บวบงูผักพื้น กินดิบได้ไหม? คำถามที่หลายคนอยากรู้ ในหมู่ผักพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปตามสวนครัวไทย “บวบงู” ถือเป็นผักที่มีรูปร่างโดดเด่นและชวนสะดุดตา ด้วยลักษณะเรียวยาว คล้ายงู สมชื่อที่เรียกขานกันมา บางพื้นที่เรียกว่า “บวบหอม” หรือ “บวบเหลี่ยมงู” บวบชนิดนี้มักปลูกง่าย โตไว และให้ผลผลิตดี จึงเป็นที่นิยมของเกษตรกรรายย่อยอย่างมาก แต่หลายคนเมื่อเห็นบวบงูครั้งแรกก็มักมีคำถามตามมาทันทีว่า “กินดิบได้ไหม?” บางคนอยากนำมาจิ้มน้ำพริก บางคนอยากใช้ในสลัด หรือกินคู่กับลาบ ก้อย โดยไม่ผ่านความร้อน แล้วจริงๆ แล้วบวบงูกินดิบได้หรือไม่? มีกลิ่นหรือรสชาติเป็นอย่างไร? อันตรายหรือเปล่า? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับบวบงูให้ลึกขึ้น ลักษณะของบวบงู : บวบงูเป็นพืชเถาเลื้อย มีลำต้นเลื้อยได้ไกล ใบคล้ายรูปหัวใจ ขอบหยัก ผลมีลักษณะเรียวยาว ผิวสีเขียวเข้มหรือเขียวอ่อน มีลายสีขาวอ่อนพาดตามยาว บางลูกยาวได้ถึง 1 เมตร แต่โดยทั่วไปจะเก็บกินตอนที่ผลยังไม่แก่ ความยาวประมาณ 30-50 ซม. เนื้อในของบวบงูมีสีขาวนวล นุ่มแน่น มีเมล็ดเล็กๆ ฝังอยู่ภายในผิวด้านนอกไม่แข็งหรือสากมือเท่าบวบเหลี่ยมหรือบวบหอมทั่วไป เมื่อปอกเปลือกแล้วจะได้เนื้อสีขาวสะอาด กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายแตงร้านหรือฟักเขียว รสชาติและกลิ่นของบวบงู : หากพูดถึงเรื่องรสชาติ บวบงูมีรสอ่อนๆ ไม่หวานจัด ไม่ขม ไม่ฝาด กลิ่นหอมอ่อนแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากบวบทั่วไปที่มักมีกลิ่นเขียวแรงกว่า และอาจมีรสฝาดหรือขื่นเล็กน้อยหากเก็บแก่ไป เมื่อนำมาต้ม ผัด หรือตุ๋น บวบงูจะมีเนื้อที่นุ่มแต่ไม่เละ คล้ายเนื้อฟักผสมกับแตงกวา จึงเหมาะกับเมนูซุป ต้มจืด แกงส้ม หรือผัดไข่ และยังสามารถนำมานึ่งจิ้มน้ำพริกได้ดีอีกด้วย แล้วบวบงูกินดิบได้ไหม? : คำตอบคือ “สามารถกินดิบได้” — แต่ควรเลือกผลที่อ่อน สดใหม่ และปลอดสารพิษ หลายพื้นที่ในภาคอีสานและภาคเหนือของไทยนิยมกินบวบงูสดเป็นเครื่องเคียงน้ำพริก ลาบ น้ำตก หรือก้อย ซึ่งแสดงว่าบวบงูสามารถบริโภคในรูปแบบดิบได้จริง และปลอดภัยสำหรับคนที่ไม่มีอาการแพ้พืช อย่างไรก็ตาม การกินดิบต้องคำนึงถึงความสะอาด เพราะผิวบวบงูสัมผัสกับพื้นดินและแมลงในสวนโดยตรง ควรล้างให้สะอาดหรือแช่น้ำด่างทับทิมก่อนปอกเปลือก และไม่ควรเลือกผลที่แก่จัด เพราะเมล็ดเริ่มแข็งและเนื้ออาจมีรสขื่นเล็กน้อย ข้อควรระวังในการบริโภคบวบงูดิบ แม้ว่าบวบงูสามารถกินดิบได้ แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อย: ต้องแน่ใจว่าปลอดสารเคมี: เพราะบวบเป็นพืชที่ดูดซับสารเคมีจากดินและสารพ่นได้ดี ควรเลือกผลอ่อน: เพราะผลแก่จะมีรสขื่นและเมล็ดแข็ง ทำให้ไม่เหมาะกับการกินดิบ จากประสบการณ์จริงของผู้เขียน ผู้เขียนเองเคยได้ลองชิมบวบงูดิบจากสวนหลังบ้านของญาติที่จังหวัดอุบลราชธานี ตอนแรกไม่กล้ากินนัก เพราะเข้าใจว่าบวบต้องทำให้สุกก่อนเหมือนที่เคยทำกับบวบหอม แต่เมื่อเห็นว่าคนในครอบครัวเฉาะสดๆ แล้วจิ้มน้ำพริกอย่างเอร็ดอร่อย จึงลองชิมดูบ้าง ผลที่ได้คือ รสชาติสด กรอบ เย็นนิดๆ คล้ายแตงกวาผสมฟัก กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่เหม็นเขียวเลย รู้สึกสดชื่นในปาก และเข้ากับน้ำพริกปลาร้าได้ดีมาก แถมหลังจากกินแล้วก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ หลังจากนั้นผู้เขียนจึงลองปลูกเองที่บ้าน และเก็บมากินดิบเป็นผักแนมกับอาหารอีสานอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องการลดการใช้น้ำมันในอาหาร บวบงูเป็นผักพื้นบ้านที่น่ารู้จักมากขึ้น ทั้งในแง่รสชาติ กลิ่น สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “บวบงูกินดิบได้ไหม?” คำตอบคือ “ได้” หากเลือกผลอ่อน สะอาด และปลอดสารพิษ รสชาติกรอบ หอม อ่อนนุ่ม และเป็นทางเลือกที่ดี และผู้ที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่กับผักไทยพื้นบ้านชนิดนี้ ภาพประกอบหน้าปกโดย กาลครั้งหนึ่งไม่นาน ออกแบบโดย canva ภาพประกอบเนื้อหาโดย กาลครั้งหนึ่งไม่นาน บทความที่น่าสนใจ วิธีเก็บมังคุดให้อยู่ได้นานๆ – จากประสบการณ์จริงของคนสวน มะเขือเปราะ ผักพื้นบ้านคู่ครัวไทย 5 ผักรสขม ที่คุณอาจยังไม่เคยลอง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !