15 ผลไม้มีเมล็ดเยอะ ความอร่อยไม่น้อย มีอะไรบ้าง | บทความโดย Pchalisa ใครว่าผลไม้เมล็ดเยอะจะไม่อร่อย? ที่หลายคนอาจมองข้ามผลไม้กลุ่มนี้ไป เพราะคิดว่าเนื้อน้อยและกินยาก แต่ความจริงแล้วธรรมชาติได้สร้างสรรค์ผลไม้เมล็ดเยอะที่มีรสชาติอร่อยๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหวาน หอม เปรี้ยวหรือมัน ก็มีให้เลือกทานตามความชอบหลายชนิดค่ะ โดยในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ โลกของผลไม้เมล็ดเยอะกันค่ะ โดยผู้เขียนมีมานำเสนอมากถึง 15 ชนิด ที่จะทำให้คุณผู้อ่านเปลี่ยนความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับผลไม้กลุ่มนี้ไปเลยนะคะ น่าสนใจแล้วใช่ไหมค่ะ? งั้นอ่านต่อให้จบกันเลยดีกว่าว่ามีผลไม้อะไรกันบ้าง ดังนี้ค่ะ 1. แก้วมังกร แก้วมังกรจะมีรสชาติหวานนำค่ะ แต่บางพันธุ์อาจมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย หรือหวานกลมกล่อมก็ได้ค่ะ เนื้อแก้วมังกรจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ฉ่ำน้ำ และมีเมล็ดสีดำเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป โดยเนื้อแก้วมังกรมีหลายสี เช่น สีขาว สีแดง สีชมพู โดยแต่ละสีจะมีรสชาติแตกต่างกัน ที่บางพันธุ์ของแก้วมังกรจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายลิ้นจี่ค่ะ เมล็ดแก้วมังกรมีขนาดเล็กมาก มีรูปร่างกลมรีคล้ายเมล็ดแตงโม แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก เมื่อยังอ่อนเมล็ดจะมีสีขาวนวล แต่เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ เปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็ง 2. สตรอว์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวค่ะ บางพันธุ์อาจมีรสหวานจัด บางพันธุ์อาจมีรสเปรี้ยวชัดเจน หรือบางพันธุ์อาจมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมก็ได้ค่ะ นอกจากรสชาติหวานอมเปรี้ยวแล้ว สตรอว์เบอร์รี่ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วยค่ะ เมล็ดสตรอว์เบอร์รี่ที่เราเห็นนั้น ไม่ได้เป็นเมล็ดจริงๆ ค่ะ แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า อะคีน (Achene) ซึ่งเป็นผลแห้งชนิดหนึ่งที่มีเมล็ดอยู่ภายใน ที่เรียกว่าอะคีน? เพราะสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลรวม ส่วนที่เราทานนั้นไม่ได้เกิดจากรังไข่เพียงหนึ่งเดียว แต่เกิดจากรังไข่หลายรังไข่รวมตัวกัน จึงทำให้มีจุดเล็กๆ คล้ายเมล็ดกระจายอยู่ทั่วผล อะคีนคือผล แต่ละจุดเล็กๆ นั้นคือผลหนึ่งผล มีเมล็ดอยู่ข้างในเพียงเมล็ดเดียวค่ะ ลักษณะของอะคีนมีขนาดเล็กมาก มีขนาดประมาณหัวเข็มหมุด เมื่อผลสตรอว์เบอร์รี่สุก อะคีนจะมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาลนะคะ อะคีนมีรูปร่างค่อนข้างกลม 3. ฝรั่ง โดยทั่วไปแล้วฝรั่งจะมีรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานค่ะ บางพันธุ์อาจมีรสเปรี้ยวเป็นหลัก บางพันธุ์อาจมีรสหวานนำ หรือบางพันธุ์อาจมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวก็ได้ค่ะ เนื้อฝรั่งจะมีเนื้อสัมผัสที่กรอบและมีเมล็ดอยู่ภายใน เปลือกฝรั่งมักจะมีสีเขียว แต่เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีเหลืองอมเขียว ฝรั่งบางพันธุ์จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ค่ะ เมล็ดฝรั่งมีขนาดเล็กมาก สีเหลืองอ่อน หรือน้ำตาลอ่อน มีรูปร่างกลมมน จำนวนเมล็ดฝรั่งในแต่ละผลจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของฝรั่ง เมล็ดฝรั่งซ่อนตัวอยู่ภายในเนื้อฝรั่ง โดยทั่วไปไม่แนะนำให้กินเมล็ดฝรั่งนะคะ เพราะเปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็ง 4. มังคุด มังคุดจะมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว หอมชื่นใจค่ะ บางพันธุ์อาจมีรสหวานจัด บางพันธุ์อาจมีรสเปรี้ยวชัดเจน หรือบางพันธุ์อาจมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มังคุดที่ปลูกในฤดูที่เหมาะสม มักจะมีรสชาติหวานฉ่ำ เมล็ดมังคุดนั้นมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะตัวค่ะ โดยทั่วไปเมล็ดมังคุดจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีรูปร่างกลมรี เมล็ดมังคุดจะมีสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำ เมื่อสุกเต็มที่ เปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็ง เนื่องจากเปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็ง และรสชาติไม่น่าทาน ทำให้ไม่นิยมกลืนเข้าไปค่ะ 5. มะขามหวาน รสชาติของมะขามหวาน นั้นแตกต่างจากมะขามเปรี้ยวทั่วไปอย่างชัดเจนค่ะ มะขามหวานจะมีรสชาติที่ หวานอมเปรี้ยว หรือ หวานสนิท เลยก็มีค่ะ บางพันธุ์อาจมีรสชาติหวานหอมคล้ายน้ำผึ้งเลยก็ได้ค่ะ เนื้อมะขามหวานมักจะมีเนื้อที่หนาและนุ่มกว่ามะขามเปรี้ยว มะขามหวานที่เก็บเกี่ยวในช่วงที่สุกกำลังดีจะมีรสชาติอร่อยที่สุด เมล็ดมะขามหวานนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดของเนื้อมะขามหวาน มีรูปร่างยาวรีคล้ายเมล็ดถั่ว เมื่อยังอ่อนจะมีสีขาวนวล เมื่อแก่จัดจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม เปลือกแข็ง มีเนื้อในที่แข็งและเหนียว เนื่องจากเปลือกแข็งและเนื้อในแข็งเหนียว ทำให้ไม่นิยมนำมาทานค่ะ 6. มะไฟ รสชาติของมะไฟ นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยค่ะ มะไฟจะมีรสชาติที่ หวานอมเปรี้ยว ค่ะ รสชาติจะออกเปรี้ยวสดชื่น แต่ก็มีความหวานตามมา ทำให้ทานแล้วรู้สึกสดชื่นและอร่อยค่ะ บางพันธุ์อาจจะมีรสหวานมากกว่าเปรี้ยว หรือบางพันธุ์ก็อาจจะมีรสเปรี้ยวจัดกว่าก็ได้ค่ะ มะไฟที่สุกกำลังดีจะมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวอร่อยที่สุด มะไฟที่สุกจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมล็ดมะไฟมีลักษณะเด่นที่ค่อนข้างเฉพาะตัวค่ะ มีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับขนาดของผล มีรูปร่างแบนรีคล้ายเมล็ดถั่ว เมื่อยังอ่อนจะมีสีขาวนวล เมื่อแก่จัดจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม เปลือกแข็ง มีเนื้อในที่แข็งและเหนียว เนื่องจากเปลือกแข็งและเนื้อในแข็งเหนียว ทำให้ไม่นิยมกลืนกินเข้าไปค่ะ 7. เสาวรส รสชาติของเสาวรส นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หลายคนชื่นชอบค่ะ รสชาติของเสาวรสจะออก เปรี้ยวอมหวาน ค่ะ โดยความเปรี้ยวจะโดดเด่นกว่าความหวานเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า แต่ก็มีความหวานตามมาเบาๆ ช่วยให้รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป เสาวรสที่สุกจะมีสีเหลืองอมส้ม เปลือกเรียบ และก้านผลสด เมล็ดเสาวรสแต่ละเมล็ดจะถูกห่อหุ้มด้วยเยื่อหุ้มเมล็ดที่มีลักษณะเหนียวข้น สีเหลืองหรือสีส้ม ซึ่งส่วนนี้เองที่ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของเสาวรส เมล็ดเสาวรสจะถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผลสีเหลืองนุ่ม ทำให้เราไม่ค่อยสังเกตเห็นเมล็ด โดยทั่วไปเราจะทานเมล็ดรวมไปด้วย 8. กีวี รสชาติของกีวี นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หลายคนชื่นชอบค่ะ กีวีจะมีรสชาติที่ หวานอมเปรี้ยว ค่ะ โดยความเปรี้ยวจะโดดเด่นกว่าความหวานเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า แต่ก็มีความหวานตามมาเบาๆ ช่วยให้รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป กีวีที่สุกจะนุ่มเมื่อกดเบาๆ เมล็ดกีวี มีลักษณะเด่นคือ ขนาดเล็ก สีดำ และจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเนื้อผล เมล็ดกีวีที่เราทานนั้นส่วนใหญ่จะไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้ เนื่องจากผ่านการปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว เมล็ดกีวีเป็นส่วนหนึ่งของผลกีวี ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กและแข็ง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กีวีมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ 9. มะขามเทศ รสชาติของมะขามเทศหวาน นั้นขึ้นชื่อเรื่องความหวานฉ่ำ หวานกรอบ และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ บางพันธุ์อาจจะมีรสหวานมัน หรือบางพันธุ์ก็อาจจะมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และความสุกของผล เมล็ดมะขามเทศหวานมีลักษณะเด่นคือ ขนาดเล็ก เมื่อแก่มีสีดำ มักถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผล แม้ว่าจะไม่ทาน แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มะขามเทศมีเมล็ดและขยายพันธุ์ได้ต่อไปค่ะ 10. มะเฟือง รสชาติของมะเฟือง นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หลายคนชื่นชอบค่ะ รสชาติของมะเฟืองจะออก เปรี้ยวอมหวาน ค่ะ โดยความเปรี้ยวจะโดดเด่นกว่าความหวานเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า แต่ก็มีความหวานตามมาเบาๆ ช่วยให้รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป สภาพดินฟ้าอากาศและปริมาณน้ำฝนก็มีผลต่อรสชาติของมะเฟืองได้เช่นกันค่ะ เมล็ดมะเฟืองมีลักษณะเด่นที่ค่อนข้างเฉพาะตัวค่ะ โดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของผลมะเฟือง มีรูปร่างแบนรีหรือรูปไข่ สีน้ำตาลเข้ม เปลือกแข็ง มีเนื้อในที่แข็งและเหนียว เมล็ดมะเฟืองจะถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผลสีเหลือง ทำให้เราไม่ค่อยสังเกตเห็นเมล็ด โดยทั่วไปเราจะทานมะเฟืองทั้งผล ซึ่งรวมถึงเมล็ดด้วยค่ะ 11. แตงโม รสชาติของแตงโมนั้นขึ้นชื่อเรื่องความหวานฉ่ำ หวานกรอบ และให้ความรู้สึกสดชื่นคลายร้อนเป็นอย่างมากค่ะ แตงโมแต่ละพันธุ์ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันไปเล็กน้อยนะคะ บางพันธุ์อาจจะหวานจัด เมล็ดของแตงโมจะอยู่ ตรงกลางผลของแตงโม ค่ะ ลองนึกภาพว่าแตงโมเป็นลูกบอล ถ้าเราผ่าแตงโมออกครึ่งลูก เราจะเห็นเมล็ดแตงโมเรียงรายกันอยู่ตรงกลางเลยค่ะ ลักษณะของเมล็ดแตงโมส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม รูปร่างรีๆ ยาวๆ คล้ายเมล็ดถั่ว ขนาดมีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เมล็ดแตงโมทานได้ค่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วเราจะไม่นิยมทานเมล็ดแตงโมโดยตรง เพราะเปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็งและอาจทำให้รู้สึกขัดคอได้ 12. ทับทิม รสชาติของทับทิมนั้นขึ้นชื่อเรื่องความหวานอมเปรี้ยวซ่าๆ ค่ะ ที่เนื้อด้านในของเมล็ดทับทิมจะมีความฉ่ำและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลายคนชื่นชอบ ทับทิมที่สุกงอมจะมีรสชาติหวานฉ่ำกว่าทับทิมที่ยังไม่สุกค่ะ การเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธีสามารถส่งผลต่อรสชาติได้นะคะ ทับทิมให้ความรู้สึกสดชื่นคลายร้อน ทับทิมที่น้ำหนักดีมักจะมีเนื้อเยอะ เมล็ดทับทิมมีลักษณะเด่นๆ ดังนี้ค่ะ มีรูปร่างหลายเหลี่ยมคล้ายลูกบาศก์เล็กๆ หรือรูปทรงไม่แน่นอน มีขนาดเล็กพอสมควร เมื่อยังอ่อนจะมีสีขาวอมชมพู แต่เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงเข้มสวยงาม มีเนื้อหุ้มเมล็ดที่ฉ่ำด้วยน้ำหวาน มีรสหวานอมเปรี้ยว และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมล็ดทับทิมจะเรียงตัวกันอยู่ภายในผล โดยแบ่งเป็นช่องๆ ภายในผล ส่วนที่เราทานคือเนื้อที่หุ้มเมล็ดนะคะ ซึ่งมีรสชาติหวานฉ่ำ ส่วนเมล็ดด้านในมักจะแข็งและเรามักไม่ทานค่ะ นอกจากการทานสดๆ แล้ว เมล็ดทับทิมยังสามารถนำไปทำเป็นน้ำทับทิม สลัดผลไม้ หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ได้อีกมากมายค่ะ 13. แคนตาลูป รสชาติของแคนตาลูป นั้นขึ้นชื่อเรื่องความหวานฉ่ำ หอมอ่อนๆ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ เนื้อของแคนตาลูปจะมีความนุ่มละลายในปาก และให้ความรู้สึกสดชื่นคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แคนตาลูปที่สุกจะรู้สึกนิ่มเล็กน้อยเมื่อกดเบาๆ เมล็ดของแคนตาลูปจะอยู่ ตรงกลางผลของแคนตาลูปค่ะ ลักษณะของเมล็ดแคนตาลูปส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว หรือสีเหลืองอ่อน มีรูปร่างรีๆ ยาวๆ คล้ายเมล็ดแตงโม แต่จะมีขนาดเล็กกว่า มีขนาดเล็กมาก เมล็ดแคนตาลูปบางชนิดสามารถทานได้ แต่โดยทั่วไปแล้วเราจะไม่นิยมทานเมล็ดแคนตาลูปโดยตรง เพราะเปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็งและอาจทำให้รู้สึกขัดคอได้ เมล็ดแคนตาลูปสามารถนำมาเพาะปลูกเพื่อให้ได้ต้นแคนตาลูปและผลแคนตาลูปใหม่ๆ ค่ะ 14. น้อยหน่า รสชาติของน้อยหน่า นั้นขึ้นชื่อเรื่องความหวานละมุนลิ้น หอมกลิ่นหญ้า หวานมันคล้ายครีมคัสตาร์ดเลยค่ะ เนื้อในของน้อยหน่าจะมีความนุ่มละเอียดละลายในปาก และให้ความรู้สึกสดชื่น น้อยหน่าแต่ละพันธุ์ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปค่ะ บางคนชอบน้อยหน่าเนื้อละเอียด หวานมัน บางคนชอบน้อยหน่าเนื้อหยาบ เมล็ดของน้อยหน่าจะซ่อนอยู่ ภายในเนื้อของผลน้อยหน่า ค่ะ เมื่อเราแกะน้อยหน่าออก จะเห็นเมล็ดสีดำเล็กๆ เรียงรายอยู่ทั่วไปในเนื้อผลเลยค่ะ เมล็ดเหล่านี้มักจะมีลักษณะแข็งและเรียบ ในเมล็ดน้อยหน่ามีสารอนโนเนน ซึ่งเป็นสารพิษ จึงไม่ควรทานเมล็ดค่ะ ซึ่งพันธุ์น้อยหน่าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ น้อยหน่าฝ้ายเขียว: มีเนื้อสีขาว หยาบเป็นทราย รสหวาน น้อยหน่าฝ้ายครั่ง: มีเนื้อสีขาวอมชมพู รสหวาน น้อยหน่าหนัง: มีเนื้อละเอียด รสหวานมัน น้อยหน่าเพชรปากช่อง: มีเนื้อละเอียด รสหวานหอม 15. ส้มเขียวหวาน ส้มเขียวหวานมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ คือ หวานอมเปรี้ยว รสชาติจะไม่หวานจัดจนเลี่ยน หรือเปรี้ยวจนเกินไป แต่จะมีความกลมกล่อมลงตัว ทำให้รู้สึกสดชื่นเวลาทานค่ะ นอกจากนี้ ส้มเขียวหวานยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนรับประทานอีกด้วย ส้มเขียวหวานสุกจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมล็ดของส้มเขียวหวานนั้นอยู่ภายในกลีบของส้มค่ะ เมื่อเราแกะส้มออกจะเห็นเมล็ดสีขาวเล็กๆ อยู่ข้างใน โดยจำนวนเมล็ดอาจมีตั้งแต่ 1-12 เมล็ดต่อผล ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของส้มเขียวหวานนั้นๆ ลักษณะของเมล็ดส้มเขียวหวานส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว รูปร่างคล้ายไข่ มีขนาดเล็ก เมล็ดส้มเขียวหวานโดยทั่วไปไม่นิยมทาน เนื่องจากมีรสชาติขมและเปลือกแข็ง อาจทำให้รู้สึกขัดคอได้ค่ะ และนั่นคือผลไม้ที่มีเมล็ดเยอะค่ะ โดยทุกชนิดที่ได้พูดถึงมานั้น ผู้เขียนมีโอกาสได้ทานหมดแล้วค่ะ ในกรณีที่สามารถทานเมล็ดได้ผู้เขียนก็ไม่หลีกเลี่ยงค่ะ โดยทั้ง 15 ชนิดนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งเรื่องของเมล็ด รสชาติและรูปร่างหน้าตาของผลค่ะ ซึ่งส่วนมากผู้เขียนจะทานผลไม้บางอย่างที่ไม่สุกมาก เช่น น้อยหน้ากับฝรั่ง เพราะพบว่าน้อยหน้าสุกงามหวานเกินไปค่ะ กับฝรั่งที่สุกงอมเนื้อค่อนข้างเละ จึงไม่ชอบมากนักค่ะ แต่ถ้าผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี่ ส้มเขียวหวาน กีวี เสาวรส มังคุด ผลไม้นี้ผู้เขียนค่อนข้างชอบค่ะ สำหรับมะขามเทศนั้นหวานและมันนี่ก็ชอบเหมือนกันและซื้อทนทุกปีค่ะ แถมบางทีไปหาสอยตามต้นข้างทางมาทานด้วยซ้ำไปค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองไปหาผลไม้ในบทความนี้มาทานกันค่ะ เพราะถึงแม้จะมีเมล็ดเยอะ แต่รสชาติของลไม้ในนี้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ โดยผลไม้ชนิดไหนทานเล็ดได้หรือไม่นั้น ผู้เขียนก็ได้บอกต่อไว้หมดแล้ว ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Any Lane จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/nkDRw8opwLNz https://food.trueid.net/detail/54AYVpWpjKQ4 https://food.trueid.net/detail/KQabkWMymqqR เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !