"ขนมพระพาย" เป็นขนมไทยโบราณที่ปัจจุบันหารับประทานยาก สมัยก่อนเป็นขนมที่ใช้ในงานพิธีมงคลสมรส ซึ่งสมัยนี้เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยที่นิยมความสะดวกความสบาย เน้นความรวดเร็วเป็นหลัก แต่วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำสูตร และวิธีการทำขนมพระพายกันค่ะ ซึ่งบอกเลยไม่ยากอย่างที่คิด เราสามารถสามารถประยุกต์ขั้นตอนต่าง ๆ ตามความสะดวกของเราได้เลยค่ะ ส่วนประกอบ ไส้ขนม 1.ถั่วเขียว 150 กรัม แช่น้ำ1 คืน แล้วเลาะเปลือกออก (เพื่อความสะดวกถั่วเขียวเลาะเปลือกให้แล้ว มีขายนะคะ) 2.น้ำตาลทราย 100 กรัม 3.น้ำกะทิ 200 กรัม ตัวแป้งขนม 1.แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม 2.น้ำเปล่า 5-6 ช้อนโต๊ะ 3.สีผสมอาหาร(สีแดง) 1-2 หยด (สามารถใช้น้ำใบเตย หรือ ดอกอัญชันได้ค่ะ) กะทิราดหน้า 1.น้ำกะทิ 100 กรัม 2.แป้งข้าวเจ้า 5 กรัม 3.เกลือ 1 ช้อนชา วิธีทำ 1.นำถั่วเขียวเลาะเปลือก ใส่หม้อเติมน้ำเปล่า ต้มให้ถั่วสุกใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที (ถ้าไม่สะดวกต้ม นำไปนึ่งได้นะคะ) 2.นำถั่วเขียวเลาะเปลือกที่ต้มแล้ว ไปปั่นให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น สามารถใส่ครกตำได้นะคะ) 3.เทถั่วเขียวปั่นละเอียดใส่หม้อ เติมน้ำกะทิ น้ำตาลทราย ใช้ไฟปานกลาง กวนจนเหนียวแห้ง เป็นเหนียวเดียวกัน ให้สามารถปั้นได้ 4.มาทำตัวแป้งขนมกันค่ะ นำแป้งข้าวเหนียว หยดสีผสมอาหาร 1- 2หยด หรือแล้วแต่ชอบ ถ้าไม่มีสีผสมอาหารสามารถใช้น้ำแดงเฮลซ์บลูบอยแทนได้ค่ะ ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อยและค่อย ๆ นวด ถ้าเนื้อแป้งแห้งไป ให้เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ๆ นวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อสัมผัสประมาณดินน้ำมันนุ่ม ๆ 5.ทำครีมกะทิไว้ราดหน้าขนม เทกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ ลงกะทะคนให้ส่วนผสมเข้ากัน และค่อยเปิดไฟ ใช้ไฟอ่อนเลยค่ะ กวนจนเป็นเนื้อครีมข้น หนืด 6.ขั้นตอนการนำแป้งห่อกับไส้ขนม ปั้นแป้งขนมให้เป็นก้อนกลม ๆ ตามหมายเลข 1 7.ตามหมายเลข 2 นำแป้งขนม แผ่ออก วางไส้ขนมที่ปั้นไว้ตรงกลางแป้ง สังเกตนะคะ แป้งรอบ ๆ ไส้ขนมจะหนากว่าตรงกลาง เพื่อให้สามารถหุ้มไส้ได้หมด ไส้ขนมจะได้ไม่แตกเวลานำไปนึ่ง เมื่อเอาแป้งหุ้มไส้ขนมแล้ว ก็ปั้นและคลึงให้เป็นก้อนกลม ๆ 8.เมื่อปั้นขนมเสร็จแล้ว โดยทั่วไปถ้าใครสามารถหาใบตองหรือใบเตยได้ สามารถตัดใบตองหรือใบเตยเพื่อวางขนมและนำไปนึ่ง แต่ตัวผู้เขียนไม่สะดวกเลยใช้ถ้วยใส่ขนมแทน โดยการทาน้ำมันพืชบาง ๆ ที่ถ้วยก่อนเพื่อไม่ให้ขนมติดภาชนะ 8.นำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ก่อนนึ่งแนะนำว่าใช้น้ำพรมให้ทั่ว ๆ ที่ขนม สังเกตถ้าขนมสุกแล้ว แป้งห่อขนมจะมีสีเข้มกว่าสีเดิม เนื้อแป้งจะออกใส ๆ ค่ะ 9.เสร็จแล้วราดหน้าด้วยครีมกะทิ และใบเตยมาประดับเล็กน้อยให้สวยงาม เท่านี้เป็นอันเสร็จ ขนมชนิดนี้แนะนำว่าทำเสร็จให้รับประทานเลยค่ะ จะอร่อยมากมีความหวานละมุนของไส้และแป้งที่หุ้มขนมตัดกับกะทิราดหน้า เคี้ยวหนุบหนับเพลินเลยค่ะ เด็ก ๆ ทานได้ ข้อดีของการทำขนมเอง คือไม่มีสารกันบูด ถึงแม้จะเก็บไว้ได้ไม่นานก็ตาม ส่วนผสมต่าง ๆ ไม่มีตายตัวนะคะ เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ เช่น ถ้าต้องการให้ไส้ขนมหวาน เพิ่มน้ำตาลทรายได้ อยากให้มีรสชาติหวาน มัน เติมกะทิได้อีก เป็นต้น ยังไงขอให้สนุกกับการทำขนมทานเองนะคะ ให้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้กับลูก ๆ ของคุณได้เพิ่มกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ทดลองทำได้ค้นหาสิ่งที่ชื่นชอบ ภาพทั้งหมด:ผู้เขียน