สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้มาเอาใจคนรักเบเกอรี่กันค่ะ เรามีสูตรเค้กไข่ไต้หวันที่ทั้งเด้งดึ๋ง หอม อร่อย ทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยเลยนำสูตรมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ หรือใครที่จะทำขายก็ง่ายมากเลย เป็นเมนูที่น่าสนใจสำหรับขนมอบที่ไม่ไปไต้หวันก็ทานได้ สำหรับสูตรเค้กไข่ไต้หวัน ของ Castella นอกจากสูตรดั้งเดิม ได้เพิ่มรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยมีด้วยกันทั้งหมด 6 สูตร ได้แก่ สูตรชีส (ประยุกต์จากสูตรเดิม ใส่ชีสเข้าไป) กาแฟ ช็อคโกแลต น้ำผึ้ง ใบเตย โดยสูตรที่ได้รับความนิยม คือ สูตรดั้งเดิม และ ใบเตย ส่วนราคาขายสูตรดั้งเดิม ส่วนการรับประทานเค้กไข่ไต้หวัน กินได้ทั้งกินร้อน และกินเย็น เพราะเป็นขนมโบราณ ซึ่งในอดีตไม่มีตู้เย็น นิยมทำกินสด อบเสร็จก็กินเลย แต่พอมายุคปัจจุบัน คนรุ่นใหม่นิยมรับประทานเย็น ๆ ก็เลยมีเค้กไข่แช่เย็น และดูเหมือนจะได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มากกว่ากินร้อน ซึ่งได้รสชาติไปอีกแบบหนึ่ง สูตรในการทำเค้กไข่ไต้หวัน และส่วนผสมส่วนผสม ไข่ขาว มีดังนี้ (ไข่ขาว เบอร์ 2 ไข่ 7 ฟอง) 1. ครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือน้ำมะนาว) 1 ช้อนชา 2. น้ำตาลทราย 100-120 กรัม (สามารถเพิ่ม-ลดน้ำตาลได้ค่ะ) 3.แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา ส่วนผสม ของไข่แดง มีดังนี้ 1. ไข่แดง (เบอร์ 2) 7 ฟอง 2.กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา 3. น้ำมันพืช 100 กรัม 4.แป้งเค้ก 150 กรัม 5.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 6. นมข้นจืด 145 กรัม วิธีทำ ขั้นตอนที่ 1 เราจะมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อนนะคะ แยกไข่แดง ไข่ขาว หลังจากนั้นร่อนแป้ง+เกลือป่น ถ้าอยากได้เค้กที่เนื้อละเอียดก็ร่อนสัก 2 รอบ การร่อนแป้งจะทำให้กรองเศษฝุ่น และระหว่างที่ร่อนแป้ง อากาศจะเข้าแทรกระหว่างเนื้อแป้งทำให้แป้งฟูและเบาขึ้นไปอีกค่ะ จากนั้นก็ตวงส่วนผสมที่เป็นของเหลว คือนมข้นจืด น้ำมันพืชและน้ำตาลทราย ขั้นตอนที่ 2 เทน้ำมันพืชใส่หม้อตั้งไฟจนน้ำมันร้อน เสร็จแล้วดับเตา หรือนำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที นำแป้งเค้กใส่ลงไปผสมกับน้ำมัน ขั้นตอนนี้ทำให้เค้กมีความนุ่มและเบาโดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเสริมใดๆ ไขมันจะเคลือบแป้งไว้ ไม่ให้แป้งสัมผัสกับน้ำ เพราะเวลาที่แป้งสัมผัสกับน้ำหรือของเหลวจะทำให้เกิดกลูเต็นค่ะ กลูเต็นจะมีความเหนียว ถ้าตะล่อมแป้งกับน้ำนานๆจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กเหนียวได้ค่ะ ขั้นตอนที่ 3 ใช้ไม้พายคนให้คลายร้อนลงบ้างหลังจากนั้นใส่นมข้นจืด เพื่อเพิ่มความหอมนุ่มและรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น หลังจากนั้นคนหรือตะล่อมให้เข้ากัน ขั้นตอนที่ 4 ใส่ไข่แดงลงไปตามเพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวานิลาตะล่อมให้เข้ากันและพักไว้ ขั้นตอนที่ 5 ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ หลังจากนั้นใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ (ครีมออฟทาร์ทาร์จะช่วยทำให้ไข่ตีขึ้นฟูง่าและทำให้ฟองอากาศที่ตีอัดเข้าไปมีความอยู่ตัวมากขึ้น ไม่ยุบตัวง่าย) ตีพอเข้ากัน ตามด้วยแป้งข้าวโพด และทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป (น้ำตาลทรายแบ่งใส่สัก 3 รอบค่ะ ถ้าใส่ไปทีเดียวฟองอากาศอาจจะยุบตัวได้ และน้ำตาลก็จะละลายช้าด้วยค่ะ ขั้นตอนที่ 6 ตักเมอแรงค์หรือไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามผสมไข่แดง ถ้าใส่ไปทีเดียวหมดจะผสมเข้ากันยากกว่า และทำให้เสียฟองอากาศเยอะ เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กไม่ขึ้นฟู ตะล่อมเบาจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน ขั้นตอนที่ 7 เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้(พิมพ์รองด้วยกระดาษไข อย่าลืมทาไขมันหรือเนยบนถาดด้วยนะคะก่อนเอากระดาษไขรองเคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง ถ้ายังมีฟองอยู่ก็เอาไม้จิ้มฟันเจาะฟองออก เค้กอบมาหน้าจะได้สวย ๆ ไม่มีรูพรุนค่ะ ขั้นตอนที่ 8 นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150-160 ํ C บนถาดน้ำร้อน เป็นเวลา 35-40 นาที แล้วแต่เตาแต่ละบ้านด้วยนะคะ บางเตาอาจจะอบนานถึง 50 นาที เลยก็ได้ค่ะ (การอบบนถาดน้ำร้อนจะทำให้เค้กมีความชุ่มชื้นขึ้นค่ะ)เปิดไฟบนล่าง ปิดพัดลม หลังจากนั้นอบไล่ความชื้นเอาถาดรองน้ำร้อนออก อบต่อด้วยอุณหภูมิ 150-160 ํ C เป็นเวลา 8-10 นาที เปิดไฟบนล่าง ปิดพัดลม เช็คสุกโดยเอาไม้ปลายแหลมจิ้มลงไป ถ้าไม่มีเศษเค้กแฉะๆติดออกมา แสดงว่าเค้กสุกดีแล้วค่ะ ถ้าไม่สะดวกรองด้วยถาดน้ำ ก็สามารถอบแบบธรรมดา ด้วยอุณหภูมิ 150-160 ํ C เป็นเวลา 30-35 นาที ค่ะ ขั้นตอนที่ 9 พออบเสร็จนำออกมาพักให้อุ่นลงประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเอาเค้กออกจากพิมพ์ค่ะ ขั้นตอนที่ 10 ลอกกระดาษไขออกตัวเค้ก ขั้นตอนที่11 พลิกเค้กอีกด้านขึ้นมา ให้ได้ด้านบนที่สวยงาม และตัดขนาดตามใจชอบได้เลยค่ะค่ะ เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ นำไปใส่จานทานได้เลย ง่ายแค่นี้เอง สำหรับสูตรเค้กไข่ไต้หวันง่ายใช่ไหมค่ะ เพื่อนๆก็อย่าลืมไปทำทานกันดูนะคะ ขอบคุณภาพจากเพจ Facebook ครัวป้ามารายห์ https://m.facebook.com/JigaleeBakery/