อยากทำแต่ไม่อยากกิน Chef's Table สุดกวน อารมณ์ดี จากเชฟบิ๊ก บางคอแหลม กรุงเทพมหานครเมื่อความอยากจะทำ แต่ไม่อยากกินของเชฟหนึ่งคน กับ ความอยากจะกินแต่ทำไม่เป็น ของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเมนูอาหารฝรั่งเศส ที่ได้ขึ้นชื่อว่าขั้นตอนเยอะ ซับซ้อน แถมยังต้องมาจัดจานให้สวยๆ อีก เพิ่มความลึกลับเข้าไปอีกกับการเปิดร้านอาหาร ในโรงพิมพ์เอกสาร เข้าไปอีก ยิ่งทำให้ร้านนี้ เป็นร้านที่ใครหลายๆ คนอยากจะมาลองให้ได้ วันนี้ เราจะพามารู้จักกับร้าน #อยากทำแต่ไม่อยากกิน โดยเชฟบิ๊ก หนึ่งใน ร้าน Fine Dining คิวยาวที่สุด แต่ คุ้มที่จะรอBeef Wellington Signatureแรงบันดาลใจร้านนี้ เกิดมาจากตอนช่วงโควิทใหม่ๆ ที่เชฟบิ๊กอยากจะเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถเปิดร้านได้ แถมต้องการจะพิสูจน์ให้พ่อของเชฟเอง เห็นว่า อาชีพทำอาหารนั้น ก็สามารถสร้างรายได้เหมือนกับอาชีพอื่นๆ จึงเปิดในรูปแบบ Delivery เพื่อลองตลาดก่อน กับเมนูในตำนาน อย่างสปาเกตตี้โคตรปู ซึ่งกระแสก็มาเรื่อยๆ จนสามารถเปิดร้าน Fine Dining เล็กๆ ที่รับวันนึงไม่เกิน 20 ท่านได้เป็นผลสำเร็จจวบจนมาถึงปัจจุบันDry Aged ปลาทำเองของทางร้านสำหรับราคาสุทธิของ 1 มื้อนั้น จะอยู่ที่ 2788++ บาท ต่อคน ไม่รวมเครื่องดื่มและไวน์หากทานเพิ่ม (ณ ปี 2022) ซึ่งจะต้องสำรองที่นั่งผ่าน Line Shopping ของทางร้านตามวันและเวลาที่สะดวก จากนั้นชำระเงินค่ามัดจำ 50% และรอคอนเฟิม จากนั้นก็เตรียมไปทานที่ร้านได้เลย ปัจจุบันจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ดังนั้นเคลียคิวดีๆ ก่อนจองหากจะไปกันหลายคนตกแต่งอาหารกันอย่างขะมักเขม้นการเดินทางมาร้านนั้น จะเป็นรถยนต์ส่วนตัวก็ดี หรือแท็กซี่ก็ดีเช่นกัน ถ้ารถยนต์ส่วนตัวสามารถขับมาจอดที่หน้าร้านที่เป็นโรงพิมพ์ มีที่จอดประมาณ 4 คันถ้วน หากเต็ม ก็ไปจอดที่ลานจอดรถเอกชน P2 อยู่ห่างจากร้านไป 500 เมตร ชั่วโมงละ 50 บาท ดังนั้นแท็กซี่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าก็ได้หากไม่อยากเสียเวลาหาที่จอดรถ และควรจะมาถึงร้านก่อนเวลาประมาณ 5 นาทีเตรียมเสิร์ฟจานแรกแล้วนะเมนูอาหารของเชฟจะมีอยู่ด้วยกัน 6 คอร์ส ประกอบไปด้วยของคาว 5 จานและ 1 ขนมหวาน โดยเมนูจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไรนอกจากวัตถุดิบกับรูปแบบการจัดจาน หากแพ้หรือทานวัตถุดิบใดไม่ได้ ทางเชฟจะเปลี่ยนให้ทันทีTuna Spring Roll with yuzuเริ่มต้นจานแรกกับเมนู Tuna Spring Roll with yuzu เป็น abuse muse เบาๆ ที่ประกอบไปด้วย Blue Fin Tuna ที่ผ่านการ Dry Aged ถึง 7 วัน เลือกเสิร์ฟเฉพาะส่วนชูโทโร่ที่มันไม่เยอะแต่มีความเข้มข้นสูง มาเป็นแบบซาชิมิ และแบบสับยัดไส้ในตัวปอเปี๊ยะอีกที ตกแต่งด้วยซอสยูซุ 2 สี สีเทา และสีเหลือง มะเขือเผา อิคุระ และไอศกรีมซอลเบยูซุ เวลาทาน จะทานแยกกันก็ได้ หรือจะทานแบบรวมกันก็ได้ รสชาติจะเน้นชูรสชาติของวัตถุดิบเป็นหลัก ตัวเนื้อสัตว์มีความนุ่มละมุนละลายในปาก เติมความกรอบด้วยแป้งปอเปี๊ยะกรอบๆ โดยได้ตัวยูซุ ไม่ว่าจะเป็นซอส หรือไอศกรีมเอง มาช่วยทำให้รสชาติวัตถุดิบชัดเจนมากขึ้นFoie Gras on toast with cherry sauceจานที่สอง เป็นเมนูในตำนานที่อาจจะหนักไปหน่อย กับ Foie Gras on toast with cherry sauce ฟัวร์กราส์ชิ้นโตคัดพิเศษจากฟาร์มในฝรั่งเศส เซียร์ให้กรอบนอก นุ่มละมุนใน ทานคู่กับซอสเชอร์รี่และบีตรูทที่นำไป port ใน red wine รองตัวฟัวร์กราส์ด้วยขนมปังหรือ Toast ที่ทอดทั้ง 2 ด้านให้เกรียมนิดๆ มีมัสตาร์ดให้ทานตัดเลี่ยนนิดๆ เวลาทานให้ทานพร้อมกันจะอร่อยที่สุด รสชาติมีความหอมมันจากตัวฟัวร์กราส์ ได้ความเปรี้ยวและหวานจากซอสมาตัด ทำให้ทานได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกเลี่ยน มีความกรอบจากการทอดทั้งตัวฟัวร์กราส์เอง Toast และ Tulie ทำให้จานนี้อร่อยสมบูรณ์แบบในตัวHotate Bisqueต่อกันด้วยเมนูซุปหอยโฮตาเตะ หรือ Hotate Bisque ตัวซุปจะเป็นซุปครีมเห็ด แล้วนำแป้งพายมาคลุมหม้อซุปให้แน่นสนิท จากนั้นนำเข้าเตาอบจนแป้งพองเป็นลูกบอล และสุดท้ายเซียร์หอยให้สุกกำลังดี และแปะลงไปบนแป้งพาย เวลาทานให้โกยแป้งพายและหอย กดลงไปในซุปก็ได้ หรือจะตักซุปทานกับแป้งพายกรอบๆ ก็ได้เช่นกัน จานนี้เชฟแนะนำว่าอย่าทานหมดเพราะทำให้อิ่มเร็วHotate Bisque รสชาติหอยเข้มข้นรสชาติมีความเข้มข้น หวานหอม ไม่เค็ม พอหอยใส่ลงไปในซุป ตัวซุปจะมีความทะเลออกมาชัดเจนมากขึ้น แป้งกรอบอร่อย หรือจะทานพร้อมซุปก็อร่อยเหมือนกัน และอีกวัตถุดิบลับคือ แก่นตะวัน ที่ให้ Texture เหมือนมันแกว แต่ให้ความกรอบฟูๆ ในปาก ก็อยู่ในซุปเช่นกันแก่นตะวัน เคล็ดลับความอร่อยของ Hotate BisqueMorel pasta with Tiger Prawnมาถึงจานที่สี่ กับเมนู Morel pasta with Tiger Prawn หากไม่ทานกุ้ง เชฟจะเสิร์ฟเป็น Japanese Seabass ที่ผ่านการดรายเอจแทนซึ่งถือว่าคุ้มค่าเช่นกัน ตัวพาสต้าจะใช้เส้นที่มีชื่อว่า Crozets de Savoie เป็นแป้งที่ทำจากบัควีทหรือข้าวสาลี มาปั้นเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆ มีความหนึบหนับคล้ายๆ ริซอสโต้ แต่จะไม่มีความกรุบๆ นำไปผัดกับเห็ดมอเรล เห็ดที่ราคาแพงไม่แพ้ทรัฟเฟิล มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นน้อยกว่าและละมุนกว่า เสิร์ฟคู่กับกุ้งลายเสือที่ผ่านการเบิร์นและเข้าเตาอบจนสุก ตกแต่งด้วยซอสสีเขียว และถั่วฝักยาวต้มสุกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มี Tulie เพิ่มความกรุบกรอบTiger Prawn กุ้งลายเสือเผาร้อนๆMorel pasta with Japanese Seabassรสชาติมีความเค็มและหอมจากเห็ดนำ ให้ความรู้สึกเหมือนทรัฟเฟิลที่กลิ่นเบากว่า เส้นหนึบทานได้เพลินๆ เนื้อสัตว์อย่างกุ้งเองก็ทำออกมาได้ดี ทานง่าย หรือถ้าทานเป็น Seabass เนื้อจะเฟิร์ม แน่น มีความฉ่ำกำลังดี ส่วนซอสมาตัดเลี่ยนทำให้ทานจานนี้ได้เรื่อยๆFilet de beouf en croute หรือ Beef Wellingtonและแล้ว ก็มาถึงจานหลักซิกเนเจอร์ที่ไม่ค่อยเจอร้านไหนเสิร์ฟ กับ Filet de beouf en croute หรือ Beef Wellington เมนูสันในวัวคัดพิเศษห่อด้วยผักโขมผัดซอสและยัดเข้าไปในแป้งพายอีกที จากนั้นทิ้งไว้ให้เซ็ตตัว ทาเนยให้ชุ่มฉ่ำ ก่อนนำไปอบ และนำมาพัก ก่อนที่จะเสิร์ฟจะอุ่นครั้งสุดท้าย และหั่นเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟคู่กับ Mash Potato มันบดมิชลินสองดาว และมัสตาร์ดซอสที่ทาด้วยแม่พิมพ์ชื่อร้าน แต่ถ้าเป็นวันเกิด ทางร้านก็จะเขียน Happy Birthday แล้วปักเทียนให้ด้วย ราดปิดท้ายด้วย Red wine sauceFilet de beouf en croute: Happy Birthdayเนื้ออบแบบ Medium Rare มีความนุ่มนิ่ม เคี้ยวง่ายไม่เหนียวเลย ทานกับผักโขมที่รสชาติเค็มนิดๆ ตัดกับแป้งพายกรอบๆ มีมัสตาร์ดไว้ทานตัดเลี่ยนตัวเนื้อได้เป็นอย่างดี และทีเด็ดสุดคือมันบดที่ละลายในปาก หอมเนยและครีมที่ผสมลงไปสุดๆ เป็นการปิดจานหลักที่ perfect มากๆVanilla & Strawberry Pie with Strawberry Ice Creamและสุดท้ายกับเมนูของหวาน เสิร์ฟเป็น Vanilla & Strawberry Pie with Strawberry Ice Cream ของหวานหน้าตาดูเบาๆ รสชาติหนักหน่วง ด้วยความหอมของวานิลลา ความกรอบของแป้งพาย ความเปรี้ยวจากสตรอเบอร์รี่ และความหวานอมเปรี้ยวจากไอศกรีม ช่วยล้างปากและปิดมื้ออาหารนี้ ได้เป็นอย่างดีBeef Wellington: Signature ตลอดกาลของร้านนี้สำหรับตัวผู้เขียนเอง เคยทานร้านนี้มารอบนึงแล้วตั้งแต่สมัยที่ร้านนี้ยังไม่ดังและเพิ่งเปิด Chef Table ได้ไม่นาน รสชาติในตอนนั้นจะมีความเค็มจัดตามสไตล์อาหารฝรั่งเศสแท้ๆ แต่รอบนี้มีการปรับให้รสชาติเบาขึ้น ด้วย Feedback จากลูกค้าทุกคนที่มาทานที่ร้านนี้นั่นเอง เป็นอีก 1 คอร์สอาหารที่ไม่ได้เว่อวัง กรรมวิธีไม่ซับซ้อน หรือการตกแต่งที่อลังการเหมือนร้านอื่นๆ แต่ให้รสชาติอาหารที่อร่อย ถูกปาก และไม่รู้สึกหนักจนเกินไป ถือว่าคุ้มแล้วแหละ สำหรับราคา 2788++ ในวันนี้ สมกับคอนเซปร้าน Classic never dieClassic never dieสำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้แล้ว หากไปทานมาแล้วก็สามารถมา Comment ที่ด้านล่างรีวิวนี้ได้ หรือหากเจอร้านที่คิดว่าเด็ดกว่าก็มาบอกเล่ากันได้ กดแชร์แบ่งปันความอร่อยให้กับเพื่อนๆ และอย่าลืมกดติดตามผู้เขียนเพื่อไม่ให้พลาดรีวิวร้านอาหารใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทางเพจได้รีวิวอาหารต่อๆ ไปอยากทำแต่ไม่อยากกิน By Chef Bigที่ตั้ง: 3769/122-124 ซอยเจริญราษฎร์ 7 แยก 7-6-1 เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานครเวลาเปิดปิด: 10:00 – 21:00 น. (จองและจ่ายมัดจำล่วงหน้าผ่าน Line เท่านั้น)ที่จอดรถ: บริเวณร้าน 4 คัน และที่จอดรถเอกชน P2 (611 ซอยวีรภาพพูลผล)เบอร์โทรศัพท์: 0813987082พิกัดความอร่อย: #ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด#รูปใดๆที่มีติดภาพบุคคลอื่นผู้เขียนได้ขออนุญาตทั้งหมดแล้ว#FineDining #อาหารฝรั่งเศส #เชฟบิ๊ก #อยากทำแต่ไม่อยากกิน #workshop*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565