มะม่วงเบาหรือที่คนใต้เรียก ลูกม่วงเบา เป็นมะม่วงลูกเล็กๆ แต่ความเปรี้ยวนี่ขอบอกเลยว่าจี๊ดมากๆ ด้วยความเปรี้ยวจัดนี่แหละจึงถูกนำมาประกอบอาหารหลายชนิด ทั้งคาวและหวาน ของคาวที่ผู้เขียนเคยเห็นคือแกงส้ม น้ำพริก ของหวานนี่ไม่เชิงซะทีเดียว เห็นพ่อค้าแม่ค้า นำมาดอง กับน้ำเชื่อม แล้วเรียกกันว่า “ส้มดอง” เวลาขายจะตักทั้งน้ำที่ดองและเนื้อมะม่วงใสถุงขายกันถุงละ 10-20 บาท ตอนกินจะเอามาเทใส่น้ำแข็ง รสชาติจะเปรี้ยวๆ หวานๆ มีรสเค็มนิดๆ ได้ความเย็นจากน้ำแข็ง กินแล้วสดชื่นดี สำหรับตัวผู้เขียนเองนั้น ไม่ถนัดทั้งของคาวและของหวาน ถ้าได้มาจะผ่าซีก ทำน้ำปลาหวานกินสดๆ ตอนนั้นเลย ด้วยความเปรี้ยวจัดของมะม่วงเบา จิ้มกับน้ำปลาหวานทำเองเน้นหนักกุ้งแห้งฝอย ใช้มะม่วงเบาผ่าครึ่งตัก อืม..บอกได้คำเดียวว่าหร๊อยแรง มาดูวิธีทำปลาหวานสูตรของผู้เขียนเอง ส่วนประกอบมีดังต่อไปนี้ สูตรสำหรับน้ำปลาหวาน 1 ถ้วย 1.พริกสด 10 เม็ดหั่นเล็กๆ 2.กุ้งแห้ง ตามชอบ 3.หอมแดง 10 หัว ซอย 4.กะปิ 5.ผงปรุงรส (จะรสหมู รสไก่ก็ได้) 6.น้ำปลา 7.น้ำตาลปี๊บ,น้ำตาลทราย 8.พริกป่น 9.เกลือ วิธีทำ ตั้งหม้อหรือกะทะ บนไฟอ่อนใส่น้ำตาลปี๊บประมาณ 2 ทับพี หยอดน้ำเปล่านิดนึงกันไหม้ ใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วย หรือ 20 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย ใส่กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส(ผู้เขียนใช้รสไก่) 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ คนให้ส่วนผสมละลายใส่พริกสดหั่นตามด้วยหอมแดงซอย ขั้นตอนนี้อย่าใจร้อน เร่งไฟขึ้นอีกนิดแต่ไม่ถึงกับไฟกลาง เคี่ยวให้น้ำปลาหวานเหนียว อาจใช้เวลานานหน่อย เพราะกว่าน้ำตาลจะเหนียวพอ อย่าเร่งไฟแรงจะทำให้ไหม้เอาได้ ระหว่างนี้ ตักออกมาชิมรสชาติ หวานนำ เค็ม เผ็ด ถ้าเค็มยังไม่พอให้เติมเกลือ ค่อยๆ เติมทีละนิดอย่ารีบใส่เยอะ หากต้องการเผ็ดมากกกว่านี้ก็สามารถเติมพริกป่นลงไปได้ ผงชูรสไม่ต้องใส่ เพราะเราใส่ผงปรุงรสไปแล้ว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เคี่ยวไปจนกว่าน้ำตาลจะหนืดๆ ติดทับพี ปิดไฟ ใส่กุ้งแห้งฝอยลงไปมากน้อยตามชอบ ทิ้งไว้รอให้เย็นตักใส่กระปุกเก็บไว้กินกับมะม่วงเบาหรือเมนูอื่นๆ ได้ตามใจชอบ วิธีชิมน้ำปลาหวานถ้าอยากให้ลงตัวต้องเอามะม่วงมาจิ้มชิมดูว่ารสชาติพอดีหรือเปล่า เคล็ดลับเพิ่มเติม มะม่วงเบาอ่อนผ่าครึ่ง หรือจะหั่นแว่น ตามชอบ แช่น้ำเกลือสัก 5-10 นาที ให้ยางมะม่วงซึมออกมาก่อนนำมารับประทาน จัดใส่จานเสริฟพร้อมน้ำปลาหวานได้เลย . :ภาพประกอบโดยผู้เขียน