หากเอ่ยถึงร้านซาลาเปาในตำนานที่ใครมาเชียงใหม่แล้วต้องไม่พลาด ก็คือ "ซาลาเปาวิกุล" เป็นหนึ่งร้านที่เก่าแก่ขายซาลาเปามายาวนานกว่า 70 ปี "ซาลาเปาวิกุล" เกิดขึ้นจากอากงที่ย้ายมาจากจีนแผ่นดินใหญ่แล้วเข้ามาในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำการค้าขายหลายอย่างสุดท้ายมาลงตัวที่ซาลาเปาซึ่งเป็นสูตรของอากงเอง เริ่มขายครั้งแรกด้วยราคา 1 บาท ถึง 1.50 บาท โดยเปิดเป็นร้าน "วิกุลพานิช" มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 จนถึงปัจจุบัน วิกุลพานิช มีขนมเปี๊ยะไส้ต่าง ๆ ขนมจันอับ ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมลูกเต๋า แม้แต่ขนมปังปีบที่ผู้เขียนชอบทานสมัยเด็ก ๆ ก็มีวางขายค่ะ ซาลาเปาของวิกุลพานิชขายดีมากค่ะ มีคนมารอซื้อไม่ขาดสายเลย นี่ก็ใกล้หมดอีกแล้ว (ผู้เขียนไปประมาณ 10.30 น.ค่ะ) หากผู้เขียนมาช้าอีกนิดก็ต้องได้ยืนรอซาลาเปากับขนมจีบประมาณ 20 นาทีค่ะ ซาลาเปาของวิกุลพานิชมี 2 ขนาดค่ะ ขนาดเล็ก 18 บาท ขนาดใหญ่ 35 บาท ซาลาเปาวิกุลแป้งของซาลาเปาจะเป็นแป้งหมักซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เนื้อแป้งไม่นุ่มฟู สีจะออกเหลืองนิด ๆ ผู้เขียนจะได้กลิ่นของแป้งหมักขณะทานด้วยค่ะ ไส้ของซาลาเปาแน่นมาก (ในรูปเป็นลูกเล็กนะคะ ผู้เขียนอยากทานหลายไส้ค่ะ ถ้าเลือกลูกใหญ่จะเลือกทานได้ไส้เดียวเพราะลูกใหญ่มากจะทานไม่หมดค่ะ) ซาลาเปาแต่ละลูกจะห่อด้วยใบตองเพื่อไม่ให้ซาลาเปาติดกัน (แต่ก็ยังมีติดกันบ้างค่ะ) นอกจากนี้ก็จะใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลที่ช่วยเก็บความร้อนให้ซาลาเปาอุ่นได้นานขึ้นค่ะ ควรทานซาลาเปาวิกุลตอนอุ่น ๆ จะอร่อยที่สุดค่ะ เพราะหากซาลาเปาเย็นแล้วแป้งจะเหนียวนำไปอุ่นในไมโครเวฟก็ไม่อร่อยเท่าเดิมนะคะ ซาลาเปาไส้หมูสับ (ไส้เค็ม) แป้งซาลาเปาจะเหนียวนุ่ม หมูแน่น มีไข่เค็มแดงกับกุนเชียงอยู่ด้านใน รสหวานหน่อย ๆ ผู้เขียนชอบซาลาเปาไส้หมูสับของที่นี่มากค่ะเพราะไม่เค็มรสชาติกำลังดี (บางร้านจะเค็มไปนิด) ซาลาเปาไส้หมูสับของวิกุลพานิชผู้เขียนยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจค่ะ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ ถั่วดำแน่นเช่นกันค่ะ ไส้ถั่วดำจะหวานนิด ๆ ซาลาเปาไส้ครีม แป้งนุ่ม ไส้เยอะ รสชาติหวานกำลังดี ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน นอกจากนี้ของอร่อยขายดีรองจากซาลาเปาก็คือ "ขนมจีบ" จะใส่ถุงพลาสติกผูกด้วยซีอิ้วและกระเทียมเจียว ราคาลูกละ 6 บาท ขนมจีบอร่อยค่ะ แป้งขนมจีบของวิกุลพานิชแป้งจะบาง นุ่ม ข้างในเนื้อหมูแน่น ไม่สามารถกัดทานคำเดียวได้ ขนมจีบลูกใหญ่มาก รสชาติกลมกล่อม ผู้เขียนทานแบบไม่ต้องจิ้มซีอิ้วก็ยังอร่อยเพราะจะมีรสหวานนำ แต่ถ้าเหยาะซีอิ้วเพิ่มก็จะได้รสเปรี้ยวนิด ๆ อร่อยไปอีกแบบค่ะ ผู้เขียนทาน 5 ลูกก็เริ่มอิ่มแล้วค่ะ บะจ่างก็อร่อยค่ะ แต่วันที่ผู้เขียนไปไม่เห็นบะจ่างนึ่งอยู่ที่ซึ้งนึ่งเลยค่ะ หากเดินทางมาเชียงใหม่อยากลิ้มลองซาลาเปา ขนมจีบ บะจ่าง สูตรโบราณต้องที่วิกุลพานิช รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ร้านวิกุลพานิชเปิดตั้งแต่ 08.00 - 16.00 น. (แต่บางวันก็ปิดตั้งแต่บ่าย 3 โมงเพราะขายหมดค่ะ) ร้านตั้งอยู่บนถนนเจริญเมือง เลยตลาดสันป่าข่อยไปทางสะพานนวรัฐ ประมาณ 100 เมตร เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน