วิธีเลือกมะเขือเทศท้อ ลูกสดใหม่ แบบไหนดี น่าซื้อ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ผักสีแดงอย่างมะเขือเทศท้อ เป็นผักที่หลายคนต้องใช้และมีโอกาสต้องเลือกซื้อด้วยตัวเองบ่อยๆ เพราะมะเขือเทศท้อลูกแดงสดใหม่ สามารถทำได้หลายอย่างมาก เช่น หั่นเป็นชิ้นบางพอดีๆ ใส่ในสลัดผัก หรือจะวางแทรกลงไปบนแผ่นขนมปังตอนทำแซนด์วิช มะเขือเทศท้อหั่นเป็นชิ้นบางๆ ยังขาดไม่ได้ถ้าทำยำรสเด็ดต่างๆ ค่ะ ที่จะว่าไปแล้วมะเขือเทศชนิดนี้ยังนำมาหั่นทานสดๆ เป็นผักก็ได้ หรือแม้แต่การทำน้ำมะเขือเทศ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะคะ จะเห็นได้ว่ามะเขือเทศท้อสารพัดประโยชน์มาก ดังนั้นถ้าเรามีความสามารถในการเลือกซื้อมะเขือเทศชนิดลูกสดใหม่ได้แล้วล่ะก็ สิ่งนี้จะช่วยให้การทำอาหารของเรามีคุณภาพมากขึ้นค่ะ เพราะมะเขือเทศท้อลูกสดใหม่ ก็มักมีรสชาติที่ดี หวานและอร่อยตามธรรมชาติ ที่พอนำมาทำเมนูต่างๆ ก็จะทำให้รสชาติอาหารของเราดีขึ้นมาด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้กันว่า มะเขือเทศท้อน่าซื้อมาทำอาหาร ที่สดใหม่และคุณภาพดีเป็นแบบไหน ด้วยการประยุกต์ใช้เคล็ดลับดังต่อไปนี้กันค่ะ 1. ดูสีสัน สีสันของมะเขือเทศลูกท้อเป็นตัวบ่งบอกถึงความสุกและความสดใหม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยทั่วไปแล้วมะเขือเทศลูกท้อที่สุกกำลังดีจะมีสีส้มอมแดงสดใส เปลือกเรียบเนียน ไม่มีรอยช้ำ หรือจุดด่างดำ เพราะรอยด่างดำบนเปลือกอาจเป็นสัญญาณของการเน่าเสียค่ะ มะเขือเทศลูกท้อที่ยังไม่สุก จะมีสีเขียวหรือสีเหลืองอ่อน เปลือกอาจจะยังแข็ง และเนื้อในยังไม่นิ่ม แต่มะเขือเทศลูกท้อที่สุกกำลังดี จะมีสีส้มอมแดง เนื้อในนิ่ม และมีรสชาติหวานอร่อยค่ะ ส่วนมะเขือเทศลูกท้อที่สุกเกินไป จะมีสีแดงเข้มมาก เปลือกอาจจะเริ่มเหี่ยว หรือมีรอยแตก เนื้อในอาจจะนิ่มจนเกินไป และอาจมีรสชาติเปรี้ยวแทน มะเขือเทศลูกท้อที่สุกดี สีจะสม่ำเสมอทั่วทั้งผล เปลือกที่มันวาวบ่งบอกถึงความสดใหม่ 2. สัมผัสความนุ่ม คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ความนิ่มของมะเขือเทศสัมพันธ์โดยตรงกับระดับความสุกของผล การสัมผัสความนิ่มของมะเขือเทศลูกท้อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกซื้อผลไม้ที่สุกกำลังดีได้อย่างแม่นยำค่ะ การสัมผัสช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการซื้อมะเขือเทศที่สุกเกินไปหรือเน่าเสีย โดยหลักการง่ายๆ คือ ถ้ากดเบาๆ แล้วรู้สึกนิ่มมือ แสดงว่ามะเขือเทศลูกท้อสุกกำลังดีและพร้อมรับประทาน ถ้าผลแข็งเกินไป แสดงว่ายังไม่สุกเต็มที่ เนื้อในอาจจะยังแข็ง และรสชาติอาจจะยังไม่หวาน ถ้ากดแล้วผลบุ๋มลงไป แสดงว่าสุกเกินไป เนื้อในอาจจะเละ และอาจมีกลิ่นเปรี้ยว ดังนั้นควรกดตรวจสอบความนิ่มในหลายๆ จุดของผล เพื่อให้ได้ผลการตรวจสอบที่แม่นยำยิ่งขึ้น และลองเปรียบเทียบความนิ่มของมะเขือเทศหลายๆ ลูก เพื่อหาผลที่สุกกำลังดีค่ะ 3. ดมกลิ่น หลายคนยังไม่รู้ว่า กลิ่นหอมหวานจะเพิ่มขึ้นเมื่อมะเขือเทศสุกงอม ดังนั้นกลิ่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของมะเขือเทศลูกท้อค่ะ การดมกลิ่นช่วยให้เราเลือกมะเขือเทศลูกท้อที่มีคุณภาพได้ โดยมะเขือเทศลูกท้อที่สุกกำลังดีจะมีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากกลิ่นของมะเขือเทศที่ยังไม่สุก หรือสุกเกินไป ถ้ามะเขือเทศลูกท้อไม่มีกลิ่นเลย อาจเป็นเพราะยังไม่สุก หรืออาจจะเริ่มเน่าเสียแล้วก็ได้ ถ้ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แสดงว่ามะเขือเทศลูกท้อเน่าเสียแล้ว ไม่ควรนำมารับประทาน 4. สังเกตสภาพแวดล้อม การสังเกตสภาพแวดล้อมที่มะเขือเทศถูกจัดวางขายนั้นสำคัญมาก เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสามารถส่งผลต่อคุณภาพของมะเขือเทศได้ เช่น ทำให้สุกเร็วเกินไป เน่าเสีย หรือเสียรสชาติ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อมะเขือเทศ ลองสังเกตสิ่งเหล่านี้ดูนะคะ อุณหภูมิ: มะเขือเทศควรเก็บในที่เย็น ไม่ร้อนจัด เพราะความร้อนจะเร่งให้มะเขือเทศสุกเร็วขึ้น และอาจทำให้เนื้อนิ่มเละได้ ความชื้น: สภาพแวดล้อมที่ชื้นเกินไปจะทำให้มะเขือเทศเกิดเชื้อราได้ง่าย ควรเลือกซื้อมะเขือเทศที่วางอยู่ในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทสะดวก แสง: การสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงจะทำให้มะเขือเทศสุกเร็วและเสียรสชาติได้ง่าย ควรเลือกซื้อมะเขือเทศที่วางอยู่ในที่ร่ม หรือมีการบังแสงค่ะ ผลไม้อื่น: มะเขือเทศปล่อยก๊าซเอทิลีน ซึ่งเป็นก๊าซที่เร่งการสุกของผลไม้อื่นๆ ดังนั้น หากมะเขือเทศถูกวางไว้ใกล้ผลไม้ชนิดอื่นที่สุกเร็ว เช่น กล้วย แอปเปิล หรืออะโวคาโด มะเขือเทศก็อาจจะสุกเร็วตามไปด้วยนะคะ 5. ดูน้ำหนัก น้ำหนักของมะเขือเทศลูกท้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของผลไม้ได้เป็นอย่างดีค่ะ มะเขือเทศลูกท้อที่น้ำหนักดีมักจะมีเนื้อแน่นและมีน้ำหนักสัมพันธ์กับขนาดของผล เมื่อเปรียบเทียบกับมะเขือเทศลูกท้อที่มีขนาดเท่ากัน แต่มีน้ำหนักเบากว่า จะบ่งบอกได้ว่ามะเขือเทศลูกที่เบากว่าอาจมีเนื้อน้อยกว่า หรืออาจมีความแห้ง หรือมีรอยช้ำภายใน มะเขือเทศลูกท้อที่มีน้ำหนักดีมักจะมีเนื้อแน่น ไม่เละ ไม่ยุบตัวง่าย มะเขือเทศลูกท้อที่มีน้ำหนักดีมักจะมีปริมาณน้ำภายในสูง ทำให้เนื้อฉ่ำและมีรสชาติหวาน มะเขือเทศลูกท้อที่เก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ มักจะมีน้ำหนักดี เนื่องจากยังคงความสดใหม่และมีปริมาณน้ำภายในสูง และวิธีสังเกตน้ำหนักของมะเขือเทศลูกท้อ มีดังนี้ เปรียบเทียบน้ำหนัก: เมื่อเลือกซื้อมะเขือเทศลูกท้อ ควรลองถือลูกที่ต้องการขึ้นมาเปรียบเทียบน้ำหนักกับลูกอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ลูกที่หนักกว่ามักจะมีคุณภาพดีกว่า สัมผัสความแน่น: นอกจากการเปรียบเทียบน้ำหนักแล้ว ควรลองบีบลูกเบาๆ เพื่อสังเกตความแน่นของเนื้อ มะเขือเทศลูกท้อที่น้ำหนักดีจะมีเนื้อแน่น ไม่ยุบตัวง่าย สังเกตขนาด: มะเขือเทศลูกท้อที่มีขนาดใหญ่เกินไป อาจมีโอกาสที่ภายในจะเน่าเสียได้ง่ายกว่าผลที่มีขนาดกลางค่ะ 6. ดูขั้ว ขั้วมะเขือเทศลูกท้อ นั้นเปรียบเสมือน "สะดือ" ของผักชนิดนี้เลยค่ะ เพราะขั้วจะเชื่อมต่อกับต้นและเป็นส่วนที่หล่อเลี้ยงมะเขือเทศ ดังนั้นสภาพของขั้วจึงบ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของมะเขือเทศได้เป็นอย่างดี โดยขั้วมะเขือเทศที่สดใหม่มีลักษณะ ดังนี้ สีเขียวสด: ขั้วที่ยังคงสีเขียวสดใสบ่งบอกว่ามะเขือเทศเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังคงความสดอยู่ ติดแน่น: ขั้วควรติดแน่นกับผล ไม่หลุดง่าย หากดึงขั้วแล้วหลุดออกมามากเกินไป แสดงว่ามะเขือเทศอาจถูกเก็บไว้นานเกินไป หรืออาจถูกกระแทกจนขั้วหลุด ไม่มีรอยช้ำ: ขั้วควรไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่างดำ ซึ่งเป็นสัญญาณของการเน่าเสียค่ะ 7. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อมะเขือเทศจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เราได้มะเขือเทศที่มีคุณภาพ สดใหม่ ปลอดภัย และมีรสชาติอร่อย นอกจากการสังเกตลักษณะภายนอกของมะเขือเทศแล้ว การเลือกแหล่งซื้อที่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะผลผลิตจากแหล่งที่น่าเชื่อถือมักจะถูกเก็บเกี่ยวและส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มะเขือเทศยังคงความสดใหม่ แหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานจะมีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว ทำให้มะเขือเทศที่ได้มีขนาดสม่ำเสมอ รูปร่างสวยงาม และรสชาติอร่อย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่ได้มาตรฐานจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้มั่นใจได้ว่าปราศจากสารเคมีตกค้าง และการเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือจะช่วยสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตโดยตรง ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชนค่ะ และแหล่งที่น่าเชื่อถือในการเลือกซื้อมะเขือเทศ เช่น ตลาดสด: ตลาดสดเป็นแหล่งรวมผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย โดยเฉพาะมะเขือเทศสดใหม่จากสวน ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเลือกซื้อได้โดยตรงจากเกษตรกรผู้ปลูกค่ะ ฟาร์มที่ปลูกเอง: การซื้อมะเขือเทศจากฟาร์มที่ปลูกเอง จะทำให้คุณผู้อ่านรู้ที่มาของมะเขือเทศ และมั่นใจได้ว่ามะเขือเทศนั้นปลอดสารเคมี ร้านค้าที่ได้มาตรฐาน: ร้านค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น GMP HACCP จะมีระบบการควบคุมคุณภาพที่ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่วางขายมีความปลอดภัยและสดใหม่นะคะ ตลาดนัดเกษตรกร: ตลาดนัดเกษตรกรเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คุณผู้อ่านสามารถพบกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสดใหม่จากเกษตรกรโดยตรงค่ะ 8. ซื้อทีละน้อย การซื้อมะเขือเทศทีละน้อยเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติของมะเขือเทศที่สดใหม่ได้เสมอค่ะโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณผู้อ่านไม่มั่นใจว่าจะสามารถบริโภคมะเขือเทศทั้งหมดได้ทันก่อนที่มันจะเสีย เนื่องจากมะเขือเทศเป็นผักที่ค่อนข้างบอบบาง การซื้อทีละน้อยจะช่วยลดโอกาสที่มะเขือเทศจะเสียหายหรือเน่าเสียระหว่างการเก็บรักษา การซื้อในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดปริมาณของเสียอาหาร เพราะมั่นใจได้ว่าจะนำมะเขือเทศไปใช้ประโยชน์ได้หมดก่อนที่มันจะเสียค่ะ ตลอดจนการซื้อทีละน้อยบ่อยครั้งจะทำให้คุณผู้อ่านได้ลองทานมะเขือเทศหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันนะคะ โดยเคล็ดลับในการซื้อมะเขือเทศทีละน้อย ได้แก่ วางแผนการใช้งาน: ก่อนไปซื้อมะเขือเทศ ลองวางแผนเมนูอาหารที่ต้องการทำ เพื่อประเมินปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งาน เลือกซื้อบ่อยๆ: แทนที่จะซื้อมะเขือเทศจำนวนมากครั้งเดียว ลองแบ่งซื้อเป็นครั้งละน้อยๆ เพื่อให้ได้มะเขือเทศที่สดใหม่เสมอ เก็บรักษาอย่างถูกวิธี: แม้จะซื้อมะเขือเทศในปริมาณน้อย แต่การเก็บรักษาที่ถูกวิธีก็ยังคงมีความสำคัญ ควรเก็บมะเขือเทศไว้ในที่เย็นและแห้ง หลีกเลี่ยงการวางไว้ใกล้ผลไม้ชนิดอื่นที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน ก็จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับดีๆ ที่ผู้เขียนต้องการฝากเอาไว้ในบทความนี้ เป็นยังไงบ้างคะ พอจะมองเห็นภาพกันแล้วใช่ไหม ซึ่งเคล็ดลับที่ว่าหลายข้อนั้น ผู้เขียนก็ได้นำมาใช้ในชีวิตจริงตอนไปซื้อมะเขือเทศท้อเหมือนกันค่ะ โดยการเลือกซื้อจากชาวสวนโดยตรงมักเป็นสิ่งที่ผู้เขียนจะเลือก หากพบว่าตอนนั้นมีคนที่ปลูกมะเขือเทศท้อได้เองนำมาขาย แต่ถ้าไปตลาดมักเลือกมะเขือเทศท้อจากการดูสีสันก่อนค่ะ จากนั้นจะกดดูความแน่นอน และชอบเลือกเพราะจะดูเรื่องของน้ำหนักมะเขือเทศค่ะ ยังไงนั้นทุกคนก็สามารถนำเคล็ดลับแบบที่ผู้เขียนได้ใช้และข้ออื่นๆ ไปใช้ได้นะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Pixabay จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/y6JRKvPKJMV6 https://food.trueid.net/detail/lX5RO3vZ5nw6 https://food.trueid.net/detail/PN7Z2m8L2LaM เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !