ปกติเรามักเคยเห็นร้านอาหารป่าตามจังหวัดนครปฐม, ราชบุรี และกาญจนบุรี แต่ใครจะไปคิดว่ากรุงเทพฯ ก็มีร้านอาหารป่ากับเขาเหมือนกัน! วันนี้เราเลยจะมารีวิวร้าน “ปลาแม่น้ำ” ย่านเอกชัย ในเขตพระราม 2 มาให้ทุกคนได้ลองแวะเข้ามาชิมกัน ว่าแต่ร้านนี้จะมีอะไรเด็ด ๆ กันบ้างนั้น เราตามมากิน เอ้ย!!! ตามมาดูกันดีกว่า!บรรยากาศภายในร้าน ร้าน “ปลาแม่น้ำ” เป็นร้านอาหารป่าที่ตั้งอยู่ในซอยเอกชัย 131 เขตบางบอน หากใครตั้งใจเดินทางมากินร้านนี้ให้ขับเข้าทางลัดบนถนนพระราม 2 ซอย 100 มาได้เลย ซึ่งร้านจะเป็นบ้านไม้ทรงไทยโบราณขนาดใหญ่พอตัวเหมือนกัน ก่อนเข้าไปหาโต๊ะ-ที่นั่งภายในร้าน ฝั่งซ้ายมือด้านหน้าจะเป็นโรงครัว มีตู้แช่เย็นแบบกระจกสำหรับแช่พวกเนื้อสัตว์สำหรับทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่, เนื้อหมูป่า, ปลา, กบ รวมถึงผักต่าง ๆ เมื่อเข้าไปในร้าน บรรยากาศภายในร้านจะเป็นสไตล์บ้าน ๆ สบาย ๆ แบบเปิดโล่งปลอดโปร่งและดูมืด ๆ ทึม ๆ หน่อย ส่วนโต๊ะ-ที่นั่งเป็นแบบไม้ทั้งหมด มีประมาณ 20 กว่าโต๊ะ ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้ค่อนข้างเยอะ ราว ๆ 100 ที่นั่ง แต่ลูกค้าส่วนมากที่มากินนั้นจะเป็นครอบครัวพามากินซะมากกว่าค่ะเมนูอาหารของร้าน ด้วยความที่ร้านอาหารร้านนี้ชื่อว่าร้าน “ปลาแม่น้ำ” ดังนั้นเมนูส่วนใหญ่ของร้านจะเป็นอาหารป่าที่ทำจากเนื้อปลาเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นปลาบึก, ปลาคัง, ปลาช่อน, ปลาม้า, ปลากะพง, ปลาเค้า, ปลาเนื้ออ่อน, ปลาเบี้ยว, ปลาน้ำเงิน, ปลากด, ปลาไหล, ปลาเนื้ออ่อนเล็ก, ปลารากกล้วย และเชิงปลากราย อีกทั้งยังมีเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ๆ ที่นำมาทำเป็นอาหารป่าแล้วรสชาติอร่อยไม่แพ้กัน อย่างเช่น กวาง, กบ, หมูป่า, ไก่, กุ้ง/ปลาหมึก, หอยขม และนก ส่วนใครที่กินอาหารป่าหรืออาหารรสเผ็ดจัดจ้านไม่เก่ง ไม่ต้องกลัวไป เพราะทางร้านยังมีเมนูอาหารประเภทอื่น ๆ อย่างเมนูประเภทผัก (ใส่กุ้ง หมูกรอบ ผัดน้ำมันหอย), ไข่, ข้าวผัด (หมู, ปลาหมึก, กุ้ง) และทอดมันค่ะ ส่วนเมนูเด็ดของร้านปลาแม่น้ำมีหลากหลายเมนูด้วยกัน ได้แก่ ปลากะพงสามรส, ปลากะพงราดพริก, ทอดมัน, กบทอด, ปลาคังลวก, ปลาเนื้ออ่อนฉู่ฉี่, ผัดเผ็ดกบ, กะเพรากบ, ปลาเนื้ออ่อนเล็กทอด, ผักยอดมะระ, แขนง, ผักรวม, แกงป่าไก่, กวางผัดพริกไทยดำ, ปลาบึกผัดฉ่า และต้มยำปลาบึก ซึ่งราคาอาหารถือว่าไม่แรงมากนัก อยู่ในราคาที่พอรับได้ เพราะอาหารแต่ละเมนูเป็นจานใหญ่ เหมาะสมกับราคา ที่สำคัญร้านคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นดี โดยเฉพาะปลาที่สดใหม่และไม่มีกลิ่นเหม็นคาว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการบริการของร้าน ส่วนใหญ่จะเน้นการบริการตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการจดสั่งรายการอาหาร, เตรียมช้อนส้อม จาน, แก้วน้ำ, น้ำแข็ง และน้ำดื่ม สามารถลุกขึ้นมาหยิบเองได้เลย แต่เรื่องการเสิร์ฟอาหาร ถือว่าอาหารเสิร์ฟมาค่อนข้างเร็ว รอไม่นานค่ะรายการอาหารที่สั่ง1. ผัดฉ่าหอยขม (ราคา 180 บาท) ทางร้านจะนำหอยขมที่ต้มสุกแกะออกจากเปลือกแล้วมาผัดกับพืชสมุนไพรหลากชนิด โดยใช้ไฟแรงกว่าผัดธรรมดาทั่วไป ทำให้คนที่อยู่ในครัวและใกล้ครัวจามไปตามกัน ส่วนหอยขมเวลาเคี้ยวจะได้ยินเสียงกรุบ ๆ ส่วนรสชาติโดยรวมถือว่าเผ็ดจัดจ้าน อร่อยเลยค่ะ2. กะเพรากบ (ราคา 200 บาท) ทางร้านจะนำเนื้อกบมาผัดกับใบกะเพราและพริก หากดูภายนอกเนื้อกบจะคล้ายเนื้อไก่ แต่ต่างกันตรงที่เนื้อกบจะแน่นกว่า กระดูกเยอะกว่า เมื่อนำมาผัด เนื้อกบจะไม่เหนียวหรือเละ เวลาเคี้ยวจะสนุกกว่าเพลินกว่า ยิ่งเป็นกระดูกจะได้ยินเสียงเคี้ยวกรุบ ๆ ส่วนรสชาติโดยรวมถือว่าผัดได้เผ็ดจัดจ้านถึงใจมากกว่าเนื้อไก่ค่ะ3. ต้มยำไก่ (ราคา 160 บาท) ปกติเรามักจะสั่งพวกต้มยำน้ำใส อย่างต้มยำกุ้ง, ต้มยำปลา หรือโป๊ะแตก แต่มาคราวนี้แม่สั่งต้มยำไก่ เราก็แอบเซ็งนิดหนึ่ง เพราะคิดว่าเนื้อไก่ไม่น่าจะมีรสชาติเข้ากับต้มยำหรือน้ำซุปได้ ประกอบกับเราอคติพวกน้ำซุปต้มไก่ที่ออกเหลืองใส ๆ แต่พอลองชิมต้มยำไก่ของร้าน เออ! รสชาติก็เข้ากันดีแฮะ อร่อยพอ ๆ กับต้มยำน้ำใสที่เรากินประจำ หากถามว่าชอบมั้ย? เราเฉย ๆ นะ ยังไงเราก็ชอบต้มยำกุ้งกับต้มยำปลาอยู่ดีค่ะ ยิ่งไม่ชอบและขี้เกียจแทะกระดูก แอบเรื่องมากกับเมนูนี้นิดหนึ่ง 5554. ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (ราคา 320 บาท) ปลาเนื้ออ่อนของร้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าร้านอื่นที่เคยกินมา เนื้อหวานสดกำลังดี ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว ที่สำคัญเนื้อนุ่มมากสมกับชื่อปลาเลย ส่วนเครื่องแกงฉู่ฉี่นั้น ทางร้านจะใช้กะทิที่มาจากมะพร้าวจริง ๆ ทำให้กะทิมีกลิ่นหอม เข้มข้น และตัดกับรสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งรสชาติโดยรวมถือว่านัวมาก กลมกล่อมกำลังดี เรียกได้ว่าไม่มีรสไหนที่โดดขึ้นมา อร่อยสุด ๆ ค่ะ5. ปลากะพงสามรส (ราคา 260 บาท) เราขอแนะนำเลยว่าใครแวะมากินร้านนี้ต้องสั่ง “ปลากะพงสามรส” เลย ซึ่งเนื้อปลาของเขาอร่อยมาก ยิ่งได้กินแบบติดหนังด้วยแล้วล่ะก็...ฟินสุด เพราะทางร้านจะทอดปลากะพงแบบกรอบนอกนุ่มใน ส่วนน้ำราดที่ราดบนตัวปลาก็จะคล้ายกับน้ำซอสราดพริก แต่จะต่างกันตรงที่น้ำปลาสามรสจะมีทั้ง 3 รสชาติคือ รสเปรี้ยว, เค็ม และหวาน ขณะที่น้ำปลาราดพริกจะมีรสชาติเผ็ดนำแบบน้ำจิ้มไก่ รสชาติโดยรวมของเมนูนี้คือกลมกล่อม อร่อยสุด ๆ ประทับใจมากค่ะ สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ชอบกินอาหารป่า แต่ไม่อยากขับรถไปไหนไกลก็ลองแวะมากินที่ร้านอาหาร “ปลาแม่น้ำ” กันได้ เพราะนอกจากจะมีเมนูอาหารป่าที่ทำจากเนื้อปลาให้เลือกกินหลายเมนูแล้ว ปลาส่วนใหญ่ก็ยังสดใหม่ ไม่มีกลิ่นเหม็นคาวอีกด้วยค่ะ ปักหมุดได้ที่: 145 ถนนพรมเเดน แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150 (เอกชัย 131 ลัดเข้าถนนพระราม 2 ซอย 100)GPS: https://goo.gl/maps/cFhPrdTxCceRys8a7โทร: 02-892-3499, 089-016-0759เปิด: ทุกวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น. (ร้านหยุดทุกวันจันทร์)เมนูเด็ด: ปลากะพงสามรส, ปลากะพงราดพริก, ทอดมัน, กบทอด, ปลาคังลวก, ปลาเนื้ออ่อนฉู่ฉี่, ผัดเผ็ดกบ, กะเพรากบ, ปลาเนื้ออ่อนเล็กทอด, ผักยอดมะระ, แขนง, ผักรวม, แกงป่าไก่, กวางผัดพริกไทยดำ, ปลาบึกผัดฉ่า และต้มยำปลาบึก ออกแบบหน้าปกใน Canva โดย: Windy_55 (ผู้เขียน)เครดิตภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย: Windy_55 (ผู้เขียน)ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป