ตามนั้นเลยค่ะ จากขนมนึ่ง เรามาแปรรูปให้เป็นขนมทอด กินตอนร้อน ๆ อร่อย ๆ กันค่ะ ทำไม่ยาก ลองทำตามได้เลย ขนมเข่งทอด หรือ "ตีก้วย" ทอด ชื่อภาษาจีนของของกินเล่นจานนี้ เริ่มแรกเราต้องมี ขนมเข่ง จะเข่งเล็ก เข่งใหญ่ก็ได้ค่ะ ผู้เขียนมีขนมเข่งจาก วันสารทจีน เหลือค้างอยู่ในตู้เย็นหนึ่งเข่ง เลยจะขอเอามาทอดกินให้หายคิดถึงความสุขและความสนุกในวัยเด็กสักหน่อยค่ะ นอกจากขนมเข่ง เราก็ต้องมี ไข่ไก่สด หนึ่งฟอง แป้งข้าวเจ้า นิดหน่อย สักหนึ่งช้อนโต๊ะก็พอ และ เกลือ อีกนิด แค่ติดปลายช้อน ที่เราใส่เกลือเพื่อให้แป้งทอดของเรามีรสปะแล่ม ๆ ตัดรสหวานของขนมเข่ง และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำมัน สำหรับทอด ลงมือทำกัน นำขนมเข่งที่แห้ง แข็ง เย็นชืด ออกมาจากตู้เย็น แกะออกจากกระทงใบตองแห้ง หั่นเป็นชิ้น ๆ บาง ๆ ผู้เขียนหั่นได้ราว 9 ชิ้นค่ะ จากนั้น ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย เติมแป้งข้าวเจ้า และเกลือลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันดี จากนั้น นำขนมเข่งที่หั่นแล้วลงไปชุบ รอทอดได้เลย คราวนี้ เราก็หันมา ตั้งเตา เปิดไฟ ใส่ น้ำมัน ลงไป พอน้ำมันร้อนดีแล้ว ก็นำขนมเข่งชุบไข่และแป้งลงไปทอดให้ สุกเหลืองทั้งสองข้าง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ได้เวลาฟินกินอร่อยกัน เตรียมน้ำดื่ม อาจเป็น ชาจีนร้อน ไว้กินแกล้มกับขนมเข่งทอดของเราก็ได้ เท่านี้ ก็ได้ของว่างยามบ่าย เพิ่มพลัง ให้มีแรงทำงานต่อได้สบาย ๆ แล้วค่ะ ขนมเข่งทอด เป็นขนมที่ให้ พลังงาน เยอะ ฉะนั้น อย่า กินมากนะคะ นี่ผู้เขียนก็ต้องเตือนตัวเองเหมือนกัน เพราะของทอด มัก "อร่อย" ไม่รู้เป็นอย่างไร ? ? ถ้ามีมากแค่ไหน ก็กินเท่านั้น ส่งเข้าปากจนกว่าจะหมดถ้วย หมดชามกันทีเดียว เมื่อครั้งที่ผู้เขียนยังเด็ก เวลามีเทศกาลวันไหว้ต่าง ๆ หนึ่งในความสนุกคือ การได้เป็นลูกมือให้ อาม่า ช่วยทำขนม โดยเฉพาะขนมเข่งนี่แหละค่ะ ผู้เขียนจำได้ อาม่าจะตั้งหม้อใบใหญ่ เทแป้งข้าวเหนียวลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า และน้ำตาลทราย จากนั้น อาม่าก็จะเรียกหลานอย่างผู้เขียนและลูกพี่ลูกน้องคนอื่น มานั่งล้อมวงหม้อใหญ่ใบนี้ ให้จ้วงมือลงไป “กวนแป้ง น้ำและ น้ำตาลทรายให้ละลาย กวนจนหมดเม็ดทราย จนน้ำตาลเนียนกลืนกันดีกับแป้งขาว ๆ แล้วค่อยเรียกอาม่านะ” อาม่าว่าอย่างนั้น พอให้หลาน ๆ ได้มีอะไรทำแก้ซนไม่กวนอาม่า อาม่าก็จะได้มีเวลาไปทำกับข้าวอื่น ๆ เตรียมไหว้ต่อไป ผู้เขียนก็สนุก กวนมือในหม้อใบใหญ่กับญาติที่อายุใกล้กัน สองมือของผู้เขียนเลอะเหนียวหนืดไปด้วยน้ำ แป้งและน้ำตาล สนุกกันสักครึ่งชั่วโมง จับสัมผัสไม่เหลือเม็ดทรายแล้ว ก็ได้เวลาลุกไปล้างมือแล้วมาสนุกกับขั้นตอนต่อไป คือ ตักแป้งนี้ใส่ในกระทงใบตองแห้ง ที่มีเข่งไม้ไผ่สานอยู่ด้านนอกอีกที ตัวกระทงนี้จะต้องเช็ดให้สะอาดแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ก่อนตักแป้งหยอดลงไปจนเกือบเต็มกระทง แล้วนำไปวางเรียงบนซึ้ง ก่อนให้อาม่า ยกไปนึ่งบนเตาถ่านที่ติดไฟแดง ๆ ร้อนแรง รอท่าอยู่ หลังนึ่งเสร็จ พักขนมให้เย็นดีแล้ว ก็เป็นเวลาสนุกอีกรอบ เด็ก ๆ จะนั่งหน้าสลอน ถือก้านธูปคนละอัน แล้วค่อย ๆ จุ่มก้านธูปลงไปในถ้วยที่มีสีผสมอาหารสีแดงรออยู่ แล้วนำไป ปักจุด บนขนมเข่ง ปักให้ได้ระยะกลางกระทง เป็นอันสวยงาม พร้อมนำขนมไปจัดใส่จาน เตรียมไหว้ได้เลย ขนมเข่งที่ทำไว้มากมายนับร้อย ๆ คู่ หลังวันสารท จะถูกกินแบบนึ่งแค่ส่วนหนึ่ง เพราะของกินในเทศกาลวันไหว้มักมีมากมายหลายอย่าง และขนมเข่งนึ่ง ถือว่า สามัญที่สุด ผู้เขียนก็เลือกกินอย่างอื่นก่อนเช่นกัน ทำให้เป็นขนมที่มักถูกทิ้งไว้จนลืมจนต้องมีการคิดสร้างสรรค์แปลงร่างมาทำกินกันแบบใหม่ เพื่อไม่ให้เสียของ เป็นธรรมเนียมปฎิบัติในบ้านของผู้เขียนค่ะ ซึ่งคงไม่ต่างจากบ้านจีนบ้านอื่น ๆ เขียนไว้ขณะฟินกินขนมเข่งทอด ^____^ 7 กันยายน 2564 #kamon #TrueIDIntrend #Food #อาหารการกิน #ขนมเข่ง #ตีก้วยทอด #ทำกินฟินกันไป #อร่อยหลังสารทจีน #แปลงร่างของไหว้เป็นของอร่อย #MyOnlineDiary ภาพปกและภาพประกอบ โดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !