอบและไม่ขมด้วยนะ ดังนี้จ้า1. เลือกมะละกอสายพันธุ์ที่นิยมนำมาทำส้มตำวิธีการนี้ง่ายสุดเลยค่ะ และการถามจากแม่ค้าหรือคนที่ปลูกมะละกอว่าพันธุ์ไหนอะไรยังไง ต้นไหนทำส้มตำอร่อย ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้ได้มะละกอคุณภาพค่ะ และวิธีการนี้ผู้เขียนได้ใช้บ้างเวลาไปขอมะละกอเพื่อนบ้าน ญาติหรือคนรู้จัก ก็มักจะถามว่าต้นไหนทำส้มตำอร่อย และทุกครั้งก็ได้รับคำตอบมาด้วยว่าร้นนั้นพันธุ์อะไร ใกล้ตัวมาหน่อยก็เป็นแม่ของผู้เขียนค่ะ ซึ่งยังไม่ได้ถามเลยแต่พอถามว่ามีมะละกอทำส้มตำไหม ก็มักบอกเสร็จสับว่าต้นไหนแบบไหนพันธุ์อะไรค่ะ ซึ่งปกติก็แขกดำนะคะที่เห็นบ่อยๆ และต่อไปนี้คือตัวอย่างของสายพันธุ์มะละกอที่ได้รับนิยมนำมาทำส้มตำค่ะมะละกอแขกดำ เป็นพันธุ์ยอดนิยมที่ปลูกกันมาก โดยมะละกอพันธุ์นี้ผลมีขนาดปานกลาง รูปร่างยาวรี เนื้อหนาสีขาว กรอบ รสชาติหวานตามธรรมชาติเล็กน้อยค่ะมะละกอแขกนวล มีผลคล้ายมะละกอแขกดำค่ะ แต่ผลมีขนาดเล็กกว่า เนื้อบางกว่า รสชาติจืด และยังเหมาะสำหรับทานดิบทำส้มตำค่ะมะละกอครั่ง เป็นมะละกอที่มีผลมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับมะละกอพันธุ์อื่นๆ ผลมักมีรูปร่างกลมรี เนื้อหนาสีขาว กรอบ รสชาติหวานตามธรรมชาติ และเหมาะสำหรับทำส้มตำจ้ามะละกอท่าพระ ให้ผลมีขนาดปานกลาง รูปร่างยาวรี เนื้อหนาสีขาวและกรอบ2. ดูรูปร่างของมะละกอตอนจะทำส้มตำนั้นนะคะ จำเป็นอย่างมากที่คุณผู้อ่านต้องเลือกมะละกอลูกที่ยาวเรียว ปลายมน ก้นมะละกออวบ เพราะมะละกอแบบนี้สามารถทำส้มตำได้แซ่บฟินทุกคำและไม่ขมด้วย เนื่องจากว่ามะละกอลักษณะแบบนี้คือมะละกอที่แก่ได้ที่สำหรับพร้อมทานดิบได้นั่นเองค่ะ3. จับดูที่ก้านของมะละกอวิธีการง่ายๆ อีกวิธีการหนึ่งในการเลือกมะละกอแก่จัดสำหรับทำส้มตำก็คือการดูที่ก้านค่ะ โดยก้านต้องแข็ง และถ้าพบว่าก้านมะละกอยังอ่อนนั้นแบบนี้หยุดก่อน เพราะความอ่อนของก้านจะบ่งบอกความอ่อนของมะละกอด้วย ซึ่งมะละกอแบบที่ว่านี้ก็จะขมและไม่เหมาะสำหรับทำส้มตำนะคะ ซึ่งจริงมากค่ะเพราะผู้เขียนเคยดื้อเก็บมะละกอก้านอ่อนมาทำส้มตำ คือตอนนั้นจำได้ว่าแล้งมากมะละกอก็โตไม่ทัน และด้วยความที่เราอยากทานส้มตำมาก ก็เลยจัดเต็มที่ ปรากฎว่าส้มตำขมและไม่กรอบแถมยังไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควรอีกต่างหากค่ะ4. สังเกตสีผิวการจะได้มะละกอดีๆ มาทำส้มตำนั้น จะต้องใช้การดูที่เปลือกมะละกอมาเป็นตัวช่วยค่ะ ซึ่งมะละกอที่เหมาะสมควรมีเปลือกสีเขียวอ่อนหรือสีเขียวอมเหลืองก็ได้ และต้องมีลายจุดสีขาวประปราย ตลอดจนผิวของมะละกอลูกนั้นจะต้องเรียบเนียน ไม่มีรอยช้ำหรือรอยแตกและไม่มีรอยแมลงกัดกินจ้า5. กดสัมผัสเบาๆ บนเปลือกตอนไปซื้อมะละกอหรือตอนไปเก็บมะละกอให้ลองทำการกดเบาๆ บริเวณผิวมะละกอค่ะ มะละกอที่เหมาะสำหรับทำส้มตำควรมีความยืดหยุ่นตามธรรมชาติ ไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป ส่วนเนื้อมะละกอจะต้องแน่นและแข็ง เพราะมะละกอที่ยังดิบจะมีน้ำน้อย พอกดดูแล้วจะไม่เละหรือกดบุ๋มนะคะ และถึงแม้ว่าจะเป็นมะละกอจากต้นของเราเองก็ตามแต่ก็ต้องทดสอบแบบเดียวกัน เพราะผู้เขียนเคยมาแล้วค่ะที่เป็นมะละกอดิบบนต้นจากสวนตัวเอง ที่มองไกลๆ เหมือนดีเหมือนโดน แต่พอเดินไปจับดูเท่านั้น ก็ยังสามารถพบได้ว่ามะละกอดิบเหี่ยวบนต้นได้จากการขาดน้ำหรือมีโรคพืชค่ะ6. ดมกลิ่นกลิ่นนี้หมายถึงกลิ่นตามธรรมชาติของมะละกอค่ะ ที่ก็จะเหมือนพืชชนิดอื่นที่มีกลิ่นเฉพาะประจำตัวที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งตอนดิบและตอนสุก ดังนั้นมะละกอที่พร้อมสำหรับนำมาตำส้มตำจะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของการเป็นมะละกอดิบอ่อนๆ จ้า แต่ก็มีอีกกรณีค่ะที่บางคนอาจชอบทำส้มตำจากมะละกอห่ามนิดๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เราก็จะได้กลิ่นของความสุกนะคะ แต่มะละกอแบบนี้ยังสามารถทำส้มตำได้อร่อย อีกทั้งยังกรอบและไม่ขมด้วยเหมือนกันค่ะ ต้องลองดูค่ะว่าเราชอบแบบไหนแน่7. ดูที่ขั้วมะละกอขั้วกับก้านจะเป็นคนละส่วนกันค่ะ ซึ่งส่วนขั้วนั้นถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือหัวจุกที่ติดกับลูกของมะละกอ โดยขั้วจะต้องติดอยู่กับลูกแน่นและไม่หลุดร่วง ซึ่งแนวทางนี้สามารถนำไปใช้ได้เป็นอย่างดีตอนไปตลาดค่ะ เพราะถ้าขั้วหลุดก็อาจเป็นไปได้ว่ามะละกอลูกนั้นไม่สดแล้ว เก็บมานานแล้ว รวมไปถึงมะละกอลูกนั้นก็มีคุณภาพไม่ดีแล้วนั่นเองนะคะ พอไม่สดความกรอบอร่อยก็ลดน้อยถอยลงตามมาแบบเห็นได้ชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรเลือกมาทำส้มตำตั้งแต่แรกค่ะ8. ฟังเสียงกังวานมะละกอก็เป็นอีกอย่างที่สามารถใช้การเคาะฟังเสียงดังกังวานด้านใน มาเป็นแนวทางในการประเมินความสดใหม่ ความกรอบและความอร่อยได้ค่ะ ซึ่งมะละกอลูกไหนที่ยังดิบและพร้อมสำหรับนำมาทำส้มตำได้นั้น พอเราเคาะเบาๆ แล้ว เสียงที่ได้ยินจะทึบๆ ไม่ก้องกังวาน โดยเสียงจะเหมือนเราเคาะไม้ที่แน่นด้านในค่ะ เพราะเนื้อในมะละกอที่ยังดิบพร้อมทานจะแน่นและแนบชิดกับเปลือก แถมยังมีช่องว่างด้านในที่น้อย ซึ่งถ้าเรานำมาผ่าก็จะพบว่าโพรงด้านในแคบและสอดคล้องกับเสียงที่เราได้ยินตอนเคาะค่ะว้าว! จบแล้วค่ะ กับแนวทางในการเลือกมะละกอมาทำส้มตำเด็ดจริงๆ เลยใช่ไหมคะ ซึ่งบางวิธีการบางคนอาจจะเพิ่งมารู้ตอนอ่านบทความนี้ด้วยซ้ำไป จริงไหมคะ? อย่างไรก็ตามค่ะ ขอสรุปในตอนท้ายนี้ไว้ว่า หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ ไม่ควรเลือกมะละกอที่ยังดิบมากเกินไปเพราะแบบนี้จะทำให้ขม และก็ไม่ควรเลือกมะละกอที่ห่ามมากไปทางสุก เพราะมะละกอแบบนี้จะมีเนื้อนิ่ม พอทำส้มตำก็จะไม่น่าทานและไม่อร่อยด้วยค่ะ และมะละกอที่พร้อมสำหรับการทำส้มตำมันคือการเลือกมะละกอที่แก่จัดมาให้ได้ โดยการเลือกมะละกอแบบนี้ผู้เขียนก็ได้อธิบายวิธีการไว้ข้างต้นแล้วว่าต้องทำอะไรบ้างนะคะ ก็ลองนำไปปรับใช้กันยังไม่พอผู้เขียนยังพบอีกว่ารูปแบบการสับมะละกอ ความคมของมีดหรืออุปกรณ์ที่นำมาขูดมะละกอ ขนาดของเส้นมะละกอ สิ่งเหล่านี้ก็มีผลต่อความกรอบอร่อยของเส้นมะละกออีกเหมือนกันค่ะ ซึ่งมันจริงนะคะเพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วลูกเดียวกันแต่สับคนละแบบ ก็ให้ความอร่อยแซ่บและกรอบคนละอย่างเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความอร่อยของผู้เขียนก็อาจจะต่างจากคุณผู้อ่าน ประสบการณ์ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเลือกมะละกอได้ดีเหมือนกันค่ะ ซึ่งเราต้องลองหาจุดที่เราชอบหรือจุดที่ลูกค้าที่มาซื้อส้มตำสะท้อนให้เราฟัง เพราะกรอบอร่อยของอีกคนก็ไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องเหมือนกับอีกคน อย่างไรก็ตามผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และถ้าชอบบทความแบบนี้อีกอย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะเพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆนี้ค่ะเครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียนออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaเกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูลศึกษาเกี่ยวกับ: พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล ผู้ก่อตั้ง: https://phakchalisapchalisa.blogspot.com/บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/9YZO22QmqAVz https://food.trueid.net/detail/AzYwox483agZ https://food.trueid.net/detail/VX0x76aQ1p4X เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !