สำหรับชาวขอนแก่นและผู้ไปเยือน ย่อมคุ้นเคยได้ยินชื่อเสียงของ “แหนมลับแล” มาเป็นเวลาเนิ่นนาน มีสาขาในที่ต่างๆ อาหารจานหลักที่ผู้เขียนชอบซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือฝากเพื่อน ญาติมิตร คือแหนมเนืองกับหมูยอ อันที่จริงทางร้านมีของกินหลากหลายทั้งแบบอาหารจานหลัก ของกินเล่น และของฝากประเภทผ้าทอพื้นเมือง หมอน ผ้าพันคอ กระเป๋าผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า เป็นต้น ผู้เขียนเป็นคนพื้นเพจังหวัดขอนแก่น คุ้นเคยกับ “แหนมลับแล” มาตั้งแต่เด็ก ปีนี้ได้กลับไปอุดหนุนพาครอบครัวไปกินอาหารเที่ยงที่ร้านเป็นครั้งแรก ปกติจะซื้อกลับไปกินที่บ้าน หรือหากเข้าไปในร้านจะชอบไปซื้อของจากร้านขายของฝากที่มีงานผ้าประเภทต่างๆ จำหน่ายเป็นของที่ระลึก กับซื้อของกินเล่นประเภทขนม ซึ่งภายในร้านจัดได้เป็นระเบียบ สวยงาม น่าเดิน สะอาด เรียกได้ว่าบรรยากาศภายในร้านชวนซื้อของอย่างยิ่ง บริเวณลานจอดรถของร้านเมื่อเข้าไปจะเห็นตัวอาคารจัดแสดงที่เคยเป็น “อดีตอาคารแหนมลับแล” สวยงาม คลาสสิก และข้อความกับตัวอาคารเป็นผลงานวัตถุชิ้นสำคัญ แม้จะเป็นเพียงตัวอาคารแต่ก็ทำให้ผู้เขียนได้ย้อนตระหนักและนึกว่ารู้จักแหนมลับแลมานานเพียงใดแล้ว และตัวอาคารย่อมเป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลาที่บอกเล่าการผ่านร้อนผ่านหนาวและอยู่คู่กับปากท้องชาวเมืองขอนแก่นและผู้มาเยือนมาเนิ่นนานเช่นกัน ภายในร้านอาหารของแหนมลับแล มีรายการอาหารเวียดนาม ท้องถิ่นอีสาน ภาคอื่นๆ ให้เลือก ทั้งคาวและหวานตามที่ทางร้านจัดหา มีมุมขายของที่ระลึก ห้องทานอาหารมีให้เลือกแบบห้องปรับอากาศและห้องพัดลม สิ่งที่สร้างความประทับใจกับผู้เขียนคือภายในร้านอาหารของแหนมเนืองลับแล บรรยากาศโดยรอบเป็นร้านอาหารกึ่งสวน ปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายประเภท มีเรือนไม้หลังเล็ก มีศาลาสำหรับทานอาหารในสวน บ่อน้ำ ต้นไม้ร่มรื่นทั้งไม้ใหญ่ ไม้ประดับ ปลูกคละกันไป รูปแบบการจัดแบบสวนภายในบ้านที่ให้ความเป็นกันเองกับผู้ไปเยือน ทางร้านมีการดูแลและบำรุงรักษาอย่างดี บางจุดของพื้นที่สวนมีของใช้สมัยก่อนวางจัดแสดงแบบไม่ทางการจึงทำให้เพลิดเพลินแบบไม่ต้องจริงจังจนเกินไปนัก กอปรกับเสียงของธรรมชาติและเสียงของนก จิ้งหรีด เรไร จึงเสริมบรรยากาศชวนอภิรมย์ หากใครนั่งในห้องปรับอากาศมองผ่านกระจกก็เห็นสวนโดยรอบได้เช่นกัน ระหว่างรออาหารของร้านแหนมลับแล ผู้เขียนจึงมีโอกาสเพลิดเพลินไปกับสวนลับกลางใจเมืองขอนแก่นอีกแห่ง แม้จะไม่ใหญ่โตนัก และอยู่ในพื้นที่เฉพาะ แต่ก็ทำให้ตระหนักถึงอายุอานามของต้นไม้ใหญ่ ข้าวของ และการเดินทางที่ไม่ลับแลของแหนมลับแล จนอยากให้ทางร้านมีส่วนจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์กินอยู่ของแหนมลับแล เล่าประวัติของทางร้าน จำได้ว่าสมัยเป็นเด็กเคยเข้าไปแล้วชอบร้านนี้เพราะกึ่งๆ เข้าไปในพิพิธภัณฑ์แม้จะเป็นส่วนที่เข้าไปซื้อหรือเลือกชมผ้าทอมือ ผ้าฝ้ายก็ตาม ของฝากหลายชิ้นที่จำหน่ายก็เป็นชิ้นส่วนของงานจัดแสดงในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ได้เช่นเดียวกัน ในสวน(แหนมเนือง)ลับแล จึงปรากฏร่องรอยมากมาย ทั้งบรรยากาศการกินร่วมกันของคนในครอบครัว การชมของจัดแสดงในสวน และการได้รับโอโซนจากธรรมชาติของสวนลับบนถนนกลางเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น