หากพูดถึงชื่อเมนูที่เกี่ยวข้องกับหน่อไม้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักและส่วนใหญ่เคยกินเมนูนี้ นั่นก็คือ ผัดกะเพราหน่อไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ซึ่งเป็นเมนูทำง่าย รสชาติอร่อย แต่ในบางครั้งก็ทำยากเหมือนกัน ถ้าหากใครที่ไม่เคยทำ เพราะต้องทำตั้งแต่การสับหน่อไม้ การต้ม จนถึงกระบวนการปรุงอาหาร แต่ถ้าใครที่ซื้อเป็นหน่อไม้ถุงที่เขาสับไว้แล้ว อันนี้ก็ค่อนข้างทำง่าย และเหมาะสำหรับหลายคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการทำอาหารที่มีกระบวนการยาวนาน แต่อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่มีวิถีการกินอาหารที่เปลี่ยนไป จากการทำอาหารกินเอง ไปสู่การกินอาหารแบบ Fast food ซึ่งกินง่าย สะดวก เหมาะกับ Life style ที่มีเวลาน้อยและยุ่งอยู่กับงาน ซึ่งในบทความนี้ ผมขอเสนอเมนูผัดกะเพราหน่อไม้ เพื่อเป็นแนวทางในการทำอาหารสำหรับมือใหม่ หรือท่านใดที่ทำเป็นแล้ว แต่อยากดูสูตรการทำที่แตกต่างกัน แต่สูตรของผมก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่หรอกครับ เชิญชมกันได้เลย ขั้นตอนการทำผัดกะเพราหน่อไม้ 1. อันดับแรก ถ้าเรามีหน่อไม้สดหรือหน่อไม้ถุง ให้สับเป็นเส้นแล้วนำไปต้มในน้ำ ไฟปานกลาง เป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อลดปริมาณไซยาไนด์ในหน่อไม้ ขณะต้มควรเปลี่ยนถ่ายน้ำเปล่า 2-3 ครั้ง เพื่อให้น้ำต้มมีรสชาติขมน้อยลง และทำให้หน่อไม้รสชาติหวานไวขึ้นอีกด้วย เมื่อต้มเสร็จแล้วก็ลองชิม ถ้าหากหน่อไม้มีรสชาติขมให้ต้มต่อไป แต่ถ้ามีรสชาติออกหวานหรือรสชาติจืดแล้ว เป็นอันว่าได้ที่แล้ว จากนั้นตักขึ้นพักในภาชนะ 2. เตรียมเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้ครบ ประกอบด้วย พริกกระเทียมโขลก ซอสหอย ซอสภูเขาทอง น้ำตาล น้ำปลา ใบกะเพรา และไข่ไก่ 1 ฟอง โดยใส่น้ำตาลประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้รสชาติออกหวาน น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ ส่วนเครื่องปรุงชนิดอื่น ให้ใส่พอเหมาะพอควร 3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเดือดให้ใส่พริกกระเทียมโขลกลงไป พอมีกลิ่นหอมขึ้นมา ตอกไข่ลงไปพร้อมกับตีไข่ให้แตก พอไข่เริ่มสุกให้ใส่หน่อไม้ลงไป จากนั้นผัดให้เข้ากับหน่อไม้ แล้วปรุงรส เมื่อรสชาติได้ที่แล้ว ให้ใส่ใบกะเพราลงไป ใส่เยอะยิ่งอร่อยนะครับ จากนั้นผัดต่ออีกสักนิด เพื่อให้ใบกะเพรายุบตัว เสร็จแล้วจะได้ผัดกะเพราหน่อไม้ที่แสนอร่อย จะกินกับข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวก็แซ่บโดนใจ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับวิธีการทำผัดกะเพราหน่อไม้ ดูคร่าว ๆ อาจมองว่าทำยาก แต่ถ้าได้ลองทำอาจติดใจก็ได้นะครับ สุดท้ายนี้อยากฝากให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ยุคใหม่ ให้หัดทำอาหารไทยไว้ เพราะนอกจากจะลดรายจ่ายค่าอาหาร ยังสามารถเป็นอาชีพในอนาคตได้เลยนะครับ สำหรับบทความนี้ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ สวัสดีครับ