“ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้ เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย เป็นที่ชื่นชอบของใครต่อใคร ทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน จะชื่นชอบทุเรียนอย่างเห็นได้ชัดกว่าชาติอื่นๆ ที่ผู้เขียนกล้าพูดเช่นนี้ เพราะผู้เขียนทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนซื้อทุเรียนกินกันเยอะ ที่ไหนมีร้านขายผลไม้ ก็จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเต็มร้านนั้นเสมอ แต่ “ทุเรียน” ก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนเสมอไป มีหลายคนที่ไม่ชอบกินทุเรียน แค่ได้กลิ่นก็เหม็นจนจะอ้วกเลยทีเดียว ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบกินทุเรียนค่ะ ชอบมาตั้งแต่เด็กเลย สมาชิกทุกคนในบ้าน ทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย และ พี่สาว ชอบกินทุเรียนกันหมด ดังนั้น เวลากินทุเรียนก็จะกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ต้องเอาไปกินห่างๆ และสามารถเก็บทุเรียนไว้ในบ้านได้ เพราะไม่มีใครเหม็นทุเรียนเลยสักคน (ภาพโดย : ผู้เขียน) วันนี้พ่อของผู้เขียนได้ทุเรียนมาหนึ่งเข่ง ไม่ได้ซื้อมาจากที่ไหนนะคะ เป็น ทุเรียน ที่ได้มาจากบ้านย่าของผู้เขียนเอง อยู่ที่ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ติดกับ อำเภอทุ่งใหญ่บ้านของผู้เขียนค่ะ ขับรถประมาณ 30 นาที ก็ถึงแล้ว ที่บ้านย่าจะมีผลไม้ปลูกไว้รอบๆ บริเวณบ้านหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนบ้าน หมอนทอง ชะนี หรือ มังคุด ลองกอง ลางสาด ผลไม้ถิ่นใต้ทั้งหลาย ในเข่งล้วนแล้วแต่เป็นทุเรียนบ้านค่ะ มี หมอนทองปนมาแค่ 1 ลูก ตอนเด็กๆ จะได้ยินพ่อบอกว่า “เรียนบ้าน อร่อยกว่า เรียนพันธุ์” อย่าเพิ่งงงนะคะ นี่เป็นภาษาใต้ “เรียนบ้าน” หมายถึง ทุเรียนสายพันธุ์พื้นบ้านค่ะ มีหลายสายพันธุ์ โดยส่วนมากแล้วลูกจะเล็ก เม็ดในใหญ่ เนื้อน้อย กลิ่นแรง “เรียนพันธุ์” หมายถึง ทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ ที่ขายกันทั่วไปในท้องตลาด ที่พวกเราคุ้นเคยกัน เช่น พันธุ์หมอนทอง ชะนี ก้านยาว หลง หลินลับแล ฯลฯ เป็นต้น ลูกจะใหญ่กว่าทุเรียนบ้านเม็ดในเล็ก เนื้อเยอะ กลิ่นไม่แรงมาก (ภาพโดย : ผู้เขียน) ในตอนนั้นผู้เขียนเองก็ยังเด็กเลยไม่เข้าใจว่า เรียนบ้าน อร่อยกว่า เรียนพันธุ์ ตรงไหน เนื้อก็น้อย แถมกลิ่นฉุนกว่า เลยบอกพ่อว่าหนูชอบกินเรียนพันธุ์เพราะเนื้อเยอะกว่า พอโตขึ้นมา และมาทำงานต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีโอกาสได้กิน เรียนบ้าน เท่าไรนัก พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะขายแต่ เรียนพันธุ์ พอกินบ่อยๆ เข้า ผู้เขียนเริ่มนึกถึงคำพูดของพ่อแล้วล่ะค่ะ เริ่มรู้สึกว่า เรียนพันธุ์ อร่อยสู้ เรียนบ้าน ไม่ได้ รู้สึกเหมือนรสชาติความหวานมันไม่ละมุน กลิ่นไม่ค่อยหอม รู้สึกเหมือนปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีอันตราย ไม่มีอรรถรสเหมือนเรียนบ้านที่เราเคยกินเลย รู้สึกได้ว่า เรียนบ้าน หวานธรรมชาติ กลิ่นหอม เนื้อละมุนมากกว่า เดี๋ยวนี้เวลานึกอยากกินทุเรียนขึ้นมา จะนึกถถึงเรียนบ้านมากกว่าค่ะ เอ๊ะ!... หรือว่าเราแก่แล้ว เลยเริ่มมีความรู้สึก เริ่มชอบอะไรเหมือนพ่อ 😅😅😅 เริ่มชอบ “เรียนบ้าน มากกว่า เรียนพันธุ์” ซะแล้ว ทุเรียนบ้านหอมๆ เปลือกกองพะเนิน แต่ได้เนื้อไม่เยอะเลย หอม อร่อย ละมุนมากๆ เลยค่ะ นั่งปอกไป ลูกสี่ขา ก็มานั่งทำตาละห้อยไป อยากขอกินด้วย (ภาพโดย : ผู้เขียน) ด้วยความที่ชอบกินทุเรียนมาตั้งแต่เด็ก ผู้เขียนก็จะปอกทุเรียนกินเองได้ เพราะพ่อแม่ของผู้เขียนจะเลี้ยงลูกแบบให้ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ตามใจ หรือทำให้ทุกอย่าง ตัวผู้เขียนเองก็เป็นคนที่ชอบทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว ชอบทำอะไรให้ได้ แบบที่พ่อแม่ทำ เมื่อชอบกินทุเรียน ก็ต้องปอกทุเรียนเป็น ในตอนที่ยังเด็กเกินกว่าจะใช้ของมีคม ก็นั่งดูพ่อปอกให้กินค่ะ แต่พอโตพอที่จะจับมีดจับของมีคมได้อย่างระมัดระวังแล้ว ก็ไม่วายที่จะปอกทุเรียนกินเองแน่นอน และที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ ข้าวเหนียวทุเรียน ของโปรดของครอบครัวเรา ทำจาก เรียนบ้าน นะคะ จะให้ความหอมมากกว่า วันนี้ เรียนพันธุ์ ยังไม่สุกค่ะ เก็บไว้เอาไปกินที่ภูเก็ตแล้วกัน หลังจากกลับไปเยี่ยมบ้านมา 4 วัน เมื่อกลับมาถึงภูเก็ต น้องหมอนทองของเราก็ส่งกลิ่นหอมพอดีค่ะ ได้เวลาลงมืออีกแล้ว! ชีวิตผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่สามีไม่ชอบกินทุเรียน เวลาอยากจะกินทุเรียนแต่ละครั้งต้องปอกกินเอง พูดแล้วเศร้า ถึงแม้สามีจะไม่ชอบกินทุเรียนเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจหรือเหม็นกลิ่นทุเรียนนะคะ เพียงแต่เขาปอกทุเรียนไม่เป็นค่ะ ลูกชาวเล หรือจะสู้ลูกชาวสวนอย่างเรา ฮึบๆ (ภาพโดย : ผู้เขียน) นี่แหละค่ะ อยากกินยังไงก็ต้องปอกเอง น่ากินไหมคะ หมอนทอง เนื้อสีเหลืองสวยๆ กรอบนอกนุ่มใน กำลังน่ากินเลยค่ะ คุ้มค่ากับความพยายามมากเลย เพื่อของอร่อยผู้เขียนทำได้เสมอ แม้จะต้องปอกทุเรียนให้สามีกินไปตลอดชีวิตก็ได้ค่ะ แหม! คิดซะว่าเรื่องนี้เราเก่งก็แล้วกันนะคะ แฮร่! ขอบคุณที่รับชม และขอฝากติดตามบทความต่อๆ ไป ของ “ขี้พร้าขาหมู” ด้วยนะคะ...ขอบคุณค่ะ