KFC SO GOOD คุณเริ่มกินเคเอฟซีกันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ? เราเป็นเด็กบ้านนอก เข้ามาเรียนในกรุงเทพช่วงประมาณอนุบาลสาม อาหารเมื้อแรกที่แม่ต้อนรับเราในการเข้ามาเรียนกรุงเทพคือ เคเอฟซี แม่เล่าว่าพอเราได้กินก็ไม่ยอมแบ่งใครเลย และหลังจากวันนั้นแม่เราจะพาเราไปกินเคเอฟซีทุกเดือน วันวันเงินเดือนออก เป็นเหมือนวันสำคัญที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกันในทุก ๆ เดือน เราชอบความรู้สึกนั้นมาก เพราะนอกจากที่เราจะได้กินไก่ทอดที่เราชอบแล้ว ยังได้อยู่กับคนที่เรารักอีกด้วย เราไม่ได้กินเคเอฟซีมานานหลายเดือนแล้ว อยู่ ๆ ก็คิดถึงรสชาติและบรรยากาศของร้าน บวกกับที่ว่ามีร้านเคเอฟซีมาเปิดใหม่หน้าซอยรัชดา 36 ร้านจะตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันพีที สาขาศาลอาญารัชดา เท่าที่เราจำได้เป็นร้านใหม่แกะกล่อง เปิดมาได้แค่ 2 เดือน เพื่อนเราที่ไปลองกินอาหารที่เคเอฟซีสาขานี้พูดเป็นเสียงเดียวกันทุกคนว่า ร้านสวย แอร์ฉ่ำ บริการดี... 📍 ปักหมุดความอร่อย เคเอฟซี สาขา ปั๊มน้ำมันพีที สาขาศาลอาญารัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ความพิเศษของเคเอฟซีร้านนี้คือร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง การตกแต่งร้าน และการบริการอย่างครบวงจรไว้คอยบริการลูกค้าจึงทำให้ร้านนี้ต่างไปจากร้านเคเอฟซีสาขาอื่น ๆ ที่เราเคยไปกินอาหารมา แผนที่ของร้านเคเอฟซี สาขา ปั๊มน้ำมันพีที สาขาศาลอาญารัชดา บริเวณหน้าร้าน บริเวณหน้าร้านกว้างขวาง สามารถจอดรถได้หลายคัน มีบริการสั่งกลับบ้านแบบไดร์ฟทรู สะดวกสบายทั้งคนที่มานั่งทานที่ร้าน และคนที่จะสั่งกลับไปทานที่บ้าน ส่วนใครที่ปวดท้องถ่ายหนัก ถ่ายเบา สามารถเข้าไปใช้บริการของห้องน้ำปั๊มได้ รับรองว่าห้องน้ำมีกลิ่นหอม สะอาด และมีสบู่เหลวกลิ่นหอมไว้ให้เราล้างมือด้วยนะ แซนเดอส์คอร์ทแอนด์คาเฟ่หรือที่เรารู้จักและเรียกติดปากกันว่าผู้พันแซนเดอร์ เป็นสัญลักษณ์ที่เมื่อคนนึกถึงไก่ทอดกรอบ ๆ ของเคเอฟซีแล้ว ก็ต้องนึกถึงผู้ก่อตั้งร้านด้วย เราเคยอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับร้านเคเอฟซีหลายครั้ง และนับถือใจของผู้ชายคนนี้ในเรื่องของความพยายาม เขาทำให้เราเชื่อในสุภาษิตไทยที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น เพราะกว่าที่จะมาเป็นร้านเคเอฟซีที่โด่งดังไปทั่วโลก ชายคนนี้เขาได้ลองผิดลองถูก และเริ่มมาจากแค่ร้านข้างถนน ถึงในตอนนี้ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่แต่เรื่องราวของท่าน และความอร่อยที่มาจากความพยายามของท่าน ยังส่งต่อมาให้เราทานจากรุ่นสู่รุ่น ป้ายในร้านเป็นรูปผู้พันแซนเดอส์ผู้ก่อตั้งเคเอฟซี บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ หลังจากที่เราเดินเข้ามาในร้านนี้แล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การสั่งอาหาร วิธีการสั่งอาหารคือ ต่อคิวจากทางด้านซ้ายมือ ระหว่างรอคิวก็มองดูเมนูที่เราอยากกิน แล้วเลือกไว้ในใจ เพราะเวลาที่สั่งอาหารจะได้รวดเร็วไม่เสียเวลา วันที่เราไปกินเป็นเวลาประมาณ 5 ทุ่ม คนไม่เยอะมากเท่าไหร่จึงรอคิวไม่ค่อยนาน วันนั้นเราไปกับเพื่อนอีกสองคน เราสั่งเป็นได่วิงค์แซ่บสามชิ้น ราคาประมาณ 59 บาท และน้ำรีฟิวส์ราคาประมาณ 49 บาท ส่วนเพื่อนเราสั่งเป็นบ็อกเซ็ทและชาเย็น ตอนที่เราไปร้านนี้ลดราคาน้ำ 50 เปอร์เซ็น เหลือแค่แก้วละ 19 บาทเท่านั้น มีสองรสชาติให้เลือกทั้งโกโก้ และชาไทย รออาหารประมาณ 15 นาที หลังจากที่เรายืนรออาหารประมาณ 15 นาที พนักงานจะเรียกคิว พร้อมถาดสีแดงที่มีอาหารอยู่ด้านใน เราสั่งน้ำรีฟิส์ ดังนั้นก่อนที่เราจะขึ้นชั้นสองไปกินอาหาร เราเลยแวะกดน้ำตรงชั้นหนึ่งก่อน ซึ่งหารู้ไม่ว่าชั้นสองก็มีที่กดน้ำ ถ้าใครที่ซื้อน้ำแบบรีฟิวส์สามารถกดเองและเติมได้ไม่อั้นตลอดเวลา ตู้กดน้ำมีน้ำให้เลือกมากกว่า 5 อย่าง หลัก ๆ ก็จะเป็นน้ำอัดลม พวกเป๊ปซี่ น้ำแดง น้ำส้ม แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำอัดลมก็มีชามะนาวของลิปตันไว้ให้ชื่นใจเหมือนกัน ตู้กดน้ำที่มีน้ำให้เลือกมากกว่า 5 อย่าง ทางขึ้นข้างบนไปชั้นสอง ชั้นแรกก็มีที่นั่งแต่จะเป็นแบบบาร์ พนักงานเลยแนะนำเราว่าให้ขึ้นไปนั่งข้างบนจะสะดวกสบายกว่าชั้นหนึ่ง และเงียบกว่า และอีกอย่างที่ทำให้เรารักร้านนี้เพราะ เขาเปิดเพลงที่เข้าใจวัยรุ่นอย่างเรา เป็นเพลงไทยฟังสบาย มีทั้งเพลงที่อยู่ในกระแสและเพลงนอกกระแส สร้างบรรยากาศที่ดีในการการนั่งกินอาหาร ทางขึ้นชั้นสองเป็นบรรไดแคบและค่อนข้างชัน ในช่วงที่เราไปมีคนนั่งด้านบนอยู่แค่โต๊ะเดียวเพราะคนที่ไปส่วนมาก จะเน้นเป็นการสั่งกลับบ้าน อาจจะด้วยเวลาตอนนั้นดึกแล้ว คนที่มานั่งจึงน้อย ส่วนเราและเพื่อนที่ไปด้วยกันไม่ซีเรียสเรื่องเวลา เพราะวันที่ไปทานเป็นวันศุกร์ เสาร์อาหารก็เป็นเวลาที่เราได้พักผ่อนจากการเรียนที่หนักหน่วงมาทั้งอาทิตย์ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าการมากินอาหารที่คนเรียกว่าจั๊งฟู๊ดในช่วงดึก ไม่ได้เป็นการลงโทษร่างกายตัวเอง แต่เป็นเหมือนการให้รางวัลตัวเองต่างหากเพราะ ได้มากินของที่ชอบ กับได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่าง ๆ กับเพื่อนที่เรารัก รูปผู้พันแซนเดอส์ตรงทางขึ้นบันได รูปผู้พันแซนเดอส์ตรงทางขึ้นบันได ภาพสิ่งที่สวยงามและมีเรื่องราว ระหว่างที่เราขึ้นบันได เราก็ต้องสะดุดตากับภาพของคุณแซนเดอส์ เป็นรูปเดี่ยว ๆ ของท่าน และเป็นรูปที่ท่านกำลังทำอาหาร ชิมอาหาร ซึ่งเราสัมผัสได้เลยว่าทานมีความตั้งใจในการสร้างร้านนี้มากแค่ไหน ความพยายามของท่านส่งผลต่อใจเรามาก เพราะตอนนั้นเหมือนเรากำลังรู้สึกแย่เรื่องเรียน เลยคิดว่าตอนนี้ตัวเองพยายามพอรึยัง ถ้ายังก็ต้องพยายามต่อไป เพราะสักวันคงเป็นวันของเรา ชั้นสองมีที่นั่งหล้ายโซนและกว้างขวาง ไก่ทอดกรอบและไก่วิงค์แซ่บ โกโก้ ชั้นสองมีพื้นที่กว้างขวางและมีหลายโซน เราเลือกนั่งเป็นที่นั่งที่ติดกับริมระเบียง มองลงไปตรงช่องเล็ก ๆ จะเห็นชั้นหนึ่ง นั่งสบาย รอบ ๆ จะมีส่วนของห้องน้ำ เป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าใช้บริการได้ทีละคน แต่สะอาดมาก ด้านข้างจะเป็นตู้กดน้ำรีฟิวส์ ที่กดซอสพริก ซอสมะเขือเทศ อุปกรณ์ในการทานเช่น ช้อน มีดพลาสติด และเมื่อทานเสร็จแล้วก็ต้องเอาถาดไปเก็บ พร้อมแยกขยะให้เรียบร้อย พูดถึงเรื่องไก่ทอด เคเอฟซีคือหนึ่งในดวงใจ ถ้าพูดถึงเรื่องรสชาติของไก่ทอด เคเอฟซีเป็นที่หนึ่งในดวงใจของเราตลอดการ เพราะด้วยกรรมวิธีการหมัก การทอดที่เป็นสูตรลับเฉพาะที่ทำให้ไก่มีความหอมพร้อมทั้งความกรอบนอกนุ่มใน จิ้มกับซอสมะเขือผสมซอสพริกอร่อยเข้ากันอย่างลงตัว แต่สำหรับวิงค์แซ่บ เราจะกินแบบไม่จิ้มซอสเพราะด้านอกของไก่มีความเข้มข้นอยู่แล้ว น้ำโกโก้มอลต์ ช่วงที่เราไปลดราคา 50 เปอร์เซนต์เหลือเพียงแก้วละ 19 บาท รสชาติมีความหวาน เย็นชื่นใจ หอมโกโก้ แต่จะเป็นโกโก้แบบไม่เข้มข้น น่าจะถูกปากสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องอื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม ⭐ เราทานอาหารเสร็จประมาณเที่ยงคืน มีความสุขมาก เพราะอาหารอร่อย บรรยากาศที่ร้านดี และได้พูดคุยเม้าท์มอยกับเพื่อนสนิทที่คอยรับฟังเราเสมอ เหมือนเป็นเวลาที่เรารีเรคจริง ๆ เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมหาเวลาว่างให้ตัวเองได้พักผ่อน และหาอาหารอร่อย ๆ ทานเป็นรางวัลชีวิตนะ หรือถ้ายังไม่มีร้านในใจ เราขอแนะนำร้านเคเอฟซี สาขา ปั๊มน้ำมันพีที สาขาศาลอาญารัชดา :)