ภาพโดย skeeze จาก Pixabay ถึงจะทูน่า แต่ไม่ตีสองหน้านะเออ สำหรับทูน่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก แถมยังอาจจะเป็นของโปรดใครหลาย ๆ คนอีกด้วย เห็นได้จากตามเมนูอาหารร้านต่าง ๆ หรืออาหารที่ทำเอง โดยเฉพาะแซนวิชก็มักจะมีทูน่า เป็นส่วนผสมโปรดของใครหลาย ๆ คน ภาพโดย WikiImages จาก Pixabay วันทูน่าโลก ถูกจัดขึ้นทุกวันที่ 2 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ของทูน่าไว้ให้คงอยู่คู่กับชาวโลก โดยทูน่านั้นเป็นปลาที่ทำรายได้ ได้กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ทูน่ากว่า 7 ร้อยล้านตันถูกจับได้ในหนึ่งปี และทูน่ามีสายพันธุ์มากกว่า 20 ชนิด ซึ่งจุดเด่นของทูน่าอยู่ที่สีที่ช่วยให้มันพรางตัวจากนักล่าได้ดี ไม่ว่าจะมองจากด้านบนหรือด้านล่างผืนน้ำ และอุณหภูมิร่างกายของมันที่สามารถคงที่ได้ แม้อุณหภูมิของน้ำจะเปลี่ยนไปก็ตาม (ซึ่งปกติแล้วสัตว์น้ำค่อนข้างมีอุณหภูมิร่างกายที่แปรผันไปตามสภาพแวดล้อม อาจเป็นเพราะว่าบางส่วนของทูน่าเป็นสัตว์เลือดอุ่น) ภาพโดย Milada Vigerova จาก Pixabay ความจริงเกี่ยวกับทูน่า - ทูน่าที่ยังไม่เปิดกระป๋องสามารถอยู่ได้ถึง 4 ปี ในขณะที่ทูน่าที่ห่อเป็นแพคจะมีอายุสั้นกว่า คือ 3 ปี - ทูน่าเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยจะรับประทานปลาที่เล็กกว่าเป็นอาหาร - ทูน่ามักจะเป็นอาหารทะเลที่ได้รับความนิยม โดยเคยได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 2 รองจากกุ้ง ในสหรัฐอเมริกา - คราวแรกนั้นวันทูน่าได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2011 และได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยทาง UN เมื่อปี 2017 สารปรอทกับการบริโภคทูน่า ทูน่าคือสัตว์ทะเลที่บริโภคกันอย่างแพร่หลายในโลก ดังนั้นแล้วเรื่องของสารอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ทูน่าจัดเป็นสัตว์ทะเลที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ทั้งโปรตีน โอเมก้า 3 และวิตามิน รวมไปถึงสารปรอท ภาพโดย Eak K. จาก Pixabay ปรอทคืออะไร?แล้วอันตรายไหม ? ปรอทคือโลหะหนักชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท มันสามารถทำลายการทำงานของสมองได้ ทั้งหน่วยสั่งการและหน่วยความจำ โดยจากผลการวิจัยระบุว่าการบริโภคสารปรอทเกินขนาดนั้นจะส่งผลต่อการประมวลผลของสมอง ทั้งในด้านความคิดเชิงตรรกะ หรืออารมณ์จากสภาพแวดล้อม เป็นที่น่าสนใจว่าในทูน่านั้นมีสารปรอทได้อย่างไร คำตอบคือ สารปรอทที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะการระเบิดของภูเขาไฟ การปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน การทำอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะมีการปล่อยสารปรอทลงสู่น้ำทะเลโดยตรงแล้ว ทูน่ายังจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ ที่อาจจะกินปลาตัวเล็กที่ปนเปื้อนสารดังกล่าวอยู่แล้วก็ได้ แม้ว่าทูน่าจะเป็นปลาที่อร่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจจนเกินไป ควรบริโภคอาหารแต่ละประเภทให้พอดี ที่สำคัญอย่าลืมหมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยนะจ้ะ