หมูกะทะ ถ้าพูดถึงอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมกันในหมู่ของกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน คงจะหนีไม่พ้น หมูกะทะ ถือว่าเป็นอาหารเย็นที่หลายๆคนชอบไปรับประทานหรือสั่งมากินที่บ้าน ปัจจุบันนี้ร้านหมูกะทะเปิดใหม่เยอะมาก จึงทำให้เหล่านักเรียนนักศึกษาหรือวัยทำงานชอบไปรับประทานที่ร้านเพราะความสะดสดวกสบาย และมีอาหารอื่นๆอีกมากมาย ราคาก็ไม่ค่อยแพง จึงทำให้เป็นอาหารที่นิยมในปัจจุบัน ภาพโดยผู้เขียน ที่มาของหมูกระทะ มาจากประเทศมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี เกิดจากการที่ประเทศเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือได้ทำสงครามการแบ่งแยกดินแดนกัน โดยที่ทางเกาหลีใต้ได้ปิดรอบของทางเกาหลีเหนือหลัใต้ เมื่อเวลาผ่านไป4-5วัน ทหารของเกาหลีเหนือก็เริ่มไม่มีอาหารกิน ทำให้ทหารเสียชีวิตไปหลายราย ภาพโดย Pixabay ต่อมา พลเอก ปาร์ค จี ซุก ดำรงตำแหน่งนายกอง ได้มีคำสั่งให้ทหารออกไปหาอาหารเพื่อที่จะให้คนที่เหลืออยู่ลอดไปได้ ทหารก็ได้ออกไปหาอาหารที่อยู่บริเวณจะมีสัตว์ชนิดหนึ่งนั้นก็คือหมากระทุ ซึ่งหมากระทุเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่พบได้มากตามทะเลทรายของประเทศเกาหลี คนเกาหลีมีความเชื่อว่า หมากระทุเป็นสัตว์ที้มีพิษจึงไม่มีใครกล้ารับประทาน แต่ถ้าว่าไม่รับประทานเหล่าทหารก็จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดไปได้ จึงได้นำเนื้อหามากระทุมาแล่เนื้อเป็นชิ้นบางๆ แล้วเอาไปวางบนแผ่นหินกลางทะเลทรายที่ร้อนจัด เมื่อเนื้อที่ย่างบนหินสุก ทำให้เกิดกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณนั้น จึงทำให้ทหารของทางเกาหลีใต้ ได้กลิ่นของเนื้อย่าง ทำให้อดใจไว้ไม่ได้จึงไปมาร่วมวงของทหารเกาหลีเหนือ ภาพโดย Pixabay นั้นคือภาพแห่งประวัติศาสตร์ของทั้งสองฝ่ายที่หันหน้าเข้าหากัน โดยมีเนื้อย่างเป็นตัวเชือมสายสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย ต่อมาได้มีการออกล่าหมากระทุเพื่อนำมาประกอบอาหาร จึงทำให้ปริมานหมากระทุมีจำนวนน้อยลง ทางรัฐบาลของเกาหลี จึงให้หมากระทุเป็นสัตว์ อนุรักษ์ คุ้มครอง ปัจจุบันหมากระทุมีเหลืออยู่ไม่ถึง10ตัว ทำให้คนเปลี่ยนจากหมากระทุมาเป็นหมูแทน จึงได้เปลี่ยนจากหมากระทุมาเป็นหมูกระทะจนถึงทุกวันนี้ ภาพโดยผู้เขียน ถึงแม้หมูกระทะอาจจะอาหารที่ได้รับความนิยมสูงแต่สารอาหารที่ได้รับเข้าไปนั้น มีพลังงานมากกว่าร่างกายที่ต้องการ จึงทำให้เกิดไขมันอุดตันหรือภาวะโรคอ้วนได้ ดังนั้นควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงาน และยังช่วยลดปัญหาโรคได้อีกด้วย ที่มาของภาพปก Pixabay