"เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน" คือคำขวัญของจังหวัดนครราชสีมา ที่สะท้อนตัวตนของจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องราวของวีรสตรีหญิง ที่เป็นเสมือนศูนย์รวมความศรัทธาของชาวเมืองโคราช มีของดีเป็นผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมไทย และเครื่องปั้นดินเผาจากด่านเกวียน ซึงคงความเป็นเอกลักษณ์ มีแหล่งโบราณสถานที่ทรงคุณค่าต่อประวัติศาสตร์ และที่ขาดไม่ได้คือ มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่น ของชาวโคราช ซึ่งโด่งดังดังไกลไปในระดับโลก อย่าง "ผัดหมี่โคราช" ซึ่งชาวโคราชจะเรียกกันด้วยภาษาโคราชว่า "ขั่วหมี่" ภายใต้ร่มเงาของต้นมะขามเฒ่าต้นหนึ่ง ในซอยเล็กๆแคบๆหน้าวัดหนองบัวรอง ยังมีร้านอาหารเพิงหลังคาสังกะสีเล็กๆร้านหนึ่ง ประดับตกแต่งไปด้วยเครื่องใช้ไม้สอยของชาวอีสานโบราณ บ่งบอกถึงความเป็นอนุรักษ์นิยม ของชนพื้นเมืองนครราชสีมา เป็นร้านเล็กๆที่มีโต๊ะเพียง 4 โต๊ะเล็กๆเท่านั้นเอง แต่ทว่าเมื่อมองจากปริมาณลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารที่ร้านนี้ในช่วงกลางวัน ซึ่งจะแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าจำนวนมาก ผมยืนรอต่อคิวอยู่พักใหญ่ๆ จึงได้มีโอกาสได้เข้าไปนั่งทรุดตัวลงบนเก้าอี้ไม้ไผ่ บนโต๊ะของร้านเล็กๆบรรยากาศลูกทุ่งสบายๆ ผมสั่งเมนูขึ้นชื่อของที่นั่นคือ "ขั่วหมี่" หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามของ ผัดหมี่โคราช แกล้มด้วยส้มตำปูปลาร้า รสชาติเผ็ดปานกลาง ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความเผ็ดของทุกเมนูได้ ว่าจะต้องการเผ็ดมาก เผ็ดกลาง หรือไม่เผ็ด อีกทั้งร้านนี้ยังมีจุดเด่นคือ การใช้เตาถ่านโบราณในการผัดอีกด้วย เจ้าของร้าน คือป้าอ้อม กุลีกุจอผัดผัดหมี่โคราชสูตรโบราณบนเตาถ่านดั้งเดิมอยู่ไม่นาน ก็ได้เวลายกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ พร้อมกับส้มตำปูปลาร้าที่น้ำปลาร้าค่อนข้างนัว มีถั่วงอกและหัวปลีเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ ว่ากันถึงเรื่องของผัดหมี่โคราชนั้น ต่างจากผัดไทยตรงไหน? ผัดหมี่โคราช จะผัดด้วยเส้นหมี่โคราชแท้ๆ ซึ่งทำมาจากข้าว นำมาบดและรีดเป็นเส้น ตากแห้งไว้ และเมื่อนำมาผัดลงกระทะกับน้ำปรุงผัดหมี่ ที่เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน ต่างกันไป ผัดจนน้ำปรุงนั้นๆงวดและซึมเข้าไปยังตัวเส้นผัดหมี่โคราช จึงใส่ไข่ไก่ลงไป ซึ่งต่างจากผัดไทย ที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว และผัดกับน้ำมันพืช แล้วจึงค่อยปรุงเครื่องปรุงอันได้แก่ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ น้ำตาล และไข่ไก่ลงไป ซึ่งกรรมวิธีการผัดจะแตกต่างกัน อีกทั้งรสชาติของผัดหมี่โคราช รสชาติของน้ำปรุงรสที่ปรุงขึ้นมานั้น จะซึมเข้าสู่ตัวเส้นได้มากกว่าการผัดอย่างผัดไทย เส้นหมี่โคราช ยังสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด ทั้ง ขั่วหมี่(ผัดหมี่โคราช),ต้มหมี่ (ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยว),ยำหมี่ (นำเส้นหมี่โคราชสดที่ยังไม่ตจากแห้ง มายำคู่กับพริกป่น ผักชี) , แกงหมี่ เป็นต้น ซึ่ง เส้นหมี่โคราชนั้น เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านโบราณ ที่มีมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่สมัยโบราณ ในส่วนของรสชาติอาหารร้านป้าอ้อม ขั่วหมี่นั้น กลิ่นของผัดหมี่โคราชที่หอมยั่วยวนใจ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้ามหาศาลมายังร้านอาหารแห่งนี้ได้อย่างดี ด้วยน้ำปรุงผัดหมี่ที่เป็นสูตรลับของป้าอ้อม ทำให้ผัดหมี่โคราชจานนี้ กลมกล่มและเข้ากันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเมื่อทานกับส้มตำรสแซ่บ เราจะได้สัมผัสรสชาติที่เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวโคราชได้อย่างแท้จริง หลังจากอิ่ม ผมลุกไปจ่ายเงิน ในราคา 90 บาท ประกอบไปด้วย ผัดหมี่โคราช 45 บาท และ ส้มตำปูปลาร้าอีก 45 บาท ผมยืนคุยกับป้าอ้อม เจ้าของร้าน ป้าอ้อมบอกกับเราว่า ร้านนี้เปิดมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 นั่นเท่ากับว่า ร้านเล็กๆร้านนี้ เปิดมาอย่างยาวนานแล้วราวๆ 27 ปี ลูกค้าหลากหลายคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ก็มีคนที่เข้ามาทานอาหารของร้านป้าอ้อมแล้วติดใจ การันตีให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องส่วนหนึ่งของเมืองโคราช โดยเฉพาะการเป็นแขกบ้านแขกเมือง ให้ชาวต่างชาติได้มาศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวโคราชอีกด้วย หากมีโอกาส มาทานอาหารร้านนี้ อย่าลืมทักทายป้าอ้อมเป็นภาษาโคราช ป้าอ้อมจะชอบใจมาก และตบท้ายด้วยคำชื่นชมความอร่อยในภาษาโคราช ว่า "อร่อยแท่ะ แท่ะ" ร้านขั่วหมี่ป้าอ้อม เปิด 11:00-18:00 น. เบอร์โทรศัพท์ 089-945-7979 Credit ภาพ : Jirawat Suttipittayasak