ในท่ามกลางคาเฟ่ ร้านกาแฟมากมายในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพ การจะเปิดคาเฟ่แล้วปัง คือ ได้ยืนอยู่ในจุดที่ได้รับการยอมรับและมั่นคงได้ การสร้างจุดเด่นให้ร้านแตกต่างจากร้านอื่นๆ ถือว่าสำคัญมาก ทั้งเรื่องคุณภาพ รสชาติ บรรยากาศ และความคิดสร้างสรรค์ สำคัญทั้งหมด สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางกรุงเทพ ก็มีคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ทั้งหมด และมีมากถึง 3 ร้าน 1. Brave Roasters (เบรฟ โรสเตอร์ส) | ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ร้านกาแฟบรรยากาศปังที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของสยามดิสคัพเวอรี่ Brave Roasters โดดเด่นด้วยกระจกใส มองเห็นบรรยากาศสยาม แต่เงียบสงบไม่วุ่นวาย มีส่วนด้านนอกเป็นระเบียงนั่งรับลมได้ด้วย เมนูเครื่องดื่มที่ลองแล้วประทับใจ ปังที่สุด จนขอแนะนำ ก็คือ เมนู Signature อย่าง Salted Caramel Latte ลาเต้รสชาติกลมกล่อมจากซอลท์เต๊ดคาราเมลเข้มข้นที่ช่วยทำให้ประสบการณ์การดื่มลาเต้แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ใด และ Lavender Honey Lemon เอกลักษณ์เฉพาะของร้าน เมนูสร้างสรรค์ใหม่ที่มีให้ชิมแค่ที่ Brave Roasters เท่านั้น ซึ่งทางร้านก็ยังมีเมนูขนมอร่อยๆ หน้าตาน่ารัก เหมาะกับการถ่ายรูปอีกหลายชนิด อีก 1 ความปัง คือ การเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนในร้านได้มีส่วนร่วมในการออกแบบเมนูใหม่ตามแต่ละฤดูกาลผ่านโจทย์ที่น่าตื่นเต้น แล้วนำมาพัฒนาเพื่อให้พร้อมต่อนักดื่มสำหรับการทดลองประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งทางร้านก็เตรียมจะเปิดเมนูเครื่องดื่มใหม่ในเดือนสิงหาคม คือ Apple Crumble 2. Red Diamond (เรด ไดมอนด์) | ชั้น G สยามดิสคัพเวอรี่ ร้านกาแฟระดับโปร ความปังแรก คือความพิถีพิถัน การสร้างสรรค์เมนู รวมถึงเมล็ดพันธุ์พิเศษที่นำเข้ามาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก มีการสร้างสรรค์เมล็ด เฮ้าส์ เบลนด์ ของตนเอง อย่าง เรดไดมอนด์ แบล็กไดมอนด์ ก็อดฟาเธอร์ และ โอล์ดสคูล เรียงลำดับตามระดับการคั่วจากแบบอ่อนไปจนถึงแบบเข้ม เมนูปังที่สุดที่ควรชิม คือ อเมริกาโน่ (Americano) และ ลาเต้ (Latte) ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ที่สามารถเพิ่มรสชาติของเมนูให้มีความน่าสนใจด้วยการเลือกเมล็ดกาแฟได้ตามใจชอบ รวมถึงเมนูกาแฟดริป ที่ดริปให้ชมกันตรงหน้า พร้อมกับสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความรักในกาแฟกับน้องๆ บาริสต้าที่อัธยาศัยดี ความรู้แน่นทุกคน ซึ่งทางร้านก็มีเมนูกาแฟแบบ Cold Brew ให้ซื้อกลับบ้านได้ด้วย รสชาติแน่น หอม สุดปัง นอกจากอรรถรสในการพูดคุยแล้ว ความใส่ใจของ Red Diamond ยังลงรายละเอียดไปถึงการออกแบบสถานที่แบบ Open Bar บรรยากาศแบบหนักแน่น และเพลงที่เปิดในร้านก็เป็นจังหวะหนักทำให้บรรยากาศหนักแน่นขึ้นไปอีก 3. Pour Over Lab | ชั้น 1 สยามดิสคัพเวอรี่ สะดุดตาความปังตั้งแต่การออกแบบร้าน นำความเป็นวิทยาศาสตร์แบบห้องแล็ปมาใช้กับร้านกาแฟ อุปกรณ์ชงกาแฟสุดล้ำ คล้ายห้องทดลองงานวิจัย ทุกเมนูจะถูกสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันให้กับผู้ดื่มรวมถึงการวัดอุณหภูมิกับทุกแก้วก่อนนำเสิร์ฟเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ดื่มจะได้รับรสชาติที่ถูกต้องทุกแก้ว ที่นี่ไม่มีบาริสต้า แต่ผู้สร้างสรรค์กาแฟทุกแก้ว คือ Coffee Professional (คอฟฟี่ โปรเฟสชันนอล) ทุกคนจะต้องผ่านการเทรนไม่ต่ำกว่า 6 เดือนและสอบเพื่อให้ผ่านการรับรองก่อนจะมาบริการ หลังผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการต่างๆ ในช่วงโควิด-19 เริ่มซา บรรยากาศการออกมานั่งดื่มกาแฟ หรือ ทำงานในคาเฟ่ก็เริ่มกลับมาอีกครั้งภายใต้มาตรการควบคุมทางสาธารณสุข ซึ่งเอกลักษณ์สุดปัง ของคาเฟ่ทั้ง 3 แห่งนี้ รอให้ทุกคนได้มาสัมผัสกันอยู่ ทุกร้านราคาไม่แพงอย่างที่คิด แม้จะไม่มีความรู้เรื่องกาแฟ ก็รับรองว่าแฮปปี้เอนจอย หรือไม่ชอบกาแฟ ก็มีเมนูนอนคอฟฟี่ให้เลือกมากมาย อยากเปิดประสบการณ์คาเฟ่แบบปังๆ ก็มาเจอกันที่สยามดิสคัพเวอรี่ ทุกวันเวลา 10.00-22.00 น. ติดตามรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/siamdiscovery/ และ Instagram: @siamdiscovery เรื่องและภาพโดย: Sandtar