ลูกหว้า ผลไม้ป่า รสเปรี้ยวอมหวาน มีที่ไหน | บทความโดย Pchalisaใครจะรู้ว่าผลไม้ป่าเล็กๆ อย่างลูกหว้า จะมีเสน่ห์ดึงดูดใจคนได้มากมายขนาดนี้! ในปัจจุบัน ที่เดิมทีนั้นลูกหว้าเป็นเพียงผลไม้ที่อยู่ในป่า แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เปรี้ยวอมหวานกำลังดี ทำให้ลูกหว้ากลายเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบและตามหา อีกทั้งยังสามารถนำมาขายทำเงินได้ด้วย ในขณะที่หลายคนก็ค้นเคยกับลูกหว้ามาตลอดชีวิต แต่บางคนก็อาจสงสัยว่า ลูกหว้ามีอยู่ที่ไหนบ้าง?ในบทความนี้จะพามารู้จักลูกหว้ามากขึ้นค่ะ พร้อมทั้งผู้เขียนยังต้องการแนะนำวิธีการเลือกซื้อลูกหว้า ซึ่งถ้าไปเก็บเองต้องเก็บแบบไหน และถ้าเก็บมาเยอะเกินไปแล้ว ควรจะรักษาความสดใหม่ยังไงดี ที่ได้จากประสบการณ์ตรงเลย และมีความน่าสนใจมากๆ เพราะใช่ว่าทุกคนจะเคยได้เรียนรู้เรื่องนี้มาโดยตรงนะคะ ดังนั้นถ้าอยากรู้เรื่องนี้แล้ว มาอ่านต่อให้จบกันเลยค่ะต้นหว้า เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่มีลักษณะดอกน่ารักและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ค่ะ ที่ดอกหว้าส่วนใหญ่จะมีสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน แต่บางสายพันธุ์อาจมีสีชมพูอ่อน โดยดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอก 4 กลีบ เรียงตัวคล้ายกางเขน ดอกจะออกเป็นช่อ ตามซอกใบหรือปลายยอด ช่อดอกมีลักษณะคล้ายร่ม ดอกหว้ามีกลิ่นหอมชื่นใจค่ะ และที่นี่ผู้เขียนมีต้นหว้าเหมือนกันค่ะ มีหนึ่งต้นที่หัวนาสำหรับปลูกข้าวของตัวเอง ไม่ได้ปลูกค่ะ แต่เป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ได้อนุรักษ์เอาไว้ ตอนนี้ต้นก็ใหญ่และสูงมาก สูงท่วมหลังคาบ้านเลยค่ะ ตอนลูกหว้าออกผล ต้นหว้าต้นนี้ให้ลูกหว้าที่พอทานได้ค่ะ ไม่ได้อร่อยมากคือจากที่ผู้เขียนไปชิมมาหลายๆ ต้น ต้นอื่นรสชาติดีกว่ามาก ซึ่งต้นนี้ฝาดนำค่ะ ดังนั้นในตอนหลังมาเลยไม่ได้สนใจต้นหว้าของตัวเองมากนัก และปล่อยให้เป็นอาหารตามธรรมชาติของพวกนก หนูและกระรอกค่ะ ขณะที่ต้นหว้าของผู้เขียนให้ลูกหว้าที่ไม่อร่อย แต่ผู้เขียนก็ยังได้ร่มเงาจากต้นหว้าต้นนี้นะคะ ยิ่งไปกว่านั้นหากต้องการขายไม้จากต้นหว้า ก็ยังสามารถทำได้อีกเช่นเดียวกันค่ะต้นหว้าสามารถออกผลเป็นผลไม้ได้ และเราเรียกสิ่งนี้ว่า “ลูกหว้า” ลูกหว้าบางต้นก็ผลใหญ่ บางต้นก็มีขนาดเล็ก แต่ทั้งหมดมีลักษณะกลมรี เปลือกมีสีม่วงดำ เมื่อสุกเนื้อด้านมักมีในสีม่วงปนสีขาวนะคะ เมื่อทานเข้าไปรสชาติแรกที่เราจะสัมผัสได้คือรสฝาด หากลูกหว้าลูกนั้นยังสุกไม่เต็มที่ แต่โดยทั่วไปถ้าเป็นลูกที่แก่และสุกพอดีทาน มักมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวค่ะ ด้านในมีเมล็ดขนาดใหญ่ ลูกหว้าเป็นผลไม้ตามฤดูกาลที่หลายคนรอคอยค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วฤดูกาลของลูกหว้าในประเทศไทย มักจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนถึงปลายฤดูฝน คือประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนค่ะโดยสรุปแล้วลูกหว้าที่ดี ต้องเป็นลูกหว้าที่สุกกำลังดี เพราะแบบนี้รสชาติจะหวานฉ่ำและมีเปรี้ยวซ่อนอยู่เล็กน้อยค่ะ ส่วนลูกหว้าที่ยังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวนัก และอาจมีรสฝาดเล็กน้อย แต่บางสายพันธุ์ของลูกหว้าอาจมีรสฝาดนำโด่งเหมือนของผู้เขียน โดยเฉพาะลูกหว้าที่ยังไม่สุกเต็มที่ เมื่อบีบเบาๆ จะรู้สึกได้ถึงความนุ่มเล็กน้อย แต่ไม่เละค่ะ ก้านควรสดและติดแน่นกับผล และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบนี้คือลูกหว้าน่าซื้อและน่าเก็บมาทานค่ะคนแถวนี้ชอบทานลูกหว้าแบบสดๆ มากกว่านำไปแปรรูปหรือทำน้ำปั่นลูกหว้าค่ะ การทานสดที่ง่ายที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การนำลูกหว้ามาล้างให้สะอาด แล้วทานเลยค่ะ ถ้าหากว่าต้องการทานทีหลัง ให้เก็บลูกหว้าไว้ในอุณหภูมิห้องได้ แต่ควรเก็บในที่เย็นและแห้งนะคะ และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เราสามารถเก็บลูกหว้าในตู้เย็นได้ด้วย การแช่เย็นทำให้ลูกหว้ายังคงสดและน่าทาน ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเก็บลูกหว้าที่ช้ำหรือมีรอยตำหนิมานะคะ เพราะจะทำให้ลูกหว้าเสียเร็วขึ้น และให้หลีกเลี่ยงการเก็บลูกหว้าไว้ในที่อับชื้น เพราะจะทำให้ลูกหว้าเน่าเสียได้ง่าย ควรเลือกซื้อลูกหว้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในความสดและคุณภาพค่ะ เพราะการทานลูกหว้าที่สุกเต็มที่ ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งในประเด็นนี้ผู้เขียนก็ทำค่ะ โดยถ้ามีโอกาสได้ไปเก็บลูกหว้า ก็ยังเลือกแต่ลูกที่ดี ไม่เน่าและไม่เละกลับมาบ้านค่ะ ลูกที่ยังไม่สุกเต็มที่ก็ไม่เอา ตอนเก็บก็พยายามระวังไม่ให้ลูกหว้าเละค่ะโดยครั้งสุดท้ายที่ได้ไปเก็บลูกหว้า ได้เอาเปลนอนมารองรับลูกหว้า ในระหว่างที่สอยออกมาจากต้นด้วยไม้ยาวๆ ค่ะ การสอยโดยส่วนมากจะใช้การเขย่าไปที่กิ่งที่ไม่ใหญ่มากนัก และมีลูกหว้าที่สุกเต็มที่กระจุกตัวกันอยู่ สอยแล้วก็เก็บใส่กล่องและถุง พอเคลียร์รอบแรกแล้ว ก็สอยใหม่คัดลูกหว้าชุดใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราได้ลูกหว้าตามที่ต้องการค่ะ ที่มาผ่านผู้เขียนเคยทำทั้งสองอย่างมาแล้ว คือ เก็บลูกหว้าฟรีจากต้นข้างถนน และซื้อลูกหว้าจากที่ชาวบ้านเก็บมาขายที่ตลาดค่ะ ก็อร่อยดีและทานแล้วตาสว่างดีค่ะจากที่ผู้เขียนได้สังเกตมานั้น ปัจจุบันต้นหว้าตามธรรมชาติหายไปมากขึ้นค่ะ อีกทั้งบางต้นให้รสชาติที่ไม่น่าพึงพอใจมากนัก เจ้าของก็มักจะตัดทิ้ง ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคต ลูกหว้าอาจกลายเป็นของหายากก็เป็นได้ ที่เริ่มต้นจากการเป็นผลไม้ป่ามาก่อน ก็ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านเคยทานลูกหว้าไหม? ยังไงลองมองหาผลไม้ป่าชนิดนี้ตามตลาดของป่าดูคะถ้าใกล้เคียงกีบผู้เขียนตอนนี้ก็คือตลาดโคกอีโด่ย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว แต่ก็ต้องรอให้ถึงฤดูกาลของลูกหว้าก่อนนะคะ และจริงๆ แล้วในช่วงที่ลูกหว้าออกมาก เราสามารถซื้อลูกหว้าได้ในราคาย่อมเยาว์ที่ตลาดค่ะ และก่อนจะจบบทความนี้ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😁เครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียนออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaเกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูลจบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://intrend.trueid.net/post/411012 https://intrend.trueid.net/post/429327 https://intrend.trueid.net/post/411076เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !