9 ทริคซื้อมะเขือยาวม่วง ผลสดใหม่ ทอดใส่ไข่ กินกับน้ำพริกกะปิ กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล มะเขือยาวม่วงเป็นผักที่คนไทยคุ้นเคยและนำไปทำอาหารได้สารพัดเมนู ซึ่งเมนูทอดมะเขือยาวชุบไข่เป็นสิ่งที่เรารู้จักกันดี ซึ่งสิ่งที่ซ่อนอยู่ถ้าเราไม่เลือกมะเขือดีๆ คือ จุดเสี่ยงค่ะ โดยถ้าเราเลือกไม่ดี ผลที่ได้อาจไม่สด เนื้อฟ่าม อมน้ำมันจนเละ หรือมีกลิ่นผิดปกติ และบางครั้งอาจมีรอยเจาะจากแมลงที่ทำให้เนื้อด้านในเสียโดยไม่ทันสังเกต ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียรสชาติแล้ว ยังเสี่ยงต่อสุขอนามัยของคนกินโดยตรงอีกด้วย ดังนั้นการเลือกโดยไม่รู้วิธี จะทำให้มื้ออาหารธรรมดากลายเป็นปัญหาได้ง่ายๆ ค่ะ เพราะอาหารสามารถเป็นสื่อของความเจ็บป่วยในคนเราได้ ดังนั้นการรู้แนวทางในการเลือกซื้อมะเขือยาวม่วง จึงเป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติที่อร่อยขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความสะอาด ปลอดภัย และคุณค่าทางโภชนาการที่จะได้รับด้วย โดยทริคที่ผู้เขียนจะได้บอกต่อนั้น ล้วนช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าผลที่ซื้อคือมะเขือสดใหม่จริงๆ และพร้อมจะเปลี่ยนเมนูทอดใส่ไข่กับน้ำพริกกะปิธรรมดาให้กลายเป็นมื้ออร่อยที่สมบูรณ์แบบได้ค่ะ ซึ่งต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเลือกซื้อนะคะ 1. เริ่มจากมองที่สีเปลือก สิ่งแรกที่ควรสังเกตเมื่อจะซื้อมะเขือยาวม่วง คือ สีของเปลือกค่ะ ปกติผลที่สดใหม่จะมีสีม่วงเข้มสด สม่ำเสมอตลอดทั้งผล และมีความเงางามเล็กน้อยตามธรรมชาติ ซึ่งการมีสีสม่ำเสมอแสดงถึงการเติบโตที่สมบูรณ์ และถูกเก็บมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม หากเปลือกออกสีซีดหรือคล้ำหม่น ไม่เงา หรือมีจุดสีน้ำตาลด่างๆ กระจายอยู่ นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่ามะเขือยาวเริ่มเสื่อมคุณภาพแล้ว ซึ่งเนื้อด้านในจะไม่แน่น หรือติดรสขมได้ง่ายค่ะ การสังเกตสีเปลือกยังช่วยให้มั่นใจได้ว่า เมื่อหั่นแล้วเนื้อด้านในจะขาวนวล ไม่หมองคล้ำและไม่เป็นเส้นใยแข็งเกินไป ที่เวลาทอดใส่ไข่ เนื้อจะนุ่มฉ่ำและหวานละมุน ซึ่งต่างจากผลที่สีเปลือกหม่นหรือมีรอยด่างนะคะ ที่เวลาทอดออกมาแล้วจะเละง่าย ดูดซับน้ำมันมาก และเสียรสชาติ ที่โดยสรุปแล้วการใช้สายตาตรวจสอบสีเปลือก เป็นวิธีพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะช่วยให้ได้มะเขือสดใหม่ทุกครั้งที่ซื้อแน่นอน 2. สังเกตความตึงของเปลือก ผิวเปลือกของมะเขือยาวเป็นตัวบอกความสดที่ชัดเจนที่สุดค่ะ หากมะเขือสดใหม่ เปลือกจะตึงเรียบและเงางามตามธรรมชาติ เวลาลูบหรือใช้มือสัมผัสจะรู้สึกแน่นและแข็งแรงเล็กน้อย เหมือนยังมีน้ำและเนื้อเต็มผล แต่ถ้าผลเริ่มเหี่ยว ผิวจะดูย่น ไม่ตึง และขาดความเงางามทันที ที่ในบางครั้งเราจะเห็นเป็นเส้นริ้วเล็กๆ หรือรอยยุบ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามะเขือได้สูญเสียน้ำไปแล้วนะคะ การเลือกเปลือกที่ตึงยังช่วยให้มั่นใจว่าเนื้อด้านในแน่น หั่นออกมาแล้วไม่เละง่าย เมื่อนำไปทอดกับไข่ เนื้อจะเกาะกันดี กรอบนอกนุ่มใน และให้รสหวานตามธรรมชาติ ที่จะต่างจากมะเขือที่ผิวเหี่ยว ซึ่งมักอมน้ำมันและเสียรสชาติ ดังนั้นการใช้ตาและมือสัมผัสผิวเปลือก จึงเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยยืนยันได้ว่า มะเขือยาวที่เลือกยังสดใหม่และเหมาะกับการนำไปทำเมนูอร่อยๆ อย่างทอดใส่ไข่กินคู่กับน้ำพริกกะปิค่ะ 3. ดูขั้วและก้าน ขั้วและก้านของมะเขือยาวเป็นจุดที่บอกความสดได้อย่างชัดเจนอีกจุดหนึ่งค่ะ ถ้ามะเขือยาวยังใหม่ ขั้วและก้านจะมีสีเขียวสด แน่น และชุ่มน้ำเล็กน้อย เวลามองจะเห็นว่ายังติดแน่นกับผลเหมือนเพิ่งถูกเก็บมา ขั้วเขียวคือข้อมูลที่บอกว่ามะเขือยังมีความสดเต็มที่ เนื้อข้างในยังแน่นและชุ่ม เวลานำไปทอดจะได้รสหวาน และไม่อมน้ำมันมากจนเกินไปค่ะ ในทางตรงกันข้ามถ้าขั้วเริ่มเหี่ยวหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ แสดงว่าถูกเก็บไว้นานแล้ว ความชุ่มน้ำและคุณภาพของผลก็ลดลงตามไปด้วย บางครั้งถ้าเราเห็นว่าขั้วเริ่มแห้งกรอบหรือมีรอยแตก นั่นเป็นสัญญาณว่ามะเขือยาวไม่สดแล้วนะคะ และเนื้อข้างในมักแข็งหรือฟ่าม เมื่อนำไปทอดกับไข่จะไม่อร่อยเหมือนผลที่สดกว่าค่ะ ดังนั้นเวลาซื้อมะเขือยาวสีม่วงในตลาด อย่าลืมมองขั้วและก้านสักนิด และเลือกผลที่มีขั้วเขียวสด เพราะนั่นคือสิ่งที่การันตีความใหม่และความอร่อยที่จะได้ในจานอาหารของเราค่ะ 4. ใช้น้ำหนักเป็นตัวตัดสิน รู้ไหมคะว่า มะเขือยาวที่สดใหม่จะให้ความรู้สึกหนักแน่นเมื่อถือไว้ในมือ ซึ่งน้ำหนักนี้สะท้อนถึงความชุ่มน้ำและเนื้อที่แน่น ไม่ฟ่ามหรือพร่องน้ำ หากหยิบขึ้นมาแล้วเบากว่าที่ควร ทั้งที่ขนาดใกล้เคียงกัน แสดงว่ามะเขือยาวนั้นเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว เพราะว่าเนื้อด้านในสูญเสียน้ำและจะไม่แน่นเหมือนผลสดใหม่ค่ะ ทำให้เมื่อทอดใส่ไข่ เนื้อมะเขือจะอมน้ำมันมากเกินไป กลายเป็นเละและเสียรสชาติได้ง่ายๆ ซึ่งการชั่งน้ำหนักด้วยมือจึงเป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดีค่ะ ตลอดจนมะเขือที่หนักกว่าจะหั่นออกมาเป็นชิ้นสวย เนื้อเรียงตัวแน่น ไม่เป็นโพรง และเมื่อทอดจะยังคงความนุ่มฉ่ำ กินกับน้ำพริกกะปิแล้วจะหวานละมุน ซึ่งแตกต่างจากผลที่เบาอย่างชัดเจนนะคะ ดังนั้นทุกครั้งที่ซื้อควรลองหยิบมะเขือยาวสีม่วงขนาดใกล้เคียงกันมาชั่งเปรียบเทียบ ซึ่งน้ำหนักที่มากกว่าย่อมการันตีถึงความสดและคุณภาพที่ดีกว่าได้ค่ะ 5. สังเกตความตรงของรูปทรง คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มะเขือยาวม่วงที่สดและมีคุณภาพดี มักมีลักษณะเรียวยาวตรงสวยตลอดทั้งผล ไม่บิดงอหรือโค้งจนเกินไป ผลที่ตรงและสม่ำเสมอไม่เพียงดูน่าซื้อ แต่ยังทำให้สะดวกต่อการหั่นเป็นชิ้นๆ สำหรับทอดใส่ไข่ด้วย และเนื้อที่ได้จะเรียงตัวสวย หั่นแล้วไม่แตกหรือหักง่าย ที่จะต่างจากผลที่บิดงอมาก ซึ่งมักเกิดจากการเจริญเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ ที่ส่งผลให้เนื้อด้านในจะแข็ง มีเส้นใย หรือไม่สุกทั่วถึงเมื่อทอดนะคะ นอกจากนี้รูปทรงที่ตรงยังช่วยให้น้ำมันร้อนซึมเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ เวลาทอดจะกรอบนอกนุ่มในทุกชิ้น ทำให้กินคู่กับน้ำพริกกะปิได้อร่อยลงตัว ส่วนผลที่มีรูปร่างผิดปกติหรือบิดเบี้ยว มักทำให้หั่นไม่สะดวก เนื้อทอดออกมาก็จะไม่สวย และบางครั้งอาจมีเนื้อแข็งหรือรสขมแฝงอยู่เล็กน้อย ดังนั้นการมองหารูปทรงที่เรียวยาวตรงสม่ำเสมอ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อมะเขือยาวม่วงค่ะ 6. ใช้การกดเบาๆ เพื่อทดสอบความแน่น การกดเบาๆ บนผิวมะเขือยาว เป็นวิธีที่ช่วยเช็กความสดได้อย่างแม่นยำค่ะ หากผลยังสดใหม่จริงๆ เมื่อใช้ปลายนิ้วกดเบาๆ ลงไป เนื้อจะเด้งกลับคืนรูปทันที แสดงว่าเนื้อแน่นและยังชุ่มน้ำเต็มที่ ผลแบบนี้เมื่อนำไปหั่นจะได้เนื้อสวย ไม่เละง่าย และเมื่อทอดใส่ไข่ เนื้อจะนุ่มหวานกำลังดี และไม่อมน้ำมันจนเกินไป แต่ถ้าเรากดแล้วเกิดรอยบุ๋มที่ไม่คืนรูป หรือรู้สึกว่านิ่มผิดปกติ นั่นคือสัญญาณว่ามะเขือเริ่มเสื่อมสภาพ เนื้อด้านในอาจฟ่ามหรือเน่าในบางส่วน ซึ่งเมื่อนำไปทอดจะไม่อร่อย เนื้อเละและกลายเป็นผักที่อมน้ำมันมากเกินไป อีกทั้งยังเสี่ยงมีกลิ่นหรือรสขมติดปลายลิ้นด้วย ซึ่งการทดสอบง่ายๆ แบบนี้ เป็นเหมือนการคัดกรองขั้นสุดท้าย ที่ทำให้มั่นใจว่ามะเขือยาวที่เลือกมาสดจริง และเหมาะกับการทำเมนูอร่อยๆ อย่างทอดใส่ไข่กินคู่กับน้ำพริกกะปิค่ะ 7. เลี่ยงที่มีรอยเจาะหรือรู มะเขือยาวม่วงที่มีคุณภาพดีควรมีผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยเจาะหรือรูเล็กๆ เพราะร่องรอยต่างๆ มักเกิดจากแมลงกัดแทะหรือหนอนชอนไชเข้าไปภายใน ซึ่งถึงแม้ภายนอกจะยังดูพอใช้ได้ แต่เนื้อด้านในอาจถูกทำลายไปแล้ว ที่ในบางครั้งเมื่อผ่าออกมาจะเจอเนื้อเป็นโพรง มีรอยสีน้ำตาล หรือเจอตัวหนอนที่ยังอยู่ข้างใน การนำผลลักษณะนี้ไปทอดใส่ไข่ จะทำให้เสียทั้งรสชาติและความสะอาดทันทีค่ะ นอกจากนี้รอยเจาะยังเป็นจุดอ่อนที่ทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น หากเก็บไว้นานผลอาจเน่าเสียเร็ว และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เวลาทอดก็จะไม่กรอบหอมอย่างที่ควรจะเป็น การเลือกมะเขือที่ผิวสมบูรณ์จึงสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้อาหารออกมาน่ากินแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยทางอาหารด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่ซื้อควรพลิกดูรอบผลอย่างละเอียด เลือกที่ผิวเรียบเนียน ไม่มีรูหรือรอยเจาะ จะได้มะเขือที่สด สะอาด และอร่อยคู่กับน้ำพริกกะปิได้อย่างมั่นใจนะคะ 8. ให้ความสำคัญกับกลิ่นตามธรรมชาติ กลิ่นของมะเขือยาวสีม่วงเป็นตัวช่วยบอกความสดที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่จริงๆ แล้วใช้ได้ผลดีมากค่ะ เพราะปกติแล้วมะเขือยาวที่สดใหม่จะมีกลิ่นอ่อนๆ แบบผักสดตามธรรมชาติ ไม่ฉุน ไม่เหม็น และไม่มีกลิ่นหมักหรือเปรี้ยว เวลานำไปหั่นหรือทอดจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เข้ากับไข่ได้ดี ซึ่งจะต่างจากผลที่เริ่มเสื่อมคุณภาพ ที่มักส่งกลิ่นหมักคล้ายผักที่เก็บไว้นาน หรือบางครั้งอาจเริ่มมีกลิ่นเปรี้ยวซ่อนอยู่ จึงทำให้รสชาติของอาหารเสียไปทันที ซึ่งการดมกลิ่นจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ควรทำก่อนซื้อค่ะ เพียงแค่หยิบมะเขือยาวขึ้นมาแล้วลองดมใกล้ๆ หากได้กลิ่นแบบผักใหม่ แปลว่าผลนั้นยังสดแน่นอน แต่ถ้าได้กลิ่นผิดปกติควรวางทันที เพราะถึงแม้ภายนอกจะดูดี แต่ภายในอาจเริ่มเน่าเสียแล้ว เพราะมะเขือที่มีกลิ่นสดสะอาด เมื่อทอดใส่ไข่จะช่วยให้อาหารออกมาหอมละมุน ไม่เสียรส และกินคู่กับน้ำพริกกะปิได้อร่อยลงตัว การใช้ประสาทรับกลิ่นเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับ ที่ช่วยให้การเลือกซื้อมะเขือยาวปลอดภัยและคุ้มค่ามากขึ้นนะคะ 9. ซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเลือกมะเขือยาวม่วงเก่งแค่ไหน ถ้าซื้อจากร้านที่ไม่รักษาความสะอาดหรือไม่คัดคุณภาพ ก็ยังเสี่ยงได้ผลผลิตที่ไม่สดหรือมีสารเคมีตกค้างอยู่ค่ะ ดังนั้นการเลือกแหล่งซื้อจึงสำคัญพอๆ กับการสังเกตตัวผลเอง ที่ควรเลือกตลาดหรือร้านที่มีการหมุนเวียนผักทุกวัน ผักใหม่เข้ามาสม่ำเสมอ และจัดเก็บในสภาพแวดล้อมที่สะอาด เช่น วางบนแผงที่ยกสูงจากพื้น ไม่ปะปนกับผักเน่าเสีย และมีการพรมน้ำเล็กน้อยเพื่อรักษาความสด เนื่องจากการซื้อจากร้านประจำหรือแหล่งที่ไว้ใจได้ จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่ามะเขือยาวที่เลือกปลอดภัยจริงๆ โดยบางร้านอาจเป็นแหล่งขายผักอินทรีย์ หรือผักจากโครงการหรือแหล่งปลูกที่ไม่ใช้สารเคมี จึงทำให้มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น เมื่อนำไปทอดใส่ไข่แล้วกินกับน้ำพริกกะปิ จะไม่เพียงได้รสชาติอร่อยลงตัวเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยต่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัวด้วยค่ะ ดังนั้นการเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ จึงเป็นเหมือนการลงทุนความสบายใจ ที่ทำให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยคุณภาพและความอร่อยที่แท้จริงนะคะ และนั่นคือ 9 วิธีการสังเกตที่จำเป็นต้องรู้ ก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ พอจะมองภาพออกกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ? ที่โดยสรุปแล้วการเลือกซื้อมะเขือยาวม่วง ไม่ใช่เพียงแค่การมองหาผักที่สวยเพียงอย่างเดียวค่ะ แต่คือการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพ ตั้งแต่การดูสีเปลือกที่ต้องสดใสเงางาม การสัมผัสผิวให้แน่นตึง การสังเกตขั้วและก้านที่ยังเขียวสด การชั่งน้ำหนักในมือเพื่อดูความแน่นของเนื้อ ตลอดจนการสังเกตรูปทรงที่ตรงสวย การกดเบาๆ เพื่อเช็กความแน่น การหลีกเลี่ยงรอยเจาะที่เสี่ยงต่อแมลงและเชื้อรา การดมกลิ่นเพื่อยืนยันความสด ไปจนถึงการเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซึ่งทุกขั้นตอนล้วนมีผลต่อรสชาติและความปลอดภัยของอาหารที่เราจะนำไปปรุง โดยเมื่อเราใช้ทริคทั้ง 9 ข้อนี้ประกอบกัน จะทำให้การเลือกซื้อมะเขือยาวสีม่วง กลายเป็นเรื่องง่ายและมั่นใจได้ว่าได้ของสดจริงๆ เมื่อนำมาทอดใส่ไข่แล้วได้เนื้อหวานนุ่ม กรอบกำลังดี และกินคู่กับน้ำพริกกะปิได้อย่างอร่อยลงตัว ที่สำคัญยังเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้ครอบครัว เพราะเริ่มต้นจากการเลือกวัตถุดิบที่สะอาดและปลอดภัย ซึ่งการใส่ใจเลือกมะเขือยาวสีม่วงในตลาดวันนี้ ย่อมดีทั้งต่อความปลอดภัยในอาหารและสุขอนามัยของตัวเราด้วยค่ะ ถ้าเป็นพ่อบ้านที่ต้องไปเลือกมะเขือยาวม่วงเองแบบง่ายๆ สิ่งที่ควรโฟกัสคือดูสีให้ม่วงสดเงางาม ผิวเรียบไม่มีรอยช้ำหรือรอยเจาะ จากนั้นลองหยิบขึ้นมาชั่งในมือ ผลที่สดจะรู้สึกหนักแน่นกว่าที่ตาเห็น และถ้ามีเวลาลองกดเบาๆ ที่ผิว หากเนื้อเด้งกลับคืนรูปก็มั่นใจได้ว่ายังสดใหม่ อย่าลืมเหลือบดูขั้วที่ควรเป็นสีเขียวสดไม่แห้งเหี่ยว แค่ทำตามนี้ก็เพียงพอสำหรับการเลือกมะเขือที่ดี และเหมาะสำหรับนำไปทอดใส่ไข่ให้ครอบครัวกินคู่กับน้ำพริกกะปิได้อร่อยและปลอดภัยทุกมื้อแล้วค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็มีจุดสังเกตที่สำคัญๆ สำหรับตัวเองตอนเลือกซื้อมะเขือยาวสีม่วงเหมือนกันค่ะ ที่ปกตินั้นมักซื้อจากแม่ค้าที่เป็นคนรู้จัก โดยหลายครั้งได้มะเขือยาวสีม่วงที่ปลูกได้ในชุมชน ในราคาไม่แพงและสดใหม่ค่ะ ซึ่งการหยิบจับและยกดู เป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่เคยลืม เพื่อประเมินดูน้ำหนักค่ะ ที่มักเลือกผลขนาดกลางและดูไม่บิดเบี้ยวมากจนเกินไป และที่สำคัญคือผู้เขียนซื้อแค่พอดีต้องใช้ค่ะ เพื่อลดภาระในการเก็บรักษา ตลอดจนการซื้อแต่น้อยนี้ ยังทำให้ผู้เขียนมีโอกาสได้มะเขือยาวสีม่วงสดใหม่ได้เรื่อยๆ จากที่ไปเลือกซื้อใหม่ด้วยเคล็ดลับในบทความนี้ค่ะ ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำไปประยุกต์ใช้นะคะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป ถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #มะเขือยาวสีม่วง #วิธีเลือกผักสด #ผักกินกับน้ำพริกกะปิ #ความปลอดภัยในอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 10 วิธีเลือกไข่ไก่สดใหม่ ดูยังไงดี มีคุณภาพ และน่าซื้อ 6 วิธีเลือกน้ำมันพืช แบบไหนดี มีคุณภาพ น่าซื้อ 9 วิธีเลือกซื้อกะปิ แบบไหน สะอาดและดี หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !