ทริคเลือกบลูเบอร์รี่ รสหวานอมเปรี้ยว อร่อยและสดใหม่ | บทความโดย Pchalisa บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ผู้เขียนได้ทานบ้างค่ะ โดยเฉพาะเวลาได้มีโอกาสไปซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมือง และตอนไปเจอว่ามีบลูเบอร์รี่ลดราคาค่ะ ซึ่งการซื้อบลูเบอร์รี่นั้นยังมีความจำเป็นต้องเลือกค่ะ และในบทความนี้เราจะมารู้เกี่ยวกับเคล็ดลับเลือกบลูเบอร์รี่กันค่ะ ที่สามารถนำไปใช้ได้ง่ายตอนไปยืนอยู่ต่อหน้าบลูเบอร์รี่ค่ะ ดังนี้ 1. ดูสี คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? บลูเบอร์รี่ที่สุกเต็มที่มักจะมีสีม่วงเข้มหรือดำสนิทนะคะ หากมีสีเขียวหรือแดงปนอยู่แสดงว่ายังไม่สุกดีจ้า 2. สัมผัสความแน่น ถ้ามีโอกาสได้จับดูลูกบลูเบอร์รี่ให้ทำค่ะ เพราะบลูเบอร์รี่ที่ดีต้องมีความแน่นแต่ไม่แข็งจนเกินไป ในทางตรงกันข้ามหากนิ่มเกินไปแบบนี้ก็จะเน่าเสียได้ง่ายค่ะ 3. สังเกตมงกุฎ หลายคนยังไม่รู้ว่า มงกุฎของบลูเบอร์รี่ เป็นคำที่ใช้เรียกส่วนที่อยู่ด้านบนของผลบลูเบอร์รี่ค่ะ ซึ่งส่วนนี้จะประกอบด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียวที่หุ้มผลไว้ ที่โดยปกติแล้วนั้น มงกุฎของบลูเบอร์รี่ที่มีคุณภาพดีจะมีลักษณะดังนี้นะคะ มงกุฎควรดูสด ไม่เหี่ยวเฉาหรือดูเหมือนถูกบีบอัดค่ะ ไม่ช้ำ: มงกุฎไม่ควรมีรอยช้ำหรือรอยแตกนะคะ ต้องมีสีเขียว: เพราะสีเขียวของกลีบเลี้ยงบ่งบอกถึงความสดใหม่ของผลบลูเบอร์รี่ 4. ตรวจสอบผิว รู้ไหมคะว่า? ผิวของบลูเบอร์รี่ที่ดีและน่าซื้อ บลูเบอร์รี่ลูกนั้นควรเรียบเนียน ไม่มีรอยขีดข่วน รอยบุบหรือรอยด่างค่ะ 5. ดมกลิ่น หากสามารถดมกลิ่นของบลูเบอร์รี่ที่เราต้องการซื้อได้ให้ลองทำค่ะ เพราะบลูเบอร์รี่สดมักจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ และบลูเบอร์รี่แบบนี้รสชาติจะอร่อยค่ะ 6. หลีกเลี่ยงบลูเบอร์รี่ที่มีน้ำเยิ้ม การที่เราไปเจอว่าบลูเบอร์รี่มีน้ำเยิ้ม แบบนี้สรุปได้เลยว่าบลูเบอร์รี่ลูกนั้นอาจจะเน่าเสียได้ง่ายค่ะ 7. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อผลไม้ชนิดนี้จากซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าผลไม้สดหรือตลาดที่มีความน่าเชื่อถือ แบบนี้เป็นวิธีการที่ทำให้เราได้บลูเบอร์รี่ที่สดใหม่และอร่อยได้ค่ะ 8. หลีกเลี่ยงบลูเบอร์รี่ที่มีสีซีด เพราะบลูเบอร์รี่ที่สีซีดอาจไม่สุกงอม หรืออาจเก็บไว้นานเกินไปค่ะ 9. สังเกตบรรจุภัณฑ์ ควรเลือกบลูเบอร์รี่ที่ใส่มาในบรรจุภัณฑ์ควรสะอาดและไม่ชำรุดค่ะ เพราะถ้าบรรจุภัณฑ์ปิดไม่สนิทหรือสกปรก แบบนี้จะเกิดการปนเปื้อนข้ามจากสิ่งแวดล้อมในตอนนั้นมาที่บลูเบอร์รี่ที่เราเห็นค่ะ 10. อย่าซื้อบลูเบอร์รี่ที่ใส่รวมกับผลไม้อื่น เพราะก๊าซเอทิลีนที่ปล่อยออกมาจากผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิล กล้วย จะทำให้บลูเบอร์รี่สุกเร็วขึ้น และสถานการณ์นี้จะทำให้บลูเบอร์รี่อาจมีการเน่าเสียได้เร็วนะคะ และนั่นคือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จำเพาะเจาะจง สำหรับการนำไปประยุกต์ใช้ตอนเลือกบลูเบอร์รี่ค่ะ ที่ผู้เขียนเองก็ได้นำไปใช้ด้วยเหมือนกัน โดยมักเลือกบลูเบอร์รี่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนอันดับแรก จากนั้นจะดูเรื่องสีของบลูเบอร์รี่และสังเกตดูว่ามีลูกที่มีน้ำเยิ้มออกมาไหมค่ะ ที่มักซื้อบลูเบอร์รี่ที่มาในกล่องแบบที่มีเฉพาะบลูเบอร์รี่มาอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำข้อมูลในนี้ไปใช้ในสถานการณ์จริงกันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/E599nxG7rPb5 https://food.trueid.net/detail/7wqLpXA2y1eR https://food.trueid.net/detail/VyorRBx4z00w เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !