ตั้งชื่อเปิดประเด็นแบบนี้ไม่ได้พูดโอเวอร์แต่ประการใด แต่มันมีเรื่องราวที่เรียกว่าตำนานของ “น้ำพริกอินเดีย” และเชื่อว่าทุกท่านหารับประทานที่ไหนไม่ได้นอกจากบ้านผู้เขียน ต้องย้อนเวลาไปช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกคนคงทราบกันดีว่าได้มีการเกณฑ์เชลยศึกจากประเทศต่าง ๆ มาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ทั้งฝรั่ง แขก เป็นช่วงเวลาสมัยตากับยายยังมีชีวิตอยู่ การสร้างสะพานดำเนินไปอย่างยากลำบาก และโหดร้าย เชลยหลายคนพยายามหนีเอาตัวรอด ถูกจับได้ก็เยอะ ตายระหว่างทางก็มาก ขณะนั้นคุณตาทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน วันหนึ่งมีเชลยศึกชาวอินเดียหนีตายเข้ามาในหมู่บ้าน ด้วยความใจดีของคุณตาจึงพาไปหลบที่บ้าน ทั้งสองท่าทางหิวโซและผอมแห้ง ข้าวปลาก็กินกันอย่างยัดทะนาน หุงเท่าไหร่ก็ไม่พอสร้างความเดือดร้อนให้คุณยายซึ่งขณะนั้นตั้งท้องแม่ผู้เขียนด้วย ประกอบกับอารมณ์คนท้องทำให้คุณยายรู้สึกเหม็นกลิ่นกายแขกทั้งสองเป็นอันมาก จะออกปากไล่รึก็ดูแล้งน้ำใจ ไคลแม็กซ์มันอยู่ตรงนี้แหละครับ อุบายไล่แขกแบบเนียน ๆ จึงเริ่มขึ้น วันนั้นยายจึงเตรียมขั้นตอน "น้ำพริกไล่แขก" ซึ่งประกอบด้วย พริกคั่วจนมีกลิ่นหอมป่นยิ่งละเอียด ยิ่งเผ็ดยิ่งดี (เพราะสูตรนี้ต้องการความจัดจ้านแบบลืมตาย) มะขามเปียก น้ำปลา มะเขือเทศ หอมแดงซอย วิธีการ ได้ของครบยายจึงจัดการขยำ ๆ ลงในถ้วยจนส่วนผสมเข้ากัน (ถ้าผู้อ่านตำด้วยครกก็ไม่ผิดกติกา) ใส่พริกป่นให้หนักมือจนเผ็ดสุด ๆ โรยด้วยหอมแดงซอยและมะเขือเทศ ตั้งใจว่าเจ้าแขกทั้งสองได้กินแล้วจะต้องเผ่นหนีเป็นแน่ แล้วก็เป็นไปตามคาด สองแขกเผ็ดกันจนหูดับ แต่ทว่า “อาโหร่ยย...อินี่เรียกอาราย” นั่นคือเสียงตอบรับจากอาบังที่ให้ผลตรงกันข้าม คุณยายเลิ่กลั่กเพราะตอนทำดันลืมตั้งชื่อน้ำพริกนี้ไว้ “เอ่อ...น้ำพริกอินเดียน่ะ” มันคือชื่อที่คิดสด ๆ ขณะนั้น โดยที่ยายไม่เคยรู้เลยว่ามันจะเป็นเมนูระดับตำนานของบ้าน ที่สุดเมื่อแผนไม่ได้ผลจึงต้องทนเบื่อแขกต่อไป แถมความเกลียดขี้หน้าแขกยังส่งผลมาถึงแม่ผู้เขียน ไม่รู้ทุกท่านจะเชื่อหรือเคยได้ยินไหมว่า “ตอนท้องห้ามเกลียดหรือติใครไม่อย่างนั้นลูกที่ออกมาจะเหมือนเช่นนั้นเปี๊ยบ” ก็แม่ผู้เขียนนะสิคลอดออกมาหน้าตาเหมือนแขกถึงขนาดตอนสาว ๆ โดนทักผิดบ่อย ๆ (แม้แต่ตอนนี้ตำรวจก็มักจะเรียกถามว่าคนไทยรึเปล่าตลอด) ส่วนถ้าจะถามว่าเจ้า “น้ำพริกอินเดีย”อร่อยขนาดไหน พริกที่คั่วใหม่ ๆ จะโชยหอมยั่วน้ำลาย ผสมกับมะขามเปียกให้รสเปรี้ยวหวาน มีมะเขือเทศกับหอมแดงยิ่งทำให้ถ้วยนี้กลมกล่อม บอกเลยว่าทุกครั้งที่มีเพื่อนมาเที่ยวบ้าน รวมทั้งสมัยตอนทำโฮมสเตย์ ฝรั่งชิมยังซี๊ดปาก เพื่อนจากกรุงเทพฯ และสุราษฎร์ธานี ต่างบอกอยากกลับมาชิมอีก โดยเฉพาะได้กินกับข้าวร้อน ๆ โปะไข่เจียวหอม ๆ มีกากหมูแกล้มยอดมะกอกเด็ดใหม่ ๆ แตงกวาสด ฟินกว่าน้ำปลาพริกอยู่หลายขุม และทุกครั้งเวลาเพื่อน ๆ ชิมผู้เขียนก็มักจะเล่าประวัติ น้ำพริกอินเดียสำทับไปด้วยเพิ่มความขลัง ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน